ธรรมะจากพระสูตร Dhamma from Sutta

สักกสูตร ว่าด้วยพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงเตือนอุบาสกชาวสักกะให้รักษาอุโบสถเป็นนิตย์


กลุ่มไตรปิฎกสิกขา



[๔๖] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ นิโครธาราม
ใกล้กรุงกบิลพัสดุ์ สักกชนบท.
ครั้งนั้นแล อุบาสกชาวสักกชนบทเป็นอันมาก
ได้เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ในวันอุโบสถ
ถวายอภิวาทพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง.
พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสถามอุบาสกชาวสักกชนบทว่า
อุบาสกชาวสักกชนบททั้งหลาย
ท่านทั้งหลายย่อมรักษาอุโบสถอันประกอบด้วยองค์ ๘ แลหรือ.
อุบาสกชาวสักกชนบทเหล่านั้นกราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
บางคราวข้าพระองค์ทั้งหลายย่อมรักษาอุโบสถอันประกอบด้วยองค์ ๘
บางคราวไม่ได้รักษา พระพุทธเจ้าข้า.


ภ. อุบาสกชาวสักกะทั้งหลาย ไม่เป็นลาภของท่านทั้งหลายเสียแล้ว
ท่านทั้งหลายไม่ได้ดีเสียแล้ว ที่ท่านทั้งหลายเมื่อชีวิตมีภัยเพราะความโศก
มีภัยเพราะความตายอยู่อย่างนี้ บางคราวก็รักษาอุโบสถอันประกอบด้วยองค์ ๘
บางคราวก็ไม่ได้รักษา อุบาสกชาวสักกะทั้งหลาย
ท่านทั้งหลายจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน
บุรุษในโลกนี้พึงยังทรัพย์กึ่งกหาปณะให้เกิดขึ้นทุก ๆ วัน ด้วยการงานอันชอบ
โดยไม่แตะต้องอกุศลเลย สมควรจะกล่าวได้หรือไม่ว่า
เป็นบุรุษฉลาดสมบูรณ์ด้วยความหมั่น.


อุ. สมควรกล่าวได้อย่างนั้น พระพุทธเจ้าข้า.


ภ. อุบาสกชาวสักกะทั้งหลาย ท่านทั้งหลายจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน
บุรุษในโลกนี้พึงยังทรัพย์กหาปณะหนึ่งให้เกิดขึ้นทุก ๆ วัน
ด้วยการงานอันชอบ โดยไม่แตะต้องอกุศลเลย
สมควรจะกล่าวได้หรือไม่ว่า เป็นบุรุษผู้ฉลาดสมบูรณ์ด้วยความหมั่น.


อุ. สมควรกล่าวได้อย่างนั้น พระพุทธเจ้าข้า.


ภ. อุบาสกชาวสักกะทั้งหลาย ท่านทั้งหลายจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน
บุรุษในโลกนี้ พึงยังทรัพย์ ๒ กหาปณะ ๓ กหาปณะ ๔ กหาปณะ
๕ กหาปณะ ๖ กหาปณะ ๗ กหาปณะ ๘ กหาปณะ ๙ กหาปณะ
๑๐ กหาปณะ ๒๐ กหาปณะ ๓๐ กหาปณะ ๔๐ กหาปณะ
๕๐ กหาปณะ ๑๐๐ กหาปณะ ให้เกิดขึ้นทุก ๆ วัน
ด้วยการงานอันชอบ โดยไม่แตะต้องอกุศลเลย
สมควรจะกล่าวได้หรือไม่ว่า เป็นบุรุษผู้ฉลาดสมบูรณ์ด้วยความหมั่น.


อุ. สมควรกล่าวได้อย่างนั้น พระพุทธเจ้าข้า.


ภ. อุบาสกชาวสักกะทั้งหลาย ท่านทั้งหลายจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน
บุรุษนั้นเมื่อยังทรัพย์ ๑๐๐ กหาปณะ ๑,๐๐๐ กหาปณะให้เกิดขึ้นทุก ๆ วัน
เก็บทรัพย์ที่ตนได้แล้ว ๆ ไว้ เป็นผู้มีชีวิต ๑๐๐ ปี
จะพึงประสบกองโภคสมบัติเป็นอันมาก บ้างหรือหนอ.


อุ. พึงเป็นอย่างนั้นได้ พระพุทธเจ้าข้า.


ภ. อุบาสกชาวสักกะทั้งหลาย ท่านทั้งหลายสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน
บุรุษนั้นจะพึงเสวยความสุขโดยส่วนเดียวอยู่ ๑ คืน ๑ วันหรือกึ่งวัน
อันมีโภคสมบัติเป็นเหตุ มีโภคสมบัติเป็นแดนเกิด
มีโภคสมบัติเป็นที่ตั้ง บ้างหรือหนอ.


อุ. มิได้เป็นอย่างนั้นเลย พระพุทธเจ้าข้า.


ภ. ข้อนั้นเป็นเพราะเหตุอะไร.


อุ. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เพราะกามทั้งหลายเป็นของไม่เที่ยง
เป็นของว่างเปล่า เป็นของหลอกลวง เป็นของมีความฉิบหายไปเป็นธรรมดา.


ภ. อุบาสกชาวสักกะทั้งหลาย ส่วนสาวกของเราในธรรมวินัยนี้
เป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียร มีใจเด็ดเดี่ยว
ปฏิบัติตามที่เราพร่ำสอนอยู่ตลอด ๑๐ ปี
พึงเป็นผู้เสวยความสุขโดยส่วนเดียวตลอด ๑๐๐ ปีก็มี ๑๐,๐๐๐ ปีก็มี
๑๐๐,๐๐๐ ปีก็มี และสาวกของเรานั้นแล พึงเป็นสกทาคามีก็มี
เป็นอนาคามีก็มี เป็นโสดาบันปฏิบัติไม่ผิดก็มี
อุบาสกชาวสักกะทั้งหลาย ๑๐ ปีจงยกไว้ สาวกของเราในธรรมวินัยนี้
เป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียร มีใจเด็ดเดี่ยว
ปฏิบัติตามที่เราพร่ำสอนตลอด ๙ ปี ๘ ปี ๗ ปี ๖ ปี ๕ ปี ๔ ปี ๓ ปี ๒ ปี ๑ ปี
พึงเป็นผู้เสวยความสุขโดยส่วนเดียวตลอด ๑๐๐ ปีก็มี ๑๐,๐๐๐ ปีก็มี
๑๐๐,๐๐๐ ปีก็มี และสาวกของเรานั้นแล พึงเป็นสกทาคามีก็มี
เป็นอนาคามีก็มี เป็นโสดาบันปฏิบัติไม่ผิดก็มี
อุบาสกชาวสักกะทั้งหลาย ๑ ปีจงยกไว้ สาวกของเราในธรรมวินัยนี้
เป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียร มีใจเด็ดเดี่ยว
ปฏิบัติตามที่เราพร่ำสอนตลอด ๑๐ เดือน
พึงเป็นผู้เสวยสุขโดยส่วนเดียวตลอด ๑๐๐ ปีก็มี ๑๐,๐๐๐ ปีก็มี
๑๐๐,๐๐๐ ปีก็มี และสาวกของเรานั้นแล พึงเป็นสกทาคามีก็มี
เป็นอนาคามีก็มี เป็นโสดาบันปฏิบัติไม่ผิดก็มี
อุบาสกชาวสักกะทั้งหลาย ๑๐ เดือนจงยกไว้
สาวกของเราในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียร มีใจเด็ดเดี่ยว
ปฏิบัติตามที่เราพร่ำสอนตลอด ๙ เดือน ๘ เดือน ๗ เดือน ๖ เดือน
๕ เดือน ๔ เดือน ๓ เดือน ๒ เดือน ๑ เดือน กึ่งเดือน
พึงเป็นผู้เสวยความสุขโดยส่วนเดียวตลอด ๑๐๐ ปีก็มี ๑๐,๐๐๐ ปีก็มี
๑๐๐,๐๐๐ ปีก็มี และสาวกของเรานั้นแล พึงเป็นสกทาคามีก็มี
เป็นอนาคามีก็มี เป็นโสดาบันปฏิบัติไม่ผิดก็มี
อุบาสกชาวสักกะทั้งหลาย กึ่งเดือนจงยกไว้ สาวกของเราในธรรมวินัยนี้
เป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียร มีใจเด็ดเดี่ยว
ปฏิบัติตามที่เราพร่ำสอนตลอด ๑๐ คืน ๑๐ วัน
พึงเป็นผู้เสวยความสุขโดยส่วนเดียวตลอด ๑๐๐ ปีก็มี ๑๐,๐๐๐ ปีก็มี
๑๐๐,๐๐๐ ปีก็มี และสาวกของเรานั้นแล พึงเป็นสกทาคามีก็มี
เป็นอนาคามีก็มี เป็นโสดาบันปฏิบัติไม่ผิดก็มี
อุบาสกชาวสักกะทั้งหลาย ๑๐ คืน ๑๐ วัน จงยกไว้ สาวกของเราในธรรมวินัยนี้
เป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียร มีใจเด็ดเดี่ยว
ปฏิบัติตามที่เราพร่ำสอนตลอด ๙ คืน ๙ วัน ๘ คืน ๘ วัน ๗ คืน ๗ วัน
๖ คืน ๖ วัน ๕ คืน ๕ วัน ๔ คืน ๔ วัน ๓ คืน ๓ วัน ๒ คืน ๒ วัน ๑ คืน ๑ วัน
พึงเป็นผู้เสวยความสุขโดยส่วนเดียวตลอด ๑๐๐ ปีก็มี ๑๐,๐๐๐ ปีก็มี
๑๐๐,๐๐๐ ปีก็มี และสาวกของเรานั้นแล พึงเป็นสกทาคามีก็มี
เป็นอนาคามีก็มี เป็นโสดาบันปฏิบัติไม่ผิดก็มี
อุบาสกชาวสักกะทั้งหลาย ไม่เป็นลาภของท่านทั้งหลายเสียแล้ว
ท่านทั้งหลายไม่ได้ดีเสียแล้ว ที่ท่านทั้งหลาย เมื่อชีวิตมีภัยเพราะความโศก
มีภัยเพราะความตายอยู่อย่างนี้ บางคราวก็รักษาอุโบสถอันประกอบด้วยองค์ ๘
บางคราวก็ไม่ได้รักษา.


อุ. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์เหล่านี้จักรักษาอุโบสถ
อันประกอบด้วยองค์ ๘ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป


สักกสูตร จบ



(สักกสูตร พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย ทสก-เอกาทสกนิบาต
พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย เล่มที่ ๓๘)



แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP