ดังตฤณวิสัชนา Dungtrin's Answer
คิดอยากฆ่าตัวตายอยู่บ่อยๆ ควรทำอย่างไร
ถาม - การที่เราคิดอยากฆ่าตัวตาย คือการคิดที่ไม่ดีอยู่แล้วใช่ไหมคะ
ดิฉันเป็นคนคิดมาก คิดวนเวียน คิดอยากฆ่าตัวตายอยู่บ่อยๆ
การที่เราอยากตาย จริงๆ แล้วเป็นเรื่องดี เป็นเรื่องที่ถูกต้องนะ
แต่ต้องอยากตายแบบพุทธ ไม่ใช่อยากตายแบบแบบตามใจฉัน
ไม่ใช่ว่ามีความขัดเคืองอะไรกับชีวิต แล้วอยากทำลายชีวิตทิ้ง
อันนั้นเป็นการทำลายในแบบที่จะทำให้จิตเศร้าหมองมันติดตามตัวเราไป
พระพุทธเจ้าตรัสนะ อันนี้ย้ำนะ พระพุทธเจ้าตรัสว่า
ก่อนตายถ้ามีจิตเศร้าหมอง ทุคติเป็นอันหวังได้
เราอย่ามองว่าความอยากตายเป็นการคิดที่ไม่ดีอย่างเดียว
การอยากจบชีวิตแบบนี้ หรือว่าการจบชีวิตไปเลยไม่ต้องกลับมาวนเวียนอีก
นี่จริงๆ แล้วเป็นจุดมุ่งหมายสูงสุดของพุทธศาสนาเลยทีเดียว
แต่แบบนั้นเขาไม่เรียกฆ่าตัวตาย เขาเรียกฆ่าตัวตน
ถ้าหากว่าทำจิตให้พ้นจากการมีอุปาทานยึดมั่นถือมั่น
ว่ากายนี้ใจนี้คือฉัน กายนี้ใจนี้เป็นของฉัน
ถ้าทำได้นะ มันจะเป็นอิสระจากความรู้สึกว่ามีตัวมีตน
ซึ่งถ้าหากว่าจิตพ้นจากอุปาทานได้ขาด เต็มที่ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์
นั่นแหละตัวนี้้ก็คือเป็นพระอรหันต์
แล้วก็จะไม่ต้องมาเกิดอีก พอไม่เกิดอีกมันก็ไม่ต้องตายอีก
ไม่ต้องอยากมาฆ่าตัวตายอีก เพราะว่ามันฆ่าตัวตนไปสมบูรณ์แบบแล้ว
การคิดเยอะ การคิดวน การคิดอยากฆ่าตัวตาย
ทุกครั้งที่เกิดความอยากจะตายขึ้นมา
ขอให้เป็นทุกครั้งที่ย้อนกลับเข้ามาว่านี่เรายังมีตัวตนอยู่หรือเปล่า
ที่อยากจบชีวิตนี้ จริงๆ แล้วตัวตนนั้นมันอยากหนีตัวเองออกไปต่างหาก
แล้วก็คาดหวังว่าทุกอย่างจะจบ ทุกอย่างจะสิ้น ซึ่งมันไม่สิ้น
ตอนตายถ้าจิตยังมีอุปาทานยึดมั่นถือมั่นอยู่ว่าอยากตาย
นี่มันก็คือมีตัวของตนที่อยากพ้นไปจากสภาพของตัวเองแล้ว
แต่ถ้าหากว่าระหว่างมีชีวิตอยู่สำรวจเข้ามา เออ มันค่อยๆ เบาลงเรื่อยๆ นะ
ว่าความอยากตายทำให้เห็นเข้ามา
ว่า เออ มันยังมีตัวที่อยากพ้นจากสภาพของตัวเองอยู่อย่างนี้ไปง่ายๆ
แล้วมันยังไม่พ้นจริง ยิ่งอยากเท่าไหร่ จำไว้ว่ายิ่งยึดเท่านั้น
ยิ่งอยากยิ่งพิสูจน์ว่ายังมีตัณหายังมียางเหนียวผูกไว้กับภพ กับชาติ กับการเกิดใหม่อยู่
อันนี้เขาเรียกเป็นวิภวตัณหา ความอยากตาย
คือตัณหามีอยู่สองอย่าง ภวตัณหา คือ อยากมี อยากดี อยากเป็นอะไรสักอย่างหนึ่ง
อยากมีเงินนี่ก็เรียกว่าเป็นภวตัณหา อยากเป็นเทวดานี่ก็เรียกว่าภวตัณหา
แต่ไม่อยากเป็นอย่างนี้ อยากหนีไปทันที อยากกลั้นใจตายไปเดี๋ยวนี้
หรือว่าเอามีดมาแทงตัวให้ตายไปเลย
อย่างนี้เรียกว่าวิภวตัณหา คือ อยากดิ้น อยากหนี
ความอยากดิ้นอยากหนี มันก็คือลักษณะหนึ่งของความยึดว่าตัวนี้เป็นตัวเป็นตน
แล้วเราจะเอาตัวรอดให้พ้นจากสภาพแบบนี้ ตัวตนแบบนี้
มันก็กระโดดไปเกาะตัวตนแบบอื่น ตัวตนที่มันสบายกว่า
หรือว่าไปนึกถึงความว่างชนิดที่ไม่เหลืออะไรเลย ไม่มีอะไรเลย จบสูญนะ จบสิ้น ขาดสิ้น
แบบนี้มันก็เป็นการยึดภาวะหรือว่าภพของความขาดสิ้นขาดสูญ เป็นวิภวตัณหาชนิดหนึ่ง
ทีนี้ถ้าสำรวจเข้ามา มันยังมีความอยากเพื่อตัวตน
อยากพ้นเพื่อให้ตัวนี้มันได้ดิบได้ดีขึ้นมากว่าที่เป็นอยู่
เห็นเรื่อยๆ จนกระทั่งพบขึ้นมาว่า อ๋อ! ตอนที่จิตเกิดอุปาทานว่ามีตัวฉันกำลังเป็นทุกข์
มันเกิดความเบา มันเกิดความสุขกว่าที่เป็นอยู่ขึ้นมาได้ทันที
คือพอพบว่ามันมีก้อนตัวก้อนตนอะไรตัวหนึ่ง
ที่มันเหมือนเป็นขยุ้มๆ อยู่นะ เป็นก้อนอัดแน่นอยู่
ด้วยความรู้สึกว่าอยากจะเอาอะไรเพื่อตัวตน
หรือว่าอยากจะหนีพ้นเพื่อให้ตัวตนนี้มันรอด มันปลอดภัย มันดีขึ้น
ตัวนี้ถ้าจับได้มั่นคั้นได้ตายนะ จับได้คาหนังคาเขา
ว่า เออ! มันเกิดขึ้นในใจเรา ณ บัดนั้น มันจะเบาลงทันที
เพราะว่าสติมันเกิดขึ้น เห็นว่าสภาพความยึดมั่นถือมั่น
ที่มันเป็นก้อน ที่มันผูกเป็นปมเหนียวแน่นนั้นน่ะ
เป็นแค่ภาวะสูญเปล่าภาวะหนึ่งในช่วงเวลาสั้นๆ ณ ลมหายใจหนึ่งๆ
พอลมหายใจที่มีสติก่อตัวขึ้นมา แล้วรู้ว่านั่นเป็นก้อนความสูญเปล่าก้อนหนึ่ง
เป็นสภาวธรรมที่มันไม่มีใครอยู่จริงที่ตรงนั้น
พอความอัดแน่นมันหายไป มันคลายออก เหลือแต่ใจที่เป็นอิสระเผยตัวออกมานะ
ใจที่ไม่ยึดนี่มันมีความรู้สึกเบา มันมีความรู้สึกว่าง มันมีความรู้สึกกว้างโล่ง
มันจะฉลาดขึ้นเรื่อยๆ ทีละครั้ง ทีละหน
พูดง่ายๆ ว่าทุกครั้งที่คิดอยากตาย
จะเป็นทุกครั้งที่ปัญญามันค่อยๆ สว่างขึ้น มันค่อยๆ เรืองแสงขึ้น
จิตจะค่อยๆ เบา จิตจะค่อยๆ คลาย แล้วจิตจะเลิกอยากตายแบบผิดๆ
แต่มีความพึงพอใจที่ได้เห็นตัวตนมันฝ่อลง
แล้วก็จากตายหายสูบไปจากจิตใจทีละน้อย
เปลี่ยนจากอยากฆ่าตัวตาย มาเป็นพอใจในการฆ่าตัวตน
นี่แหละคือที่สุดของความเป็นพุทธ
< Prev | Next > |
---|