ดังตฤณวิสัชนา Dungtrin's Answer

กรรมใดที่ทำให้ไม่สมหวังในความรัก



ถาม – ความไม่สมปรารถนาในรักเกิดจากกรรมชนิดใดคะ


อันนี้เป็นคำถามสั้น แต่ว่าต้องตอบกันยาวนะ
บางคนนี่มีเรื่องของกรรมเก่าอยู่จริงๆ
คืออาจจะเป็นประเภทชอบหักอกเขาไว้เยอะในอดีตชาติ
แล้วก็อาจเป็นผู้ชายที่หลงรูปตัวเองนะ
สำคัญตัวเองผิด นึกว่าตัวเองเป็นคาสโนว่า
จะทำตัวเป็นนักรักให้คนอื่นเขารักได้ แต่ไม่ยอมให้ความรักกับคนอื่นเขาไว้ อะไรแบบนี้
เกิดใหม่มันก็อาจไม่สมหวังในรักตั้งแต่เกิดจนตายได้เหมือนกัน
คือถ้าทำอะไรมาทั้งชาติ มันก็อาจถูกวางแผนไว้ให้เป็นไปตามนั้นทั้งชาติได้
อันนี้สำหรับบางคน ซึ่งไม่ค่อยเกิดขึ้น
อย่างเราเห็นด้วยตาเปล่า น้อยคนนักที่จะเป็นนักรักประเภททำตัวลอยชายไปเรื่อยนะ
ให้คนอื่นเขารักแต่ตัวเองไม่รักใคร ไม่เคยปักหลักรับผิดชอบใคร อะไรต่างๆ
มันไม่ได้เป็นอย่างนั้นกันถึงห้าสิบ อย่างมากก็สิบ ยี่สิบอะไรแบบนี้ สิบ ยี่สิบเปอร์เซ็นต์
ก็เลยเหมือนกับจะไม่ค่อยมีหรอก
ประเภทตั้งแต่เกิดจนตายนี่ไม่ได้มีความรักกับใครเขาเลย



ทีนี้ถ้าเราไม่เอาคำตอบจากเรื่องบุญบาปเก่า
เรามาดู เรามาพิจารณาได้ไหมว่ามีเหตุผลอะไร
ที่ทำให้ใจของเราทำตัวเป็นขั้วผลักอยู่เรื่อย ไม่เคยเป็นขั้วดูด
หรือว่าชีวิตทั้งชีวิตมันเหมือนแท่งแม่เหล็กที่มีแต่จะผลักออก ไม่มีดูดเข้ามา
ถ้าหากว่าเราค่อยๆ ศึกษา ค่อยๆ ทำความเข้าใจ
โดยอาจจะมองจากคนอื่นก่อนก็ได้
ว่ามีไหมบางคนที่เราเห็นแล้วรู้สึกว่าไม่อยากสนิทชิดเชื้อมากเกินไป
เราเห็นแล้วมีความรู้สึกว่าไม่อยากที่จะเอาชีวิตเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย
แล้วบุคคลแบบนั้น ไม่ใช่แค่เรานะที่รู้สึก ทุกคนนี่รู้สึกเหมือนกันหมดเลย
เหมือนกับเป็นคนที่โดดเดี่ยว ไม่มีใครโคจรเข้าไปเข้าใกล้ชีวิตเขา ต้องอยู่เหงาๆ


ทีนี้ถ้าเราเจอบุคคลตัวอย่างประเภทนี้
ก็ให้สังเกตว่ามันมีคุณสมบัติอะไรบ้าง มีเหตุปัจจัยอะไรบ้าง
ยกตัวอย่างเช่นบางทีนี่ไม่ค่อยจะคิดอะไรเหมือนชาวบ้านเขา
คือแอบคิดอยู่คนเดียวข้างใน ไม่ได้ฟังคนอื่นเขาพูดอะไรแบบนี้นะ
อันนี้แค่ตัวอย่าง ไม่ได้บอกว่าคนตั้งคำถามเป็นแบบนี้นะ
จะยกตัวอย่างเฉยๆ ว่ามันมีบุคคลบางประเภทที่กรรมปัจจุบันนี่แหละ
ทำให้เกิดความรู้สึกแปลกแยกทันทีที่เห็นทันทีที่เจอ
แล้วคนไม่นึกอยากเข้ามาใกล้
บางทีมันไม่ใช่การทำตัวภายนอก มันไม่ใช่การทำหน้าทำตา
แต่เป็นกระแสของจิตภายใน

ถ้ามีโลกส่วนตัวมากเกินไป มีโลกส่วนตัวสูงเกินไป แล้วข้างนอกไม่ได้มีเสน่ห์มาก
โลกส่วนตัวที่สูงเกินไปนั้น มันก็อาจเป็นแรงผลักให้คนอื่นเขารู้สึกว่าเข้าไม่ถึง

รู้สึกเหมือนนั่งใกล้ๆ แต่ว่าใจอยู่ที่ไหนก็ไม่ทราบ
อะไรแบบนี้นะ ก็เป็นเหตุได้เหมือนกัน



คืออย่าคิดถึงกรรมเก่าที่เรามองไม่เห็นอย่างเดียว
ลองมองดูเหตุปัจจัยภายใน ใจของเรานี่นะ
เราเปิดรับหรือว่ามีความสามารถที่จะคอนเน็ค (
connect) เชื่อมต่อ
กับคนรอบข้างแค่ไหน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพศตรงข้าม
คือบางทีสิ่งที่เห็นได้ยากที่สุดก็คือตัวเราเอง
แต่ถ้าเราสังเกตเอาจากคนที่เราพบเราเจอ ที่เห็นได้ในชีวิตประจำวันทั่วไป
ตามที่ทำงาน ตามโรงเรียน หรือว่าตามที่สาธารณะก็ตามนะ
เราจะค่อยๆ เก็บไว้เป็นจิ๊กซอว์ แล้วมาถามตัวเองว่า เออ ตรงนี้นี่เราเป็นแบบเขาหรือเปล่า
มันจะค่อยๆ เห็นขึ้นมาทีละนิดทีละหน่อย ทีละชิ้นทีละอัน
แล้วเราพอมองเห็นตัวเองได้ว่า อ๋อ! เพราะเราตั้งจิตไว้แบบนี้
มันถึงไม่มีใครอยากจะเฉียดเข้ามาใกล้ หรือว่าได้เข้ามาอยู่กับเราจริงๆ


อย่างบางคนนะ คือไม่ใช่ว่าไม่เอาใคร ตรงกันข้ามเอามากเกินไป
คือแบบเหมือนกับพอรักใครชอบใคร แล้วจะมีความกระเหี้ยนกระหือรือ
อยากจะให้เขามาชอบหรือว่าอยากให้เขามาหลง
ความอยากจะรุกมากเกินไป กระแสที่มันรุก
กระแสที่มันพยายามจะวิ่งไล่มากเกินไป ทำให้เขาเกิดความรู้สึกอยากวิ่งหนี

เคยไหม แบบอยากได้ใครมากเกินไป อยากรู้จักใครมากเกินไป
คือคุณอาจเป็นฝั่งรับนะ คือแบบว่ามีใครมาไล่ตามคุณ
อย่างพวกเซลล์ พวกแจกใบปลิวอะไรแบบนี้ ตามห้างแบบนี้
ขนาดหน้าตาสวยๆ นะ ปกติคนจะวี้ดวิ้วใช่ไหม คนจะแบบว่ามอง
แต่พอเอาใบปลิวมาแจกนี่กลายเป็นเมินไปเลย
กลายเป็นเดินหนี กลายเป็นแบบว่าหลีกไม่เอา



อันนี้คือพูดง่ายๆ นะเหตุปัจจัยที่ทำให้ไม่ได้อยู่กับใคร
หรือว่าไม่ได้เจอคนที่จะเข้ามาใกล้ชีวิต
มันไม่ใช่เรื่องของเก่าอย่างเดียว บางทีเรื่องของใหม่มันก็อาจเกี่ยวข้องอยู่ด้วย
ซึ่งคือถามสั้นๆ แบบนี้ แล้วผมตอบกว้างๆ แบบนี้
มันอาจไม่รวมลงเป็นคำตอบสำหรับคุณโดยเฉพาะนะ
จะบอกเท่านั้นว่าเหตุปัจจัยที่บางทีมันปรากฏอยู่โต้งๆ อยู่ตรงหน้านี่แหละ
แต่เราไม่รู้ เพราะไม่เคยสังเกต
ถ้าเราลองสังเกตคนอื่น แล้วลองถามตัวเองง่ายๆ
ถามเป็นจิ๊กซอว์ทีละชิ้นๆ ว่าแบบนี้เรามีส่วนเป็นแบบเขาหรือเปล่า
มันจะค่อยๆ เข้าใจตัวเองเหมือนได้เห็นกระจกส่องมากขึ้นๆ นะครับ



แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP