ธรรมะจากพระสูตร Dhamma from Sutta

สีหสูตร ว่าด้วยสีหเสนาบดี


กลุ่มไตรปิฎกสิกขา



[๕๔] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ กูฏาคารศาลา ป่ามหาวัน
ใกล้กรุงเวสาลี ครั้งนั้นแล สีหเสนาบดีเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ
ถวายบังคมแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง
ครั้นแล้วได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
พระองค์อาจทรงบัญญัติผลแห่งทานที่ประจักษ์ในปัจจุบันได้หรือไม่.


พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า สีหะ ถ้าอย่างนั้น
เราจักย้อนถามท่านในปัญหาข้อนี้ก่อน
ท่านพึงพยากรณ์ปัญหาข้อนั้นตามชอบใจท่าน
สีหะ ท่านจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน
ในเมืองเวสาลีนี้มีบุรุษอยู่ ๒ คน
คนหนึ่งไม่มีศรัทธา ตระหนี่ ถี่เหนียว พูดเสียดสี
คนหนึ่งมีศรัทธา เป็นทานบดี ยินดีในการเพิ่มพูนทาน
สีหะ ท่านจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน
พระอรหันต์ทั้งหลาย เมื่ออนุเคราะห์
พึงอนุเคราะห์คนไม่มีศรัทธา ตระหนี่ ถี่เหนียว พูดเสียดสี
หรือคนที่มีศรัทธา เป็นทานบดี ยินดีในการเพิ่มพูนทาน.


สี. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ คนที่ไม่มีศรัทธา ตระหนี่ ถี่เหนียว พูดเสียดสี
พระอรหันต์ทั้งหลาย เมื่ออนุเคราะห์ จักอนุเคราะห์คนนั้นก่อนอย่างไรได้
ส่วนคนที่มีศรัทธา เป็นทานบดี ยินดีในการเพิ่มพูนทาน
พระอรหันต์ทั้งหลาย เมื่ออนุเคราะห์ พึงอนุเคราะห์คนนั้นก่อนเทียว.


ภ. สีหะ ท่านจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน
พระอรหันต์ทั้งหลาย เมื่อเข้าไปหา
พึงเข้าไปหาคนที่ไม่มีศรัทธา ตระหนี่ ถี่เหนียว พูดเสียดสี
หรือคนที่มีศรัทธา เป็นทานบดี ยินดีในการเพิ่มพูนทาน.


สี. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ คนที่ไม่มีศรัทธา ตระหนี่ ถี่เหนียว พูดเสียดสี
พระอรหันต์ทั้งหลาย เมื่อเข้าไปหา จักเข้าไปหาคนนั้นก่อนอย่างไรได้
ส่วนคนที่มีศรัทธา เป็นทานบดี ยินดีในการเพิ่มพูนทาน
พระอรหันต์ทั้งหลาย เมื่อเข้าไปหา พึงเข้าไปหาคนนั้นก่อนเทียว.


ภ. สีหะ ท่านจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน
พระอรหันต์ทั้งหลาย เมื่อรับ
พึงรับของคนที่ไม่มีศรัทธา ตระหนี่ ถี่เหนียว พูดเสียดสี
หรือคนที่มีศรัทธา เป็นทานบดี ยินดีในการเพิ่มพูนทาน.


สี. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ คนที่ไม่มีศรัทธา ตระหนี่ถี่เหนียว พูดเสียดสี
พระอรหันต์ทั้งหลาย เมื่อรับ จักรับของคนนั้นก่อนอย่างไรได้
ส่วนคนที่มีศรัทธา เป็นทานบดี ยินดีในการเพิ่มพูนทาน
พระอรหันต์ทั้งหลาย เมื่อรับ พึงรับของตนนั้นก่อนเทียว.


ภ. สีหะ ท่านจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน
พระอรหันต์ทั้งหลาย เมื่อแสดงธรรม
พึงแสดงแก่คนที่ไม่มีศรัทธา. ตระหนี่ ถี่เหนียว พูดเสียดสี
หรือคนที่มีศรัทธา เป็นทานบดี ยินดีในการเพิ่มพูนทาน.


สี. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ คนที่ไม่มีศรัทธา ตระหนี่ ถี่เหนียว พูดเสียดสี
พระอรหันต์ทั้งหลาย เมื่อแสดงธรรม จักแสดงแก่คนนั้นก่อนอย่างไรได้
ส่วนคนที่มีศรัทธา เป็นทานบดี ยินดีในการเพิ่มพูนทาน
พระอรหันต์ทั้งหลาย เมื่อแสดงธรรม พึงแสดงแก่คนนั้นก่อนเทียว.


ภ. สีหะ ท่านจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน
กิตติศัพท์อันงามของคนที่ไม่มีศรัทธา ตระหนี่ ถี่เหนียว พูดเสียดสี พึงขจรไป
หรือของคนที่มีศรัทธา เป็นทานบดี ยินดีในการเพิ่มพูนทาน พึงขจรไป.


สี. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ คนที่ไม่มีศรัทธา ตระหนี่ ถี่เหนียว พูดเสียดสี
กิตติศัพท์อันงามของคนนั้นจักขจรไปอย่างไรได้
ส่วนคนที่มีศรัทธา เป็นทานบดี ยินดีในการเพิ่มพูนทาน
กิตติศัพท์อันงามของคนนั้นเทียวพึงขจรไป.


ภ. สีหะ ท่านจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน คนไหนที่จะพึงเข้าไปสู่บริษัทใด
จะเป็นกษัตริย์บริษัท พราหมณ์บริษัท คฤหบดีบริษัท สมณบริษัท ก็ตาม
พึงเป็นผู้แกล้วกล้า ไม่เก้อเขินเข้าไป
จะเป็นคนที่ไม่มีศรัทธา ตระหนี่ ถี่เหนี่ยว พูดเสียดสี
หรือคนที่มีศรัทธา เป็นทานบดี ยินดีในการเพิ่มพูนทาน.


สี. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ คนที่ไม่มีศรัทธา ตระหนี่ ถี่เหนียว พูดเสียดสี
จักเข้าไปสู่บริษัทใด จะเป็นกษัตริย์บริษัท พราหมณ์บริษัท
คฤหบดีบริษัท สมณบริษัท ก็ตาม
จักเป็นผู้แกล้วกล้า ไม่เก้อเขิน เข้าไปอย่างไรได้
ส่วนคนที่มีศรัทธา เป็นทานบดี ยินดีในการเพิ่มพูนทาน
พึงเข้าไปสู่บริษัทใด จะเป็นกษัตริย์บริษัท พราหมณ์บริษัท
คฤหบดีบริษัท สมณบริษัท ก็ตาม
พึงเป็นผู้แกล้วกล้า ไม่เก้อเขิน เข้าไป.


ภ. สีหะ ท่านจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน
คนไหนเมื่อตายไป จะพึงเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์
จะเป็นคนที่ไม่มีศรัทธา ตระหนี่ ถี่เหนียว พูดเสียดสี
หรือคนที่มีศรัทธา เป็นทานบดี ยินดีในการเพิ่มพูนทาน.


สี. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ คนที่ไม่มีศรัทธา ตระหนี่ ถี่เหนียว พูดเสียดสี
เมื่อตายไป จักเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์อย่างไรได้
ส่วนคนที่มีศรัทธา เป็นทานบดี ยินดีในการเพิ่มพูนทาน
เมื่อตายไป พึงเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ผลแห่งทาน ๖ ประการ
ที่เห็นประจักษ์ในปัจจุบันเหล่านี้ใด อันพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสแล้ว
ข้าพระองค์มิได้ดำเนินไปด้วยความเชื่อต่อพระผู้มีพระภาคเจ้าในผลแห่งทานเหล่านี้
แม้ข้าพระองค์เองก็รู้ผลแห่งทานเหล่านี้
ข้าพระองค์เป็นทายก เป็นทานบดี
พระอรหันต์ทั้งหลาย เมื่ออนุเคราะห์ ย่อมอนุเคราะห์ข้าพระองค์ก่อน
เมื่อเข้าไปหา ย่อมเข้าไปหาข้าพระองค์ก่อน
เมื่อรับ ย่อมรับของข้าพระองค์ก่อน
เมื่อแสดงธรรม ย่อมแสดงแก่ข้าพระองค์ก่อน
กิตติศัพท์อันงามของข้าพระองค์ขจรไปแล้วว่า
สีหเสนาบดีเป็นทายก เป็นการกบุคคล เป็นผู้อุปัฏฐากพระสงฆ์
ข้าพระองค์เป็นทายก เป็นทานบดี เข้าไปสู่บริษัทใด
จะเป็นกษัตริย์บริษัท พราหมณ์บริษัท คฤหบดีบริษัท สมณบริษัท ก็ตาม
ย่อมเป็นผู้แกล้วกล้า ไม่เก้อเขิน เข้าไป
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ผลแห่งทาน ๖ ประการ
ที่เห็นประจักษ์ในปัจจุบันเหล่านี้ใด อันพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสแล้ว
ข้าพระองค์มิได้ดำเนินไปด้วยความเชื่อต่อพระผู้มีพระภาคเจ้าในผลแห่งทานเหล่านี้
แม้ข้าพระองค์เองก็รู้ผลแห่งทานเหล่านี้
แต่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสผลแห่งทานใดกะข้าพระองค์อย่างนี้ว่า
สีหะ ทายกเป็นทานบดี เมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์
ข้าพระองค์ยังไม่รู้ผลแห่งทานนั้น
แต่ข้าพระองค์ขอดำเนินไปด้วยความเชื่อต่อพระผู้มีพระภาคเจ้าในผลแห่งทานข้อนี้.


ภ. ข้อนั้นเป็นเป็นอย่างนี้ สีหะ ข้อนั้นเป็นเป็นอย่างนี้ สีหะ
สีหะ ทายกเป็นทานบดี เมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์.


สีหสูตร จบ



(สีหสูตร พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต
พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย เล่มที่ ๓๗)



แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP