ดังตฤณวิสัชนา Dungtrin's Answer

การนั่งสมาธิช่วยแก้กรรมได้จริงไหม



ถาม - การนั่งสมาธิช่วยแก้กรรมได้อย่างไร อยากทราบประโยชน์ของการนั่งสมาธิ
เพื่อเป็นกำลังใจในการปฏิบัติค่ะ


ตรงนี้นะเราย้อนกลับไปในช่วงเริ่มต้น
ที่บอกว่านั่งสมาธิด้วยความคาดหวังว่าจะเอาอะไรสักอย่างหนึ่ง
แล้วอย่างในกรณีนี้คืออยากจะนั่งสมาธิเพื่อแก้กรรม
การนั่งสมาธิคือกการรีเซ็ตจิต มันแก้กรรมทางความคิดได้ทันที
แต่คุณต้องเข้าใจจริงๆนะว่าคำว่า "แก้กรรม" ในที่นี้
มันแก้กรรมอันเป็นปัจจุบันไม่ใช่อดีตกรรม
ไม่ใช่กรรมเก่า ไม่ใช่สิ่งที่มันเป็นวิบากกรรม

วิบากกรรมของเรามีหลายอย่าง
ภาวะจิตภาวะใจภาวะทางกาย อย่างนี้ก็คือวิบากกรรม
ถ้าเรานั่งสมาธิแล้วร่างกายผ่องใส มีออร่า ใครต่อใครทัก โอ้โห ดูมีออร่าจังเลย
นี่ก็เรียกว่าทำให้ของเก่ามันดีขึ้นแล้ว วิบากมันเปลี่ยนไปทางรูปร่างหน้าตา
วิบากมันต่างไปในทางจิตใจที่มันผ่องแผ้ว มันสบายขึ้น
ไม่อึดอัด ไม่วกวน ไม่ปั่นป่วนเหมือนเวลาปกติ
ภาวะของใจที่มันปั่นป่วนฟุ้งซ่านมากๆ
นี่ก็คือวิบากอย่างหนึ่งนะ เป็นวิบากกรรมอย่างหนึ่ง



เวลาที่เราจะดูว่าสมาธิมันช่วยอะไรเราอย่างเป็นปัจจุบันได้บ้าง
ให้ดูว่ามันคิดดีขึ้นได้บ้างไหม
ถ้านั่งสมาธิแล้วใจคอดีขึ้น คิดอะไรต่อมิอะไร มองโลกได้ดีขึ้น
นี่เรียกว่าแก้กรรมทางความคิด มโนกรรมของเราดีขึ้นทันตาเห็น ไม่ต้องรอชาติหน้า
ร่างกายของเรามีความรู้สึกเหมือนกับเบาเนื้อเบาตัว
มีความรู้สึกว่าผ่อนคลายไปทั้งตัว ไม่มีส่วนไหนเลยที่มันเกร็ง ที่มันเครียดอย่างสูญเปล่า
นี่เรียกว่าเป็นการทำให้ของเก่าดีขึ้นแล้ว


ทีนี้ถ้าจะไปคาดหวังเรื่องชะตา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งนะคนกำลังรู้สึกเข้าตาจน
เรื่องเงิน เรื่องคนรัก เรื่องการงาน หรือว่าเรื่องอนาคตอะไรก็แล้วแต่
ที่มันรู้สึกว่าเป็นเรื่องใหญ่ แล้วเรื่องใหญ่นี้เป็นเรื่องไม่ดี เป็นเรื่องมืดๆ
ก็ได้รับคำแนะนำบอกว่านั่งสมาธิแล้วจะช่วยได้
บางคนแค่มานั่งหลับตาเป็นพิธี ยังไม่ทันมีความสว่างไสวทางใจอะไรขึ้นมาเลย
ก็คาดหมายแล้วว่าการนั่งสมาธินี้จะไปช่วยแก้ชะตาให้มันดีขึ้นได้
ซึ่งพอมันไม่ดีขึ้นก็เกิดความผิดหวัง ไปคาดไว้ผิดๆ มันก็เกิดความผิดหวัง

แล้วก็ท้อ ไม่เห็นพอยต์ว่าจะทำสมาธิไปทำไมต่อ



แต่ถ้าเราเตรียมใจไว้อย่างถูกต้อง คือคาดหมายไว้ว่าการนั่งสมาธิที่ถูก
จะทำให้เรามีความสามารถเห็นเข้ามาในกายใจนี้โดยความเป็นของไม่เที่ยง
เพื่อความไม่ยึด เพื่อทำลายความตระหนี่ถี่เหนียว
เพื่อทำลายเกราะหรือว่ากรอบคับแคบ
ที่มันเกาะกุมความคิดเราอยู่ มันกักหัวกักอกเราอยู่
ถ้าเตรียมใจไว้อย่างนี้ ทำไว้ในใจอย่างนี้ แล้วมันรู้สึกว่าได้ผลนะ
แต่ละครั้งที่เรามีสมาธิ เกิดความปล่อยวางกายใจ
มันทุกข์น้อยลง มีสติในการแก้ปัญหามากขึ้น
มีกำลังใจที่จะจัดการกับอนาคตของตัวเองมากขึ้น
แบบนี้มันจะอยากกลับมานั่งสมาธิอีกเพื่อที่จะมาชาร์จแบต
เป็นการชาร์จแบตแบบถูกทิศถูกทาง มีการเตรียมใจ มีการทำใจทุกครั้ง
ว่าเราจะเห็นความไม่เที่ยงทั้งขาขึ้นขาลง ทั้งภาวะที่แย่แล้วก็ภาวะที่มันดี



เห็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ มันจะรู้สึกว่าข้างนอกมันก็ไม่เที่ยงเหมือนกัน
มันแล้วแต่วัน วันไหนเหตุปัจจัยดี ข้างนอกมันก็ดี
วันไหนเหตุปัจจัยไม่ดี ข้างนอกก็ร้ายใส่เรา


แล้วเราจะรู้สึกว่ามันจะผ่านมาแล้วผ่านไปไม่ต่างอะไรกับลมหายใจนั่นแหละ
นี่ตัวนี้นะ ผมพูดสั้นๆ แค่นี้ จริงๆ แล้วคุณจำไว้ นึกถึงได้ตลอดไปเลยนะ
สมาธิแก้มโนกรรมที่มันไม่ดี ให้มันดีขึ้นได้
เปลี่ยนจากความคิดลบให้กลายเป็นความคิดบวกได้

นี่มโนกรรมมันดีขึ้นแล้ว เป็นการแก้กรรมจริงๆ
แก้กรรม โดยความหมายของคำว่ากรรมคือเจตนา เจตนาคือกรรม

ถ้าคิดดีได้ก็คือเจตนาดีขึ้น ถ้าคิดดีไม่ได้ก็คือเปลี่ยนใจตัวเองไม่ได้
เปลี่ยนเจตนาตัวเองไม่ได้ แก้กรรมไม่ได้

เข้าใจไว้อย่างนี้นะครับ


แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP