ดังตฤณวิสัชนา Dungtrin's Answer

ถ้าเคยผิดศีลข้อกาเมสุมิจฉาจาร จะยังสามารถปฏิบัติธรรมได้ไหม



ถาม
– ดิฉันเคยผิดศีลข้อกาเมสุมิจฉาจาร จนทำให้ครอบครัวแตกแยก ไปไหนก็มีแต่คนรังเกียจ
ตอนนี้พยายามสวดมนต์และนั่งสมาธิ แต่ก็พบว่าจิตฟุ้งมากค่ะ
อยากทราบว่าคนที่เคยผิดศีลแบบนี้ แต่ตั้งใจจะไม่ทำผิดอีกแล้ว
จะยังสามารถปฏิบัติธรรมเพื่อให้ความทุกข์ในใจลดลงได้บ้างหรือไม่คะ


อันนี้คือธรรมชาติธรรมดาของการผิดศีลนะ ไม่ว่าจะข้อไหนนะครับ
ถ้ามีเครื่องพิสูจน์ คือมาพยายามทำสมาธิ แล้วก็พยายามตั้งทิฐิให้เห็นตรงนะ
ว่ากายนี้ใจนี้ ไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน มันจะรู้สึกว่าทำไม่ได้
มันจะรู้สึกว่ามีความฟุ้งซ่านปั่นป่วน มีความรู้สึกว่าความเห็นไม่สามารถตั้งให้ตรง
มันจะมีอาการบิดเบี้ยว มันจะมีอาการเหมือนกับท้อ
มันจะมีอาการเหมือนกับ เอ๊ย
! เราทำไม่ได้หรอกนะ


ทีนี้ถ้าเราตั้งใจรักษาศีลไประยะหนึ่ง แล้วมีเหตุยั่วยุให้เราผิดศีลนะ ไม่ว่าจะข้อไหนนะ
แล้วเราสามารถผ่านไปได้เป็นขั้นๆ จากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปี
จนกระทั่งมีบารมีทางศีลมากพอนะ
ใจจะรู้สึกว่า เออ มันเริ่มตรงมากขึ้น มันเริ่มสะอาดพอที่จะตั้งเป็นสมาธิ
แล้วสามารถเห็นความไม่เที่ยงของกายของใจนี้ได้นะ
ตรงนี้ก็จะเป็นประสบการณ์เฉพาะคนที่รู้ได้นะเฉพาะตนนะครับว่า
เออ เรื่องของศีล มันจำเป็นจริงๆ นะ



ทีนี้ถ้าอย่างบางคนนะทำแค่ครั้งเดียวหรือสองครั้ง ด้วยอารมณ์แบบห้ามใจไม่อยู่จริงๆ
ก็สังเกตได้จากตรงนี้ว่าศีลเรากลับมาเป็นปกติได้หรือยัง
หรือว่าเรามีศีลมากพอที่จะทำสมาธิได้ไหม
ก็ดูตรงที่ว่าถ้าใจมันสะอาดๆ อยู่อย่างนี้ แล้วเราสวดมนต์
หรือมานั่งสมาธิอย่างถูกต้อง ดูลมหายใจอย่างถูกต้อง แล้วเกิดสมาธิขึ้นมาได้
อันนั้นแหละตัวตัดสินอย่างหนึ่งว่าศีลเรากลับมาบริบูรณ์ดังเดิมได้แล้วนะ
มันไม่ใช่ว่าขาดศีลไปในระดับของฆราวาส ในระดับของปุถุชนแล้ว
มันจะกลับมาต่อไม่ได้นะ มันเป็นของกลับมาต่อได้ สมบูรณ์ได้นะครับ



หรืออย่างบางคนสงสัยนะ อันนี้ต่อยอดไปถึงคำถามอื่นได้เลย
คือว่าอย่างไปกินเหล้ามาอึกหนึ่ง หรือว่าเกิดความรู้สึกผิดมากมาย
เกิดความรู้สึกว่า โอย เดี๋ยวฉันจะไม่สามารถบรรลุธรรมได้อะไรแบบนี้นะ
มันพิสูจน์กันได้ง่ายๆ คือถ้าหากว่าไปกินเหล้ามาแค่คำเดียว แล้วไม่ได้เมาไม่ได้อะไร
ลองมานั่งสมาธิดู ถ้านั่งได้ ถ้าจิตเห็นตรงนะ สามารถรู้ความไม่เที่ยงของลมหายใจ
สามารถเห็นความไม่ใช่ตัวเดิมของความคิดปรุงแต่งในหัวได้
อันนี้แสดงว่ายังเหมือนกับไม่ใช่ความผิดร้ายแรงมาก
คือศีลขาดไปแล้วนะ แต่กลับมาต่อได้ใหม่อย่างรวดเร็ว

เพราะไม่ได้ทำเป็นประจำ ไม่ได้ทำด้วยความยินดี ยังมีความรู้สึกละอาย ยังมีความรู้สึกผิด
แบบนั้นพอรีบกลับมาทำสมาธิแล้วดูใจตัวเอง
มันก็จะสามารถเห็นได้แล้วว่า เออ ยังพอไปไหวอยู่นะ



คือถ้าหากว่าเราสงสัยเกี่ยวกับเรื่องศีล แล้วเราเป็นผู้หนึ่งที่มีความสามารถทำสมาธิ
เราก็จะใช้ตัวสมาธินั่นแหละเป็นเครื่องตรวจสอบได้ว่าเรากลับมาพร้อมแล้วหรือยังนะ
ศีลเรา มีกำลังไหม มีบารมี มีฐานมากว้างขวางแค่ไหนหนาแน่นแค่ไหน
คืออย่างบางคนนะ รักษาศีลมาได้ตลอด แต่ว่าไปพลาดทำเรื่องไม่ดี
ไปจิ๊กของเขาหรือว่าไปอะไรโดยที่แบบเหมือนกับไม่ได้เต็มใจ ถูกสั่งถูกใช้มาอะไรอย่างนี้
แล้วก็เกิดความรู้สึกผิดอย่างรุนแรง เกิดความสงสัยตัวเอง
ว่าตัวเองจะกลับมาถือศีลได้หรือเปล่า
ก็อาศัยตรงนี้มาเป็นเครื่องตรวจสอบได้นะครับ
เพราะว่าจิต มันไม่ใช่หนึ่งบวกหนึ่งเป็นสองนะ
มันเป็นอะไรที่ขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัย ขึ้นอยู่กับพื้นฐาน
ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบแวดล้อมหลายๆ ทางนะ
มันไม่ได้มีแค่จุดใดจุดเดียวที่บ่งชี้ตายตัวได้ว่านี่หมดสิทธิ์แล้วนะ



แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP