จุดหมายปลายธรรม Destination@Dharmma

อานิสงส์แห่งศีล


งดงาม
This e-mail address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it



226 destination



ศีลมีอานิสงส์มาก และเป็นสิ่งจำเป็นที่เราต้องให้ความสำคัญ
แม้ว่าสำหรับบางท่านอาจจะไม่ได้มุ่งภาวนาเพื่อความหลุดพ้นสิ้นเชิงก็ตาม
ศีลก็ยังมีอานิสงส์มาก และเป็นสิ่งจำเป็นเช่นกัน
โดยใน “สีลสูตร” กล่าวสอนว่า คนทุศีล (คือคนที่ไม่มีศีล) ย่อมได้รับโทษ ๕ ประการ
ได้แก่ ๑. เสื่อมโภคทรัพย์อย่างมากอันมีความประมาทเป็นเหตุ
๒. กิติศัพท์ที่ชั่วของผู้ทุศีล ย่อมฟุ้งไป
๓. คนทุศีลจะเข้าสู่บริษัท (กลุ่มชน) ใดๆ ย่อมเก้อเขินและไม่องอาจ
๔. คนทุศีลย่อมเป็นผู้หลงกระทำกาละ (หลงในเวลาถึงแก่ความตาย)
๕. คนทุศีลเมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก


ในทางกลับกัน คนมีศีลย่อมได้รับอานิสงส์ใน ๕ ประการ
ได้แก่ ๑. คนมีศีลย่อมถึงโภคทรัพย์มากมาย อันมีความไม่ประมาทเป็นเหตุ
๒. กิติศัพท์อันงามของคนมีศีล ย่อมฟุ้งไป
๓. คนมีศีลจะเข้าสู่บริษัท(กลุ่มชน) ใด ๆ คือ ย่อมองอาจ และไม่เก้อเขิน
๔. คนมีศีลย่อมเป็นผู้ไม่หลงกระทำกาละ (ไม่หลงในเวลาถึงแก่ความตาย)
๕. คนมีศีลเมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์
http://www.84000.org/tipitaka/read/v.php?B=22&A=5901&Z=5927&pagebreak=0


สังเกตว่าเวลาที่เราสมาทานศีลกับพระภิกษุนั้น
พระภิกษุท่านจะสวดท่อนหนึ่งว่า “สีเลนะ โภคะสัมปะทา”
ซึ่งแปลว่า ศีลจักเป็นเหตุให้ได้มาซึ่งโภคทรัพย์
ถ้อยคำดังกล่าวไม่ได้หมายความว่า ถือศีลแล้วจะได้ลาภลอย
อยู่ดี ๆ ทรัพย์ก็จะวิ่งมาหาเราเอง ไม่ใช่อย่างนั้นนะครับ
แต่หมายถึงว่า คนมีศีลย่อมถึงโภคทรัพย์มากมาย โดยมีความไม่ประมาทเป็นเหตุ
เช่น คนมีศีลไม่เสียเงินไปกับการดื่มสุรา หรือไปเที่ยวสถานเริงรมย์ เป็นต้น
ความไม่ประมาทก็ย่อมช่วยจะให้เราประหยัดทรัพย์ตนเองไว้ได้


ทั้งนี้ ใน “ปาฏลิคามิยสูตร” ได้กล่าวถึงอานิสงส์ ๕ ประการของศีล
เช่นเดียวกับ “สีลสูตร” ที่ได้กล่าวข้างต้น
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=25&A=4145&Z=4279&pagebreak=0


ใน “จูฬกัมมวิภังคสูตร” กล่าวสอนว่า คนทุศีลข้อปาณาติบาต เป็นผู้มักฆ่าสัตว์
เมื่อตายไป จะเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก
หากมาเกิดเป็นมนุษย์ในภายหลัง จะเป็นผู้มีอายุสั้น หรือมีโรคมาก
ในทางกลับกัน คนมีศีลข้อปาณาติบาต ถึงความเอ็นดูในสรรพสัตว์
เมื่อตายไป จะเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์
หากมาเกิดเป็นมนุษย์ในภายหลัง จะเป็นผู้มีอายุยืน หรือมีโรคน้อย
http://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=14&A=7623&Z=7798&pagebreak=0


หากเรามุ่งภาวนาเพื่อความหลุดพ้นสิ้นเชิงแล้ว
ศีลย่อมมีอานิสงส์มาก และเป็นสิ่งจำเป็นพื้นฐานที่ต้องมี
โดยศีลเป็นหนึ่งในไตรสิกขาที่สมควรต้องประพฤติปฏิบัติ
ดังที่ “สมณสูตร” ได้สอนว่า กิจของสมณะที่สมณะควรทำ ๓ อย่าง
ได้แก่ การสมาทานอธิศีลสิกขา การสมาทานอธิจิตตสิกขา และ
การสมาทานอธิปัญญาสิกขา
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/r.php?B=20&A=6057


ใน “วัชชีปุตตสูตร” เล่าว่าในสมัยพุทธกาลได้มีภิกษุชาววัชชีรูปหนึ่ง
เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า และกราบทูลว่า
ตนเองไม่สามารถที่จะศึกษาสิกขาบท ๑๕๐ ได้ครบถ้วน
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสถามภิกษุรูปนั้นว่า จะศึกษาในสิกขา ๓
คือ อธิศีลสิกขา อธิจิตตสิกขา และอธิปัญญาสิกขาได้หรือไม่
ภิกษุรูปนั้นตอบว่า ตนเองสามารถจะศึกษาในสิกขา ๓ นั้นได้
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า เพราะฉะนั้น ภิกษุรูปนั้นจงศึกษาในสิกขา ๓
คือ อธิศีลสิกขา อธิจิตตสิกขา และอธิปัญญาสิกขา
เพราะว่าเมื่อใดที่ภิกษุนั้นศึกษาอธิศีลสิกขาก็ดี
ศึกษาอธิจิตตสิกขาก็ดี หรือศึกษาอธิปัญญาสิกขาก็ดี
เมื่อนั้น ภิกษุนั้นจักละราคะ โทสะ โมหะ เสียได้
เพราะละราคะ โทสะ โมหะ เสียได้ จักไม่กระทำกรรมเป็นอกุศล
และจักไม่เสพกรรมที่เป็นบาป
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/r.php?B=20&A=6090


ใน “พลกรณียสูตร” สอนว่า การงานที่จะพึงทำด้วยกำลังอย่างใดอย่างหนึ่ง
อันบุคคลทำอยู่ทั้งหมดนั้น บุคคลอาศัยแผ่นดิน ดำรงอยู่บนแผ่นดิน จึงทำได้ฉันใด
ภิกษุอาศัยศีล ตั้งอยู่ในศีลแล้ว จึงเจริญอริยมรรคประกอบด้วยองค์ ๘
กระทำให้มากซึ่งอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ ฉันนั้นเหมือนกัน
http://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=19&A=1579&Z=1593&pagebreak=0


ใน “สีลสัมปทาสูตร” สอนในทำนองเดียวกันว่า ธรรมอันหนึ่งมีอุปการะมาก
เพื่อความเกิดขึ้นแห่งอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ คือ ความถึงพร้อมแห่งศีล
ภิกษุผู้มีความถึงพร้อมแห่งศีล พึงหวังได้ว่า จักเจริญอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘
และจักกระทำให้มากซึ่งอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘
http://www.84000.org/tipitaka/read/v.php?B=19&A=795&Z=904&pagebreak=0


ใน “สีลสัมปทาสูตร” (อีกพระสูตรหนึ่ง แต่ชื่อเดียวกับพระสูตรข้างต้น)
สอนในทำนองเดียวกันว่า เมื่อพระอาทิตย์จะขึ้น
สิ่งที่ขึ้นก่อน หรือสิ่งที่เป็นนิมิตมาก่อน คือ แสงเงินแสงทอง ฉันใด
สิ่งที่เป็นเบื้องต้น เป็นนิมิตมาก่อน เพื่อความบังเกิดแห่งอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘
คือ ความถึงพร้อมแห่งศีล ฉันนั้นเหมือนกัน
ภิกษุผู้ถึงพร้อมด้วยศีล พึงหวังข้อนี้ได้ว่าจักเจริญอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘
และจักทำให้มากซึ่งอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘
http://www.84000.org/tipitaka/read/v.php?B=19&A=679&Z=794&pagebreak=0


สรุปแล้ว ศีลมีอานิสงส์มาก และเป็นสิ่งจำเป็นที่เราต้องให้ความสำคัญ
โดยหากแม้เราไม่ได้มุ่งภาวนาเพื่อความหลุดพ้นสิ้นเชิงก็ตาม
ศีลก็มีอานิสงส์มาก และเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อความสุขในชีวิต
และเพื่อไม่ให้นำพาเราไปสู่อบาย ทุคติ วินิบาต นรก
ในทางกลับกัน หากเรามุ่งภาวนาเพื่อความหลุดพ้นสิ้นเชิงแล้ว
ศีลย่อมมีอานิสงส์มาก และเป็นสิ่งจำเป็นพื้นฐานที่ต้องมีครับ



แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP