ดังตฤณวิสัชนา Dungtrin's Answer

ถ้าคบกับคนที่ยังไม่ได้หย่า แต่เลิกรากันแล้วในทางพฤตินัย แบบนี้จะผิดศีลไหม



ถาม – ถ้าเราจะรักกับคนที่แต่งงานจดทะเบียนสมรส แต่ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกันแล้วในทางพฤตินัย
ที่เขาไม่หย่าเพราะให้เกียรติแม่ของลูก แบบนี้จะผิดศีลข้อสามไหมคะ



ปัญหาที่ทุกวันนี้เจอกันมากที่สุดก็คือว่า
เวลาที่ฝ่ายชายหรือฝ่ายหญิงอยากมีอะไรกับใคร
มักบอกว่าไม่ได้มีอะไรกันแล้ว
ซึ่งอันนี้ไม่ได้บอกนะว่ากรณีนี้เข้าข่ายหรือไม่เข้าข่ายนะ
แต่ผมบอกว่ามุขนี้คือใช้กันเยอะที่สุดน่ะ
บอกว่ากำลังจะหย่านะ ไม่มีอะไรกันแล้ว โอ๊ย เนี่ยดูสิแยกบ้านกัน ไม่ได้อยู่ห้องเดียวกัน



คือเสร็จแล้วพอไปมีอะไรกัน ความถึงแตกนะ
ว่าเขาก็ยังใช้ชีวิตอยู่ปกติ แบบผัวเมีย คู่ผัวตัวเมีย
ที่เขามาบอกเราแบบนั้นน่ะก็เพราะเขาจะเอาเรานั่นแหละ มันไม่ได้มีอะไรซับซ้อน
อันนี้คือสิ่งที่ผมได้ยินได้ฟังมาเยอะที่สุด แล้วก็เห็นมามากที่สุดนะ
บอกว่าไม่ได้มีอะไรแล้ว คือจริงๆ ยังมีอยู่ แต่มาโกหก



เอาละแต่ อันนี้ขอให้เข้าใจว่าตอบเฉพาะคำถามนี้นะ
ในกรณีนี้ที่ถ้าหากว่าเป็นเรื่องจริง
ทั้งสองฝ่ายไม่มีอะไรกันแล้วจริงๆ และให้อิสระกันแล้ว
แล้วเราไปมีความยุ่งเกี่ยวกับเขา อันนี้ก็ถือว่าเราไม่ได้ผิดศีล

แต่ต้องรู้จริงๆ นะ คือวิธีที่จะรู้จริงๆ นี่ คุณต้องถามเอากับปากของเจ้าตัว
ไม่ใช่เจ้าตัวที่เขาจะมาเอาอะไรเรานะ
แต่เจ้าตัวของคนที่มีสิทธิ์ เป็นเจ้าของทะเบียนสมรสร่วมกับเขา
ว่าไม่มีอะไรกันแล้วจริงๆ หรือเปล่า



ถ้าหากว่าเจ้าตัวเขาบอกว่าไม่มีอะไรแล้ว เชิญตามสบายนะ ยกให้เลย
อย่างนี้ทะเบียนสมรสไม่มีความหมาย
คือทะเบียนสมรสนี่เป็นแค่เครื่องยืนยัน
ให้รู้กันโดยทั่วๆ ว่าฉันเป็นเจ้าของแล้วนะ นายคนนี้ แม่คนนี้
ให้เป็นที่ประจักษ์แก่คนทั่วไปว่านี่เป็นผัวเมีย
แต่ตัวสิทธิ์จริงๆ กรรมสิทธิ์จริงๆ
มันอยู่ที่ใจของเจ้าตัวนะว่ายังคบกันอยู่หรือว่าเลิกกันแล้ว
อันนี้ผมไม่ได้พูดเรื่องประเด็นทางสังคมนะ ว่าอะไรถูกอะไรควรนะ
แต่พูดเรื่องของกรรมนะ กรรมหรือเจตนา
เรื่องของกรรมสิทธิ์มันขึ้นอยู่กับว่าเจ้าของเขายินยอมหรือเปล่า



เปรียบเทียบให้เข้าใจง่ายๆ เลย อย่างเรามีเงินอยู่ร้อยหนึ่ง
ประกาศให้ชาวโลกเขารู้ว่านี่เงินร้อยนี้ของฉัน
แต่พอมาอยู่กับคุณ บอกว่าเงินนี่ฉันให้เธอ
แบงค์ร้อยนี้ไม่ใช่กรรมสิทธิ์ของฉันอีกต่อไป
ให้ด้วยใจจริงๆ แล้วก็ไม่มีการบังคับ ไม่ได้มีการฝืนอะไรทั้งสิ้น
เงินร้อยนั้นเป็นกรรมสิทธิ์ของคุณ ถ่ายโอนกรรมสิทธิ์มาให้คุณโดยชอบธรรมทันที



เพราะฉะนั้นคือฟังคำตอบนี้ดีๆ นะ
ถ้าหากว่าเจ้าตัวเขายินยอมยกให้ อันนั้นไม่เป็นไร
แต่ถ้าเราฟังเอาจากฝ่ายที่เขาจะมาเอาอะไรจากเราแค่คนเดียว
แล้วไปสรุปทึกทักว่าคงจะจริงนะ อันนี้เสี่ยงมาก

มันอาจจะใช่ก็ได้ แต่โอกาสที่จะไม่ใช่นี่มันสูงมากนะในปัจจุบันนี้
อันนี้ผมบอกจากที่เห็นจริงๆ นะ มันหลอกลวงกันแบบนี้เยอะมาก


แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP