ดังตฤณวิสัชนา Dungtrin's Answer

เมื่อตายจากความเป็นมนุษย์ในชาตินี้แล้ว จะยังจำเรื่องราวต่างๆ ได้หรือไม่



ถาม – พอเราตายจากชาตินี้แล้ว ไม่ว่าจะตกนรกหรือขึ้นสวรรค์ก็ตาม
ความทรงจำทุกอย่างตอนเป็นมนุษย์ จะยังอยู่เหมือนเดิมไหมครับ



มีอยู่หลายแบบนะ จะยกตัวอย่างให้ชัดเจนที่สุดก็แล้วกัน
อย่างถ้าคนฆ่าตัวตาย ก่อนที่จะลงมือฆ่าตัวตายนะ
มักจะคิดอะไรสั้นๆ มักจะคิดอะไรได้แค่แคบๆ จำอะไรได้ไม่กี่อย่างนะ
จำความรู้สึกน้อยใจ จำความรู้สึกเครียด จำความรู้สึกทนไม่ไหวแล้ว
มันมีแต่เสียงก้องหัว ทนไม่ไหวแล้วโว้ย
! จะต้องดิ้นรนหนีออกไปให้ได้
ความจำได้ไม่กี่อย่างนั้นน่ะ พอฆ่าตัวตายไปมันก็อยู่ อยู่อย่างนั้นแหละ
คือไปเสวยภพตรงนั้นแหละ ฆ่าตัวตายตรงไหนก็ผูกใจแน่นอยู่ตรงนั้น
มันมีอาการฆ่าตัวตายซ้ำๆ อันนี้เรื่องจริงนะที่เห็นในหนังหรืออะไรนี่
เขาเอามาจาก บางทีครูบาอาจารย์เล่าให้ฟัง บางทีพวกหมอผีอะไรมาบอก
ประเภทที่มีวิญญาณเฮี้ยนมาปรากฏตัว แสดงอาการฆ่าตัวตายให้ดู
เรื่องจริงนะ คือมันวนเวียนอยู่กับความจำ


อย่างที่อธิบายตอนต้นรายการนะ บอกว่าถ้าเวทนาเข้มข้น สัญญาก็เข้มข้นเช่นกัน
อันนี้ก็ด้วยนะ คือถ้าเวทนานี่สุดท้ายมีความเข้มข้นแบบไหนมาก
ความจำที่ผูกติดอยู่กับเวทนานั้น หรือว่าสัญญาที่ผูกติดอยู่กับเวทนานั้น
มันก็แจ่มชัดตามไปด้วย แล้วก็ไปปรุงแต่งให้เกิดร่างใหม่
ร่างของเปรตที่เสวยเวทนาแล้วก็สัญญาแบบเดิมๆ ซ้ำไปซ้ำมา
ตราบเท่าที่ยังไม่หมดอายุของความเป็นเปรตแบบนั้น



คือพูดง่ายๆ ว่าฆ่าตัวตายแบบที่กำลังคิดสั้นอยู่
มันก็ได้เสวยอารมณ์ก่อนฆ่าตัวตายไปเรื่อยๆ มันก็จำได้อยู่แค่นั้น
แต่ไม่รู้ว่าตัวเองน่ะตายแล้วนะ
บางคนก็รู้ รู้แล้วก็เสียใจ แล้วก็แก้ไขอะไรไม่ได้
นี่เป็นตัวอย่างว่าถ้าตายไปสู่ความเป็นเปรต
จากมนุษย์ไปสู่ความเป็นเปรตนะ มักจะจำได้

โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเภทที่ตายไปแบบยังมีความยึดมั่นถือมั่นแบบมนุษย์อยู่สูง
ความทรงจำแล้วก็ความรู้สึกแบบมนุษย์ก็จะยังติดตัวตามไป



แต่ถ้าหล่นลงไปไกล ลงไปลึกมากๆ ไปเป็นสัตว์นรก
จะมีเวทนาที่แตกต่างจากความเป็นมนุษย์มาก
คือพอไปอยู่ในนรกที่มันเผ็ดร้อน ที่มันแสบร้อนมากๆ
หมดกัน คือจิตที่เสวยอารมณ์ ที่มันทุกข์แก่กล้ามากๆ มากกว่าตอนเป็นมนุษย์
จะทำให้ความจำแบบมนุษย์นี่ค่อยๆ หายไปอย่างรวดเร็ว
ลองนึกดูถึงความฝัน ตอนคุณฝันร้ายมากๆ
มันจะจำไม่ได้นะว่าคุณเป็นใคร
จำได้แต่มีอาการวิ่งหนี จำได้แต่มีอาการที่หน้าตื่นนะ กลัว
เกิดความรู้สึกว่าลนลาน หาที่พึ่งอะไรแบบนั้นน่ะ
มันจะจำไม่ได้แล้วว่าตัวเราชื่ออะไร มีแต่ความรู้สึกอยู่ในขณะนั้นว่าต้องวิ่งหนี
หรือว่าต้องทรมาน ปวดแสบปวดร้อน หรือว่าร้องโอดโอยนะ
แต่ก็จะมีสัตว์นรกบางประเภทที่ เหมือนกับก่อนที่จะเสวยโทษทัณฑ์
ก็จะมีนิมิตปรากฏขึ้นมานะว่า เมื่อครั้งเป็นมนุษย์เคยไปทำอะไรถึงได้มารับผลแบบนั้น



คือมันมีแยกย่อยไปเยอะนะ
อย่างถ้าตายจากความเป็นมนุษย์ไปสู่ความเป็นสัตว์
ถ้าไปเป็นหมาทันที ไปเป็นแมวทันที หรือไปเป็นลิงนะ
ที่มีความผูกพันหรือว่ามีความใกล้เคียงกับมนุษย์
สามารถที่จะกลับมาข้องเกี่ยวกับมนุษย์ได้อีก บางทีมันจำได้นะ
อันนี้ผมเห็นสัตว์หลายตัวเลย พวกหมาพวกแมวอะไรเนี่ย
มันคุยกับมนุษย์รู้เรื่องนะ มันฟังรู้เรื่องทุกคำนะ แล้วก็คิดได้แบบมนุษย์ด้วย
แต่ไม่สามารถพูด ไม่สามารถสื่อสารได้



สัตว์บางตัวนี่จิตแรงมากนะ คือสามารถมาเข้าฝันมนุษย์ได้
แล้วก็เหมือนกับพอไม่มีม่านกั้น ไม่มีกำแพงกั้นเกี่ยวกับเรื่องภาษาแล้ว
สื่อจิตถึงจิตได้ สัตว์บางตัวมาบอกมนุษย์ได้นะว่าต้องการอะไร รู้สึกอย่างไร
หลายๆ คนที่รักสัตว์มากๆ เลี้ยงสัตว์ราวกับเป็นลูก ก็เลยบางทีฝัน ฝันถึงนะ
แล้วก็ราวกับรู้ รู้อารมณ์ของสัตว์ที่ตัวเองรักมากๆ ราวกับว่าเป็นมนุษย์คนหนึ่ง
เพราะฉะนั้นอันนี้ก็ไม่น่าแปลกใจว่า
ทำไมบางทีถึงเกิดความรู้สึกผูกพันกันเหลือเกินนะ ราวกับว่าเป็นมนุษย์ด้วยกัน



อย่างสมัยพุทธกาล ก็มีกรณีที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสเองเลยนะ
บอกว่ามีเศรษฐีคนหนึ่ง ตอนมีชีวิตอยู่ฝังเงินใส่ตุ่มบ้าง
คืองกมากน่ะ มีเงินไม่ได้เอาไปใช้ ไม่ได้ทำให้เกิดประโยชน์ ไม่ได้ทำบุญทำกุศลอะไรนะ
ไปฝังตุ่มเสียอย่างนั้นน่ะ แล้วก็ไม่ให้ลูกให้หลานด้วยนะ
แล้วเดี๋ยวนี้ก็มีแบบนั้นนะ คือพอมันรวยจนโง่ รวยจนแบบว่าใช้เงินไม่เป็นน่ะ
แล้วรวยแบบไม่หัดให้ทานนะ วันหนึ่งมันแบบว่าทำอะไรโง่ๆ ไป
คือสมบัตินี่ไม่ได้เอาไปไหน ฝังไว้ตามพื้นบ้าน



เสร็จแล้วตายไป ด้วยความที่มีความตระหนี่จัดก็เลยเป็นเหตุให้ไปเป็นหมา
ทีนี้เป็นหมาที่เกิดใกล้บ้านตัวเอง ใกล้บ้านเก่าตัวเองนะ
แล้วก็มาเจอลูกหลานก็มาโฮ่งๆ อยู่อย่างนั้น
ลูกหลานก็แบบเหมือนกับไล่ตะเพิดน่ะ ไม่ดูดำดูดี
เพราะว่าจำไม่ได้ไงว่านี่เป็นพ่อตัวเอง เป็นปู่ตัวเอง เป็นตาของตัวเองนะ
กลับมาเกิดเป็นหมา


ทีนี้พระพุทธเจ้าท่านเห็นประโยชน์ ท่านเห็นอย่างนั้น
ท่านก็เลยสงเคราะห์ บอกว่านี่ อันนี้คือพ่อของเธอในชาติก่อน
นี่คือตาของเธอ นี่คือปู่ของเธอ มาเกิดเป็นแบบนี้
แล้วคนฟังก็ไม่เชื่อ พระพุทธเจ้าก็เลย เอ้า นี่ เดี๋ยวให้มันนำไป
สมบัติฝังอยู่ตามจุดไหนของบ้านนะ มันบอกได้ถูกหมดเลย
พวกนั้นเลยเชื่อ แล้วก็ เออ อันนี้เป็นผู้ใหญ่ในบ้านนะ
ที่เคยเป็นท่านเศรษฐีจริงๆ แล้วมาปรากฏในรูปของสุนัขเสียแล้ว



นี่ก็เป็นตัวอย่างให้เห็นนะว่า
ถ้าเพิ่งไปจากความเป็นมนุษย์ ไปสู่ความเป็นสัตว์เดรัจฉาน
แล้วก็อยู่ในละแวกสถานที่แบบเดิมๆ
ที่กระตุ้นให้เกิดความจำได้ มันก็จะยังจำได้อยู่

แต่ถ้าไปเกิดเป็นสัตว์นานแล้วหลายภพหลายชาติ ไม่ออกจากความเป็นสัตว์สักทีนะ
อย่างครูบาอาจารย์ที่เคารพของเราบางท่านก็มาเล่าให้ฟังนะ เล่าให้เป็นอุทาหรณ์นะ
บอกว่าพอท่านพลัดพลาดลงไปเกิดเป็นสุนัข ท่านอยู่อย่างนั้นหมื่นชาติ
เพราะว่าติดใจกามแบบสุนัขหรือว่าภาวะแบบสุนัข
ท่านระลึกชาติได้ แล้วท่านก็ร้องไห้สงสารตัวเองนะ
นี่สังสารวัฏมันน่ากลัวจริงๆ พลาดลงไปทีเดียว
บางทีไม่รู้เลยนะว่านานเท่าไหร่กว่าจะได้กลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีกนะ



อันนี้ก็คือถ้าพูดถึงเรื่องความจำหลังความตายนะ
เอาง่ายๆ ว่าหากกลับมาเกิดในโลกนี้
จะในสภาพของมนุษย์หรือในสภาพของสัตว์ก็แล้วแต่
ถ้ามาอยู่ในละแวกเดิม ส่วนใหญ่จะระลึกชาติได้

อย่างเด็กนี่ระลึกชาติได้กันเยอะ
เพราะว่าหลายคนกลับมาเกิดในที่ที่จะเห็นหน้าคนเก่าๆ
แล้วก็เห็นสิ่งแวดล้อมแบบเดิมๆ มันก็เลยกระตุ้นความทรงจำกลับมานะครับ


แต่อย่างถ้าไปเกิดเป็นสัตว์ประเภทอย่างมด หนู ตัวเล็กๆ สมองเล็กๆ
คืออย่างสัตว์นะ หู ตา จมูก
เวลาที่มันรับประสบการณ์โลกภายนอกเข้ามา มันไม่เหมือนกับมนุษย์นะ
ยิ่งสัตว์ตัวเล็กลงเท่าไหร่ ยิ่งมีประสาทสมองน้อยลงเท่าไหร่
มันยิ่งมีความมัว มีความพร่าเลือน มีความไม่ชัดเจน แล้วก็จำอะไรไม่ได้
ต่อให้มาเกิดในบ้านตัวเองนะ แต่เป็นหนู
สภาพที่มันใหญ่ขึ้น สภาพที่บ้านไม่ปรากฏเป็นบ้านแบบเดิมนะ
มันก็ทำให้จำอะไรไม่ได้ มันขึ้นกับสภาพแวดล้อมที่ไปเกิดด้วยนะครับ



แล้วก็อย่างถ้าไปเกิดเป็นเทวดาหรือว่าไปเกิดเป็นพรหม
อันนี้คิดว่าน่าจะเกือบร้อยทั้งร้อยนะ จะระลึกได้ว่าตัวเองมาจากไหน

ที่จำไม่ได้ ส่วนใหญ่จะเป็นพวกมิจฉาทิฏฐิ
อย่างพวกที่เป็นมิจฉาทิฏฐิ ไม่ใช่ไปนรกอย่างเดียวนะ ไปเป็นเทวดาได้ด้วย
เพราะคำว่ามิจฉาทิฏฐิคือการตั้งความเห็นไว้ไม่ถูก การตั้งความเห็นไว้ไม่ตรง
คือถ้าแค่ไม่เชื่อว่านรกสวรรค์มีหรือว่าวิบากกรรมมี
อันนี้ถ้าไม่เชื่อส่วนตัวนะยังไม่เป็นอะไรเท่าไหร่
คือเพราะหลายคนถึงแม้ว่าจะไม่เชื่อเรื่องการเวียนว่ายตายเกิด
แต่ก็ไม่ทำบาปทำกรรม แล้วก็ยังทำบุญทำกุศล
ด้วยใจชอบให้เป็นอย่างนั้น ให้ตัวเองเป็นอย่างนั้นนะครับ
ตายไปก็มีสิทธิ์ได้ไปสวรรค์
อย่างที่พระพุทธเจ้าตรัสน่ะ ถึงแม้จะไม่ปรารถนาไปสวรรค์
แต่ถ้าทำถูกเหตุถูกผลที่จะได้ไปสวรรค์ ก็ได้ไปสวรรค์อยู่ดี


ทีนี้ถ้าหากว่าเป็นพวกที่ไม่แค่มีความไม่เชื่อไว้เป็นส่วนตัวนะ
ไปเผยแพร่ แล้วก็พยายามทำให้คนอื่นเชื่อว่า
ไม่มีหรอกนรกสวรรค์ รับประกันได้
มันเรื่องหลอกเด็ก นิทาน จนป่านนี้ยังมาเชื่ออะไรอีก
พวกนี้นะ มันจะก่อมโนกรรม วจีกรรม แล้วก็กายกรรม
ที่ห่อหุ้มให้บางทีต่อให้ได้ดิบได้ดีไปเกิดเป็นเทวดา
ก็ลืมนะ ลืมว่าตัวเองเคยเป็นใครมา
คือเหมือนกับว่าวิบากที่เคยไปพยายามเค้นคอให้คนอื่นไม่เชื่อ
เรื่องเวียนว่ายตายเกิดหรือว่าเรื่องการมีวิบากของกรรมนี่นะ
ทำให้ไปเกิดใหม่ แล้วก็ถูกบล็อกความจำ
คือนึกว่าตัวเองเกิดมาก็เป็นเทวดาอย่างนี้เลย
หรือแม้แต่พระพรหมนะ ต่อให้เป็นพระพรหมที่รู้แจ้งจักรวาล
บางทีรู้ภพภูมิอะไรอื่นหมด เห็นคนอื่นเกิดตายหมด แต่ไม่เห็นตัวเองเกิดตายเลย
ก็หลงยึดว่าตัวเองนี่เป็นต้นกำเนิดจักรวาล เป็นผู้สร้างภพภูมิอะไรว่ากันไปนะ
อันนี้ก็เป็นมิจฉาทิฏฐิได้หลายแบบนะครับ
มิจฉาทิฏฐินี่ก็ทำให้ต่อให้เป็นเทพเจ้าก็ไม่สามารถที่จะจำได้
ว่าตัวเองเคยทำอะไรมาถึงได้มาสู่ความเป็นแบบนี้


แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP