เติมธรรมในทำนอง Lite Melody

One Day In Your Life กาลครั้งหนึ่งของไมเคิล แจ็คสัน


aston27


One day in your life เมื่อถึงกาลครั้งหนึ่งในชีวิต
You’ll remember a place เธอจักคิดพินิจถึงซึ่งสถาน
Someone touching your face ที่เราเคยเชยชมสมสราญ
You’ll come back and you’ll look around, you’ll . . . ครั้งวันวานหวานอยู่มิรู้วาย
   
One day in your life เมื่อถึงกาลครั้งนั้นในชีวัน
You’ll remember the love you found here เธอจักพลันฝันถึงรักที่พลัดหาย
You’ll remember me somehow จักคนึงถึงฉันวันเคียงกาย
Though you don’t need me now แม้นไม่หมายมีกันในวันนี้
I will stay in your heart ฉันจักอยู่ในใจเธอเสมอไป
And when things fall apart นานเท่าไหร่ใจมั่นไม่ผันหนี
You’ll remember one day . . . ไม่ต้องนึกถึงฉันในวันดี
  แม้นวันมีภัยพลันฉันจะมา
One day in your life เมื่อถึงกาลครั้งโน้นโพ้นชีวิต
When you find that you’re always waiting เมื่อเธอพิศถึงสิ่งนั้นที่ฝันหา
For a love we used to share ถึงความรักเคยแบ่งปันด้วยกันมา
Just call my name, and I’ll be there เพียงเพรียกหาจะมีพลันฉันเป็นเงา
   
One day in your life แล้วในกาลครั้งทองของชีวิต
When you find that your always lonely โปรดอย่าปิดบังฉันวันเธอเหงา
For a love we used to share เพื่อรอยรักอักษราพาสองเรา
Just call my name, and I’ll be there จะมาเฝ้าหากที่รักจักเรียกมา


One day in your life คือหนึ่งในเพลงที่ดีที่สุดของไมเคิล แจ็คสัน โดยไม่ต้องสงสัย ถึงแม้จะไม่ใช่เพลงที่เขาแต่งเอง เพราะเนื้อร้องและทำนองเป็นฝีมือของ แซม บราวน์ กับ เรเน่ อาร์มันด์ ซึ่งชื่อแรกนั้น มีเครดิตในฐานะของโปรดิวเซอร์ของเพลงนี้ด้วย แต่เสียงร้องและอารมณ์ของไมเคิลในเพลงนี้ ต้องเรียกว่าเข้าขั้นเทพ


เพลงนี้อยู่ในอัลบั้มชื่อ Forever, Michael ที่ออกจำหน่ายในปี 1975 แต่กว่าจะถูกตัดเป็นซิงเกิลก็อีก 6 ปีถัดมา อันเป็นอานิสงส์จากความสำเร็จที่ล้นหลามของอัลบั้ม Off The Wall ที่ทำให้เพลงนี้ถูกขุดออกมาและกลายเป็นซิงเกิลอันดับหนึ่งเพลงแรกของราชาเพลงป๊อบ (ในเวลาต่อมา) ในประเทศอังกฤษ แต่ในอเมริกา อันดับดีที่สุดใน hot 100 single chart คือ 55


แต่จะอันดับอะไร ก็ไม่สำคัญสำหรับเขาและแฟนเพลงหรอกนะครับ เพราะเขาก็จากโลกนี้ไปแล้ว เหลือไว้แต่ผลงานมากมายและความทรงจำที่ดีบ้าง ไม่ดีบ้าง ขึ้นกับว่าแต่ละคนจะมองเขาในมุมไหน


ไม่ว่าคุณจะเป็นฝ่ายที่เห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วยกับชีวิต สีผิว และศัลยกรรมที่เขาเลือก แต่สิ่งหนึ่งที่ผมเชื่อว่าไม่มีใครปฏิเสธได้ นั่นคือความสามารถในระดับอัจฉริยะของไมเคิล แจ็คสัน ทั้งในเรื่องดนตรี และการแสดงบนเวที


เห็นกระแสความอาลัยอาวรณ์เขาจากสื่อต่างๆแล้ว ผมอดสังเกตไม่ได้ว่า พวกเรามักจะนิยมแสดงความชื่นชมบุคคลที่จากไปแล้ว มากกว่าตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่ อันนี้เป็นกันทั่วโลกนะครับ เพราะผมเห็นตอนเขายังอยู่ สื่อต่างๆก็มักจะขุดคุ้ยเรื่องอื้อฉาวต่างๆของเขาขึ้นมาตีแผ่ ประจาน แต่พอแกตายปุ๊บ เหมือนทุกคนจะลืมเรื่องที่เคยพูดถึง แล้วหันกลับไปสรรเสริญเยินยอแทน


ผมพูดออกอากาศในรายการ หลังการเสียชีวิตของเขาว่า ผมไม่ได้เสียใจที่ไมเคิลจากไป เพราะผมเปิดเพลงของเขามาสม่ำเสมอแทบจะทุกเสาร์ และบอกเสมอว่า งานของเขา เป็นงานคุณภาพ ไม่ว่าชีวิตส่วนตัวของเขาจะผิดแผกไปจากมนุษย์มนาธรรมดาอย่างเราๆอย่างไร


ผมเชื่อว่าไมเคิล ใช้ชีวิตได้ดีที่สุดแล้ว ในสภาพจิตใจ ในการเลี้ยงดูอบรมที่เขาได้รับ และในฐานะศิลปินที่สร้างงานไว้ให้โลกนี้มากมาย ไม่มีอะไรที่ต้องเสียดาย ถ้าคุณเป็นคนทำงาน แล้วเดินมาถึงจุดที่เขาเคยยืนอยู่


หากวันหนึ่ง เราจะนึกถึงเขา ก็เพียงแต่เปิดเพลงของเขาฟัง แล้วเราจะได้ยินเขาร้องว่า
“I will stay in your heart. And when things fall apart, You’ll remember one day . . .”


ขอให้เขาไปสู่สุขคติครับ



แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP