ดังตฤณวิสัชนา Dungtrin's Answer

ทำบุญมาอย่างไรจึงส่งผลให้ได้ลาภลอยก้อนใหญ่



ถาม - คนที่ถูกหวยรางวัลที่หนึ่งหรือได้ลาภก่อนใหญ่จนชีวิตเปลี่ยนไปนั้น เขาทำบุญมาอย่างไรครับ
และการที่บางคนอ้างว่าซื้อหวยทั้งที่ถูกกฎหมายและไม่ถูกกฎหมายนั้น
เพื่อเปิดโชครับลาภที่จะเข้ามาในชีวิต แบบนี้จะเป็นวิธีการที่ถูกหรือไม่ครับ
เพราะเคยได้ยินมาว่าการเล่นหวยหรือซื้อสลากกินแบ่งนั้นเป็นอบายมุขชนิดหนึ่ง


จะว่าอย่างไรกันก็ตามนะ
ถูกหรือผิด จะเป็นอบายมุขหรือจะเป็นเพียงการเสี่ยงเล่นสนุก เราดูกันที่จิตก่อน
ผมเอาประเด็นนี้ก่อนว่ามันเป็นอบายมุขหรือไม่เป็นอบายมุขนะ
ขึ้นอยู่กับว่าเราหมกมุ่นกับมันแค่ไหน
เพราะว่าตัวอบายมุข บางทีไม่ได้ใช้รูปแบบอย่างเดียวนะ
ว่าเราซื้อหวยหรือว่าเราเข้าไปเสี่ยงโชคทางการพนัน
บางคนอย่างเดินทางไปบางเมืองแบบลาสเวกัส (
Las Vegas) แบบนี้
เอาเศษเงินแค่เหรียญสองเหรียญไปหยอดตู้เล่น
แล้วก็เหมือนกับเล่นผ่านๆ ไม่ได้มีจิตใจที่หวังจะได้จริงจัง
ก็เล่นเสียแล้วก็เสียไป ช่างมัน แล้วก็เดินผ่านไป
อย่างนี้เรียกว่า ใจไม่ได้อยู่กับอบายมุข
ถึงแม้ว่าโดยรูปแบบนะจะมีการเล่นพนันไปแล้วก็ตามนะ
จิตใจมันไม่ได้คิดจะเอาจริง จิตใจมันไม่ได้หมกมุ่น
จิตใจมันไม่ได้มีความเครียด ไม่ได้มีความมืดเกิดขึ้นนะ

มันเหมือนกับไปแตะต้องเชื้อโรค
แต่ว่าแตะด้วยถุงมือที่มีการป้องกันไม่ให้เชื้อโรคเข้ามาติดตามตัวอย่างดี
ก็ถึงแม้ว่าจะแตะเชื้อโรคก็ไม่ถูกเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้



อันนี้ก็เหมือนกันคือถึงแม้ว่าโดยรูปแบบนะจะดูเหมือนกับไปเล่นพนัน
แต่ถ้าหากว่าใจไม่ได้จะเอาจริง แค่เล่นผ่านๆ ขำๆ นะ
เชื้อของนักพนันหรือเชื้อของความมืดก็ไม่แทรกซึมเข้าสู่จิต
แต่ถ้าหากว่ามีความคิดว่าเราจะเสี่ยงโชค เราจะรวยขึ้น แบบด้วยทางลัดนะ
ด้วยการฝันเห็นหวย หรือว่าเจาะจงไปว่าวันนี้เราจะต้องเอาให้ได้
แล้วเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกวัน หรือเป็นช่วงเวลาที่แน่นอนมีความสม่ำเสมอ
เช่น ทุกอาทิตย์ ทุกสัปดาห์ จะต้องเข้าบ่อนจะต้องไปเสี่ยงโชค
นี่อย่างนี้นะโดยอาการอย่างนี้ก็ถือว่าเป็นอบายมุขนะครับ


เพราะว่าอบายมุขวัดกันตรงจิตใจที่มันจดจ่ออยู่นั่นแหละ
แล้วดูได้ง่ายๆ เลยถ้าจดจ่ออยู่กับการเสี่ยงโชคมากๆ นะ มันจะมีความมืด
ไม่ว่าจะเล่นลอตเตอรี่ ไม่ว่าจะเล่นหวย
หรือว่าจะเป็นการเข้าไปพนันบอล หรือว่าตามบ่อนต่างๆ
ดูที่จิตเถอะ ถ้าหากว่าหมกมุ่นจริงๆ จะเอาจริงๆ นี่มันอบายมุขทั้งนั้นแหละ
ตัวนี้เอาเกณฑ์คือจิตเป็นหลักก่อน


เหมือนอย่างอบายมุขข้ออื่น ท่านใช้คำว่าเป็นนักเลงผู้หญิง
หมายถึงว่าเที่ยวไปนะ ไม่ใช่เฉพาะว่าเที่ยวซ่องเที่ยวสถานขายบริการอย่างเดียว
แต่เหมารวมเอาที่ว่าสำส่อนไม่เลือกหน้าด้วย
อย่างนี้ก็ถือว่าเป็นอบายมุข
นี่ก็เรียกว่ามีจิตใจหมกมุ่น มีจิตใจฝักใฝ่อยู่กับที่สิ่งที่เป็นอกุศล
แล้วทำให้จิตใจดำมืดลง นับเป็นอบายมุขได้หมดนะครับ



ทีนี้มาดูอีกประเด็นหนึ่งที่ว่าใครมีสิทธิ์ที่จะได้รางวัลที่หนึ่งหรือได้รางวัลใหญ่ๆ อะไรขึ้นมานี่นะ
ก็เป็นพวกที่ดูง่ายๆ เลยก็แล้วกันว่าชีวิตจะเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหนจากการได้รับรางวัล
ถ้าหากว่าเราเคยช่วยคนอื่นไว้มากๆ เราเคยไปเปลี่ยนแปลงชีวิตคนอื่นไว้นะ
แบบที่ว่าจะให้เขาพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ
จากมืดเป็นสว่าง จากยากจนเป็นร่ำรวยขึ้นมา
ถ้าเราเคยไปมีการช่วยเหลือแบบนั้นไว้กับใคร
ก็ต้องได้รับผลในทำนองเดียวกันนั่นแหละ
ถ้าหากว่าเกิดในชาติที่ต้องตกต่ำอัตคัด หรือว่าอยู่ในตระกูลที่ยากจนนะครับ
ก็มีสิทธิ์ที่ว่าจะมีช่องทางใดช่องทางหนึ่งได้ลาภลอยนะ
อาจจะเป็นใครมาช่วย อยู่ดีๆ มีคนเอาเงินมาให้ ได้รับมรดก
หรือว่าไปเล่นหวยแล้วก็ได้มาแบบนี้



หรืออาจจะเป็นพวกที่เคยนะเรียกว่าทุ่มสุดตัว
ที่ท่านยกตัวอย่างกันในพระคัมภีร์นะครับ
ก็มีประเภทนายพรานบ้าง หรือว่าคนป่าคนดง
เดินทางไประหว่างวัน ไปทำมาหากินตามปกติ แล้วก็มีอาหารมีอะไรติดตัวไป
ทีนี้ในระหว่างทางเกิดไปเจอพระอรหันต์เข้า หรือว่าพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
หรือบางคนก็โชคดีขนาดไปเจอพระปัจเจกพระพุทธเจ้าอะไรแบบนี้ เดินมาตามทาง
แล้วเกิดความเลื่อมใสเห็นว่า เออ เราทำบาปมามาก อยากจะทำบุญบ้างนะ
อาหารที่มีที่เอามานี่จะเอาเข้าท้องตัวเอง ไม่สน ก็ถวาย ขอถวายหมดเลย
นี่เรียกว่าเป็นการทำบุญแบบไม่ได้ตั้งใจไว้ก่อน แต่พอเห็นแล้วทำเต็มที่เลยนะ



ก็พูดง่ายๆ ว่าให้ลาภลอยแก่ผู้อื่น มันก็จะมีผลเร็วมีผลแรงนะครับ
ถ้าหากว่าได้ทำบุญกับผู้ทรงคุณด้วยนะ ในอาการที่ไม่ได้ตั้งใจไว้ก่อน
พวกนี้นี่มักจะได้ลาภลอยอย่างแรง
แล้วโดยเฉพาะอย่างถ้ามีโอกาสทำกับพระอรหันต์หรือว่าระดับพระปัจเจกโพธิ์นะครับ
หรือว่าผู้ที่เพิ่งออกจากนิโรธสมาบัติอะไรแบบนี้นะ สมาบัติขั้นสูงของผู้หมดกิเลสแล้ว
พวกนี้เวลากรรมเผล็ดผล ก็มักจะมาในแบบลาภลอยแบบไม่คาดฝันและเป็นลาภลอยก้อนใหญ่
เพราะว่าอะไร
เพราะว่าบุญที่ทำนี่นะ ทำโดยที่ไม่ได้คาดหวังไว้ก่อน
และผู้รับก็ไม่ได้คาดหวังไว้ก่อนเช่นกันว่าจะได้จากเรานะครับ
แต่เป็นการทุ่มสุดตัว ทำเต็มที่ แล้วก็ทำอย่างชนิดที่ว่าไม่อั้น
ผลออกมามันก็ไม่อั้นเหมือนกัน
มันก็ยิ่งใหญ่เกินบุญของคนอื่นที่จะให้ผลได้เท่ากับเรา ณ เวลาที่กรรมมันเผล็ดผล



อย่างออกมาในรูปของลอตเตอรี่รางวัลที่หนึ่ง
มันก็แปลตรงตัวได้ว่าบุญนี้ไปตกอยู่กับผู้ที่ได้เคยประกอบบุญไว้ชนะเลิศ
ไม่มีใครใจใหญ่เท่า ไม่มีใครทำได้มากเท่า
แล้วอย่าตีค่าเป็นว่าเราจะต้องเคยทำไว้กี่ล้านทำไว้กี่แสนนะ ไม่ใช่นะ
แต่ทำด้วยใจที่มันเต็มแค่ไหนมากกว่า
อย่างที่ผมยกตัวอย่างไว้แล้ว สมมุติว่าเอาอาหารออกไปกะจะเอาไปกินเอง
เสร็จแล้วไปเจอพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เกิดความเลื่อมใสขึ้นมานะ
ถวายหมดตัวเลย ไม่เหลืออะไรไว้ให้ตัวเองเลย
นี่ก็เรียกว่าเป็นการทุ่มสุดตัวด้วยใจที่มันเกินร้อยนะครับ
อันนี้ก็เป็นเรื่องที่ว่าทำไมบางคนถึงได้ลาภลอยได้ง่ายๆ นัก



มันอย่างนี้ด้วยนะในหลักความเป็นจริง
ถ้าเราไม่สามารถที่จะทราบนะครับว่าเงินล้านนี่มันมาได้อย่างไรนะ
เราก็จะมักจะไม่สามารถรักษาเงินล้านนั้นไว้ได้เช่นกัน
แต่คนที่รู้วิธีหาเงินล้านมาก็จะรู้วิธีรักษาด้วย
อันนี้ก็เป็นเรื่องที่เป็นเงาตามตัวกัน มีความสัมพันธ์กันนะครับ


แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP