ดังตฤณวิสัชนา Dungtrin's Answer

จะปล่อยวางความผิดหวังเพราะบุคคลที่เคารพนับถือทำผิดศีลธรรมได้อย่างไร



ถาม – บุคคลที่ดิฉันเคารพนับถือมากท่านหนึ่งได้ทำผิดศีลข้อกาเมสุมิจฉาจาร
เมื่อดิฉันได้ทราบเรื่องก็รู้สึกผิดหวังและเสียใจมาก ขอคำแนะนำในการปล่อยวางด้วยค่ะ



มองเป็นอนัตตาให้เป็นนะครับ
คือเวลาที่เราจะทำความเข้าใจพระพุทธศาสนา

ท่านให้ทำความเข้าใจนับเริ่มจากเห็นลมหายใจไม่เที่ยง ไม่ใช่ตัวตนนะ
แล้วก็ขยายขอบเขตลามออกไป อิริยาบถนี้ก็ไม่เที่ยง ไม่ใช่ตัวตนนะ
ความสุขความทุกข์ที่เกิดขึ้นในกายใจนี้ก็ไม่ใช่ตัวตน มันไม่เที่ยง
เดี๋ยวมันก็สุขเดี๋ยวมันก็ทุกข์ สลับไปสลับมานะ
ความคิดจะดีจะชั่วก็ตามในหัวของเราเองก็ไม่ใช่ตัวตน
บางทีเรายังไม่เข้าใจตัวเองเลย เมื่อวานนี่คิดไปอย่างนั้นเข้าไปได้อย่างไร
นั่นก็เพราะว่าเมื่อวานมันไม่ใช่ตัวนี้แล้ว มันเปลี่ยนไปแล้ว



ทีนี้พอเราเห็นความไม่ใช่ตัวตนของตัวเองได้เป็นตัวตั้ง
เราก็จะพลอยมองเห็นสิ่งอื่นไม่ใช่ตัวตนไปด้วย

คือพูดง่ายๆ ว่าถ้าเราได้ความเข้าใจจากตรงนี้นะ อนัตตาธรรมภายใน
เราจะไปเห็นอนัตตาภายนอกได้ตามไปด้วย

แต่ถ้าหากว่าเราไม่สามารถเห็นตัวนี้โดยความเป็นอนัตตาได้ เราก็จะไปยึดอยู่อย่างนั้น
อย่างมีข้อแม้ ในกรณีนี้ว่าเรามีความเคารพ เรามีความรู้สึกเลื่อมใส
หรือมีอะไรก็แล้วแต่ที่จะทำให้ยึดติดน่ะ
ว่าเขาน่าจะดีนะ เขาน่าจะเป็นคนที่ไม่มีความด่างพร้อย
น่าจะเป็นคนที่อยู่บนเส้นทางกรรมสีขาว
ไม่หลงไปในเส้นทางกรรมสีดำเลยอะไรแบบนี้นะ เราก็จะมีข้ออ้างที่จะยึด
แต่ถ้าเราแม่นที่จะมองเข้ามาว่าแม้แต่ตัวเราเอง
แม้แต่กายนี้ใจนี้เราก็ควบคุมให้มันอยู่ในร่องในรอยตลอดเวลาไม่ได้
มันขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัยบีบคั้น
แล้วก็ขึ้นอยู่กับว่าใจนี่จะปฏิเสธหรือว่ายอมรับนะ
เหยื่อล่อที่มันมาวางอยู่ตรงหน้า มาจ่ออยู่ตรงหน้าให้ตะครุบนี่นะ



พอเรามองออกมาว่าที่ผ่านมาเราก็ไม่ได้ดีได้ตลอด
แล้วก็จะเริ่มทำใจได้ว่าเส้นทางกรรมของแต่ละคน
มันพาไปสู่อะไรอย่างหนึ่งเสมอ
อย่างที่พระพุทธเจ้าตรัสน่ะ "สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม"
มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ นะครับ แต่ละคนมีเส้นทางกรรมของตัวเอง
แล้วก็ไปฉุดกระชากลากถู
ให้คนอื่นเขามาเดินตามเส้นทางกรรมของเราด้วยกำลัง มันไม่ได้
ถ้าเราจะทำได้ มันก็คือว่ามีจังหวะ มีโอกาสนะที่จะพูดให้เขาคลิก
ซึ่งไม่ใช่ด้วยการพูดบังคับ ไม่ใช่ด้วยการใช้อุบายหลอกล่ออะไรเล็กๆ น้อยๆ
แล้วมันจะเกิดความรู้สึก โอ้โห! หูตาสว่างตามเรากันได้นะ มันไม่ใช่ง่ายแบบนั้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของกามคุณ
พระพุทธเจ้าท่านยังตรัสเลยบอกว่าช้างนี่ยอมกับมนต์สะกดได้นะ
แต่ถ้ากามราคะ ถ้าตกมันขึ้นมาเพราะกามราคะ มันวิ่งกระเจิดกระเจิงไม่สนใจนะ
มนต์ชนิดไหนๆ ในโลกก็สะกดช้างไม่ให้ไปหาตัวเมียไม่ได้อะไรแบบนี้นะครับ



ความจริงประจำโลก ประจำจักรวาลนี้ก็คือกามมันมีอำนาจใหญ่ที่สุดแล้ว
ถ้ากามไม่มีอำนาจใหญ่ มันฉุดให้สัตว์โลกจมอยู่กับมันไม่ได้หรอก
มันเป็นสิ่งที่มีอำนาจสูงสุดนะ เหนือจิตเหนือใจเรา
มันขึ้นอยู่กับว่าใจของแต่ละคนจะครองตนอยู่ในกรอบของศีลธรรมแค่ไหน
มันต้องอาศัยความเต็มใจ แล้วต้องอาศัยพละกำลังนะ
กำลังใจจากตัวเองที่ยิ่งใหญ่มากเลย
ที่มันเห็นโทษเห็นภัยของการหลงเข้าไปในข้อกาเมฯ

ถ้าไม่เห็นด้วยตัวเอง ใครมาชวนให้เห็นนะ ใครมาชี้
มันไม่สามารถที่จะเป็นไปได้เลยนะครับ
คุณคิดง่ายๆ ถึงสภาพของช้าง ช้างตกมัน ช้างที่มันกำลังอยากจะไปหาตัวเมียให้ได้
พระพุทธเจ้าตรัสนะว่าแม้แต่มนต์สะกดก็ห้ามไม่อยู่นะ เอาให้อยู่ไม่ได้
แล้วมนุษย์ที่มันมีความลุ่มหลงยิ่งกว่าช้างอีก
แล้วก็มีความสามารถที่จะดิ้นรน ที่จะพุ่งไปหาเป้าหมายคือกามได้ยิ่งกว่าช้าง
มันจะไปห้ามอยู่ได้อย่างไร อันนี้ก็ทำใจนะ


แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP