จุดหมายปลายธรรม Destination@Dharmma

ทำใจได้ vs ไม่สนใจ


งดงาม
This e-mail address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it



262 destination



เมื่อไม่นานมานี้ มีญาติธรรมท่านหนึ่งซึ่งเป็นข้าราชการได้สนทนากับผม
ในเรื่องการสอบเลื่อนตำแหน่งในหน้าที่งานราชการของเขา
โดยญาติธรรมท่านนี้อยู่ในระดับอาวุโสในขั้นตนเอง
ที่สามารถที่จะสอบเลื่อนตำแหน่งได้
ซึ่งหากสอบได้แล้ว จะต้องเดินทางไปทำงานที่ต่างจังหวัด
อย่างไรก็ดี ญาติธรรมท่านนี้เป็นบุตรคนเดียว
และก็ต้องดูแลคุณแม่ที่แก่ชรามากแล้ว
หากเขาจะต้องเดินทางไปทำงานต่างจังหวัด
ก็ย่อมจะต้องพาคุณแม่ไปด้วย
ซึ่งคุณแม่ก็น่าจะไม่ยอมเดินทางไปด้วย
แต่เขาจะปล่อยให้คุณแม่อยู่คนเดียวก็ไม่ได้
ญาติธรรมท่านนี้จึงเลือกที่จะไม่สอบเลื่อนตำแหน่ง
เพื่อที่จะได้อยู่ดูแลคุณแม่ที่แก่ชรามากต่อไป
แต่เมื่อเขาได้เห็นเพื่อนรุ่นเดียวกันหรือรุ่นน้องสอบเลื่อนตำแหน่งไป
แล้วก็แซงระดับขั้นตนเองแล้ว บางทีเขาก็รู้สึกน้อยใจหรือเสียใจ
ว่าตนเองไม่มีโอกาสเช่นนั้น เพราะตนเองต้องอยู่ดูแลแม่ที่แก่ชรา


ผมได้ถามญาติธรรมท่านนี้ว่า เขาตัดสินใจเลือกแน่นอนหรือยัง
ว่าตนเองเลือกจะอยู่ดูแลแม่ และไม่สอบเลื่อนตำแหน่ง
ญาติธรรมท่านนี้ตอบว่า เขาตัดสินใจแน่นอนแล้วว่า
เขาเลือกที่จะอยู่ดูแลแม่ แต่ว่าเขาก็ยังทำใจไม่ได้


ผมเล่าว่า ผมรู้จักญาติธรรมท่านอื่นที่ประสบเหตุการณ์ทำนองเดียวกันนี้
ที่ตนเองเลือกเส้นทางเดินชีวิตอย่างหนึ่ง ทำให้ไม่ได้เลื่อนตำแหน่ง
แล้วเพื่อนรุ่นเดียวกันหรือรุ่นน้องก็ได้เลื่อนตำแหน่งไปก่อน
แต่ว่าญาติธรรมท่านอื่นนั้นก็ไม่ได้สนใจอะไร
เขาก็ดำเนินชีวิตได้ตามปกติอย่างมีความสุข ไม่ทุกข์ใจในเรื่องนี้เลย


ญาติธรรมท่านนี้ได้ฟังผมเล่าแล้วตอบว่า
ญาติธรรมท่านอื่นที่ผมอ้างถึงนั้น สามารถทำใจได้
ก็เป็นความสามารถส่วนตัวของญาติธรรมท่านอื่นนั้น
แต่ญาติธรรมท่านนี้ยังไม่สามารถทำใจได้
โดยเขาเห็นว่า หากเมื่อเวลาผ่านไปแล้ว
เขาได้อยู่กับเหตุการณ์เหล่านี้นานขึ้น
เขาคงจะเริ่มชินกับเรื่องเหล่านี้ และเขาก็น่าจะทำใจได้เอง


ผมได้ฟังแล้วก็อธิบายว่า ญาติธรรมท่านนี้เข้าใจผิดแล้ว
กล่าวคือ ที่ผมเล่าเรื่องของญาติธรรมท่านอื่นที่ผมอ้างถึงนั้น
เมื่อเขาประสบเหตุการณ์ทำนองเดียวกันนี้
เขา “ไม่สนใจ” ไม่ใช่ว่าเขา “ทำใจได้”
ซึ่งทั้งสองอย่างนี้แตกต่างกันมากครับ


ในกรณีของญาติธรรมท่านอื่นที่ผมอ้างถึงนั้น
เหตุที่เขาไม่สนใจในเรื่องปัญหาทำนองเดียวกันนี้
เพราะเหตุว่าเขาศึกษาและปฏิบัติธรรม
จนเขามีจุดมุ่งหมายในชีวิตที่แน่นอนว่าจะเดินทางพ้นจากสังสารวัฏ
โดยเขาไม่ได้ทุ่มเทชีวิตเพื่อขวนขวายหา “โลกธรรม” ที่ไม่เที่ยงเหล่านี้
ดังนั้นแล้ว เมื่อเขาประสบเหตุการณ์ทำนองเดียวกันนี้ เขาจึงไม่สนใจ
เพราะเห็นว่าตำแหน่ง ลาภ ยศ สรรเสริญ เหล่านี้
ล้วนแล้วแต่เป็น “โลกธรรม” ซึ่งเป็นของชั่วคราว
แต่เขาต้องการที่จะลงทุนใช้เวลาชีวิตในปัจจุบันของเขานี้
เพื่อสิ่งที่สำคัญและมีคุณค่ากว่านั้น จึงเป็นการตัดสินใจ
เลือกเดินคนละเส้นทางอย่างมีความรู้ทางธรรม และมีเป้าหมายชัดเจน


ในที่นี้ ยกตัวอย่างเปรียบเทียบว่า
ญาติธรรมท่านอื่นที่ผมอ้างถึงนั้นต้องการเดินทางไปทางทิศเหนือ
แต่ว่าเพื่อนรุ่นเดียวกันหรือรุ่นน้องของเขา
ได้เดินทางไปทิศตะวันออกอย่างรวดเร็วกว่าเขามาก
เขาย่อมไม่รู้สึกเลยว่า เขาโดนแซง
เพราะทั้งสองฝ่ายต่างก็เดินทางกันคนละเส้นทางและคนละทิศอยู่แล้ว


หรือ ญาติธรรมท่านอื่นที่ผมอ้างถึงนั้นถือศีลไม่ดื่มสุรา
ต่อมา หัวหน้างานให้สุราราคาแพงมาก ๆ
แก่เพื่อนรุ่นเดียวกันหรือรุ่นน้องของเขา แล้วก็นำมาดื่มกัน
เขาย่อมไม่รู้สึกอิจฉาหรือเสียดายอะไร
เพราะเขาเองก็ไม่ได้ต้องการดื่มสุรานั้นอยู่แล้ว เป็นต้น


เราจึงจะเห็นได้ว่า ญาติธรรมท่านอื่นที่ผมอ้างถึงนั้น
เขามีความรู้ และเขาเข้าใจ เขาจึง “ไม่สนใจ”
ไม่ใช่ว่าเขา “ทำใจได้” (เพราะเขาไม่ต้องทำใจอะไรเลย)
การที่ญาติธรรมท่านนี้จะปล่อยให้เวลาผ่านเลยไป
เพื่อตนเองได้อยู่กับเหตุการณ์เหล่านี้บ่อยและนานขึ้น
ทำให้เริ่มชินกับเรื่องเหล่านี้ และทำใจได้เอง
เป็นวิธีการที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
เพราะวิธีการของญาติธรรมท่านอื่นที่ผมอ้างถึงนั้น
ทำได้ด้วยการศึกษาและปฏิบัติธรรม
ทำให้มีความรู้และความเข้าใจในโลกธรรม
และมีเป้าหมายเส้นทางเดินชีวิตทางอื่นชัดเจน
ส่วนวิธีการของญาติธรรมท่านนี้ ไม่ได้ต้องทำอะไร
เพียงแค่ปล่อยเวลาให้ผ่านไป
เพื่อให้จิตใจชินกับเรื่องเหตุการณ์เหล่านี้
โดยไม่ได้ศึกษาและปฏิบัติธรรมอะไร
และก็ไม่ได้มีความรู้และความเข้าใจในโลกธรรมใด ๆ
จึงเป็นความแตกต่างกันอย่างมากครับ


อนึ่ง ญาติธรรมท่านอื่นที่ผมอ้างถึงนั้น
แม้ว่าเขาจะไม่ได้สนใจในตำแหน่ง ลาภ ยศ สรรเสริญก็ตาม
แต่ว่าเขาก็ยังทำงานหนักมากให้แก่องค์กร
และรับผิดชอบหน้าที่งานเป็นอย่างดี
ถือได้ว่าเป็นบุคลากรที่มีคุณค่ามากและสำคัญในองค์กร
โดยไม่ใช่ว่า หากเราไม่สนใจในตำแหน่ง ลาภ ยศ สรรเสริญ
แล้วเราก็ขี้เกียจ ไม่ทำงาน อู้งาน โดดงานได้
ถ้าเป็นแบบนั้น ย่อมไม่ใช่ผู้ศึกษาและปฏิบัติธรรมแล้วล่ะครับ
หากใครไม่สนใจทำงานตนเองให้ดี ไม่รับผิดชอบหน้าที่งานให้ดี
ขี้เกียจ อู้งาน โดดงาน โกงเวลางาน
ย่อมไม่ควรจะหลงเข้าใจผิด ตนเองศึกษาและปฏิบัติธรรม
และเข้าใจผิดว่าที่ตนเองทำเช่นนั้น เพราะไม่สนใจสิ่งที่เป็นโลกธรรม
กรณีเช่นนั้นเป็นความเข้าใจที่ผิดครับ
เพราะแม้ว่าจะไม่สนใจหรือให้ความสำคัญแก่สิ่งที่เป็นโลกธรรมก็ตาม
ผู้ศึกษาและปฏิบัติธรรมย่อมจะใส่ใจในการทำงาน รับผิดชอบงานในหน้าที่
ขยันขันแข็ง ไม่ขี้เกียจ ไม่อู้งาน และไม่โกงเวลางานครับ



แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP