ดังตฤณวิสัชนา Dungtrin's Answer

ถ้ารู้สึกว่าตัวเองไม่มีอิสระ ควรทำบุญอย่างไร



ถาม – ดิฉันรู้สึกว่าตัวเองไม่มีอิสระเลยค่ะ ควรทำบุญอย่างไรดีคะ



อิสระในแง่ไหน ถ้าหากว่าอิสระทางการเงินนะครับ
ก็ต้องมีไอเดียนะ ทำธุรกิจของตัวเอง แล้วก็รวยกว่าที่เป็นอยู่
หรือถ้าเป็นอิสระในแบบที่เราจะไม่ต้องไปมีพันธะอะไรกับใครนะ
อย่างนี้บางทีพูดยากนะ ถ้าเกี่ยวกับคนนะครับ ถ้าไปมีพันธะกับคนบางคนนะ
ผมยกตัวอย่าง อย่างพระพุทธเจ้าไม่เคยไปทำอะไรให้พระเทวทัตเลยนะ ด้วยเจตนานี่
แต่ว่าพระเทวทัตก็ตามเบียดเบียนราวีท่านเพราะจองเวรมาหลายชาติ อะไรแบบนี้นะ



เพราะฉะนั้นคือเรื่องของการเป็นอิสระอย่างแท้จริง
บางทีเราไปกะเกณฑ์ไม่ได้หรอกว่าทำบุญถึงขั้นนั้นขั้นนี้
ทำบุญอะไรแบบไหนแล้วจะได้เป็นอิสระจากพันธะกับบุคคลนะครับ
บางทีถ้าเขายังจองล้างหรือว่าตามบีบเรามัดเรา มันก็พูดยาก
มันแล้วแต่ว่าเราจะทำอย่างไรให้เขาใจอ่อน
ถึงจะละลายความรู้สึกที่ตามล้างตามเช็ดเขาได้
มันต้องเจาะจงเป็นกรณี ต้องเจาะจงกันเป็นบุคคลนะครับ
มันไม่สามารถที่จะมาระบุเป็นบุญแบบมาตรฐาน บุญคลาสสิกนะครับ
ประเภทที่ฟิกซ์ตายตัวเลยว่าถ้าทำแล้วจะได้เป็นอิสระนะครับ



แต่มันมีบุญแบบที่ให้ผลชั่วคราว ให้เกิดความรู้สึกเป็นอิสระทางใจ
เช่น ปล่อยนก ปล่อยปลา ปล่อยสัตว์ใหญ่
ให้ชีวิตเขาเป็นอิสระจากการต้องถูกฆ่าฟันนะ
หรือเมื่อไรก็ตามที่มีคนที่มาทำให้เราเดือดเนื้อร้อนใจโดยไม่ได้ตั้งใจ
แล้วเขามาขอโทษมาขอขมา เราบอกโอเค อภัยให้ อโหสิให้
แบบไม่มีเงื่อนไขด้วยใจที่เต็มร้อยจริงๆ ที่จะให้อภัยไป
อันนั้นเป็นการให้อิสระกับคนอื่น แล้วอิสระทางใจก็ย้อนกลับมาหาเรา



แล้วยิ่งให้อิสระกับคนอื่นมากขึ้นเท่าไร
ก็ยิ่งมีพลังที่จะปลดปล่อยปลดล็อกชีวิตของเราออกเป็นอิสระ
มันขึ้นอยู่กับว่ามีการรบ มีการงัดข้อกัน ระหว่างบาปเก่ากับบุญใหม่แค่ไหนด้วยนะ

ซึ่งอันนี้ย้ำว่าเป็นเรื่องอจินไตย ไม่สามารถที่จะคาดคะเนได้
ถ้าหากว่ามีอภิญญาก็ว่าไปอย่างนะ สามารถรู้เรื่องของอจินไตยได้
มันจะคำนวณเป็นน้ำหนักได้นะว่า
บาปเก่ามีแค่นี้ บุญใหม่มีแค่นี้ มันประมาณกันหรือยัง สามารถเจือจางได้แล้วหรือยัง


พระพุทธเจ้าตรัสถึงเรื่องบุญเก่ากับบุญใหม่
ถ้าหากว่ามีบุญใหม่เยอะๆ มันเหมือนกับน้ำที่ไปละลายหรือว่าเจือจางเกลือนะครับ
ให้รสมันหายไปหรืออย่างน้อยแทบไม่เหลือเลย
ถ้ายิ่งเติมน้ำเข้าไปมากขึ้นเท่าไหร่ รสเกลือยิ่งน้อยลงเท่านั้น
พูดง่ายๆ ทำบุญทุกวิถีทาง ไม่ใช่ทำบุญที่วัดอย่างเดียวนะ

ทำอะไรก็แล้วแต่ในทางที่จะช่วยคน ในทางที่จะอภัยคน
นั่นแหละ ตัวนี้แหละที่จะรู้สึกอันดับแรกเลย เป็นอิสระทางใจ
เป็นอิสระจากความพยาบาทได้ ก็คือเป็นอิสระทางใจได้
แล้วถ้าหากเป็นอิสระทางใจมากๆ อยู่เหนือการเบียดเบียนราวีของคนอื่นได้
คุณจะพบว่าชีวิตนี่ได้อิสระขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าเริ่มขึ้นที่ใจ


แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP