ดังตฤณวิสัชนา Dungtrin's Answer

การอนุโมทนาบุญมีผลอย่างไร



ถาม - การอนุโมทนาบุญกับผู้ที่ปฏิบัติธรรม ผู้ที่ให้ทาน ผู้ที่ให้อภัย
ผู้ที่อนุโมทนาจะได้บุญตามประเภทของบุญนั้นๆ หรือเปล่าคะ

และถ้าเราชมละครที่มีฉากเกี่ยวกับการทำบุญ แล้วอนุโมทนาตามไปด้วย
อย่างนี้เราจะได้บุญไปด้วยไหมคะ


ตอบคำถามที่สองก่อนก็แล้วกัน ที่บอกว่าเห็นในละครเกี่ยวกับการทำบุญ
แล้วเกิดความรู้สึกอิ่มใจ รู้สึกอนุโมทนาบุญ อย่างนี้ได้บุญไหม
ได้ครับ เพราะว่าขณะนั้นจิตเป็นกุศล จิตนึกอยากทำบุญ
หรือจิตมีอาการเข้าไปทำบุญแบบที่เห็นในละครเต็มๆ
มันได้บุญประเภทนั้นด้วย
เพียงแต่ว่าเป็นการได้บุญในลักษณะของการคิดนึกนะ ในลักษณะของมโนกรรม
มันไม่ใช่ลักษณะของวจีกรรมหรือว่าเป็นกายกรรมนะครับ เป็นมโนกรรม
แต่ถามว่ามันมีกำลังอ่อนหรือว่าแก่กล้าแค่ไหน
ขึ้นอยู่กับความรู้สึกอิน ถ้าอินมากๆ ขนาดอยากจะทำแบบนั้นบ้าง
ถ้าหากว่ามีโอกาสทำเดี๋ยวนั้น
ทำทันที ทำด้วยความเต็มใจ ทำด้วยความเต็มอิ่ม
นี่แหละตัวนี้แหละที่วัดได้ว่ากำลังจิตของเรา
เป็นบุญเต็มที่ มีความแก่กล้า มีความพร้อมเต็มที่

ถ้าหากว่าดูแล้วรู้สึกดี แต่ว่าถ้าให้ทำแบบนั้นไม่เอา
อย่างนี้ก็วัดได้ว่ากำลังของจิตนี่ยังไม่เต็มที่
ยังไม่เป็นบุญตามนั้นนะครับ ยังไม่ถูกปรุงแต่งให้เกิดความเป็นกุศลธรรม
ไม่ถูกปรุงแต่งให้เกิดลักษณะของบุญขึ้นมา



ถามว่าถ้ามีความอิ่มใจในลักษณะนี้แล้ว
ผลตอบแทนหรือว่าเวลาที่กรรมเผล็ดผลจะให้ผลอย่างไรนะ
ก็ยกตัวอย่าง ถ้าสมมติว่าในละคร
เราไปเห็นว่าตัวละครนี่ไปให้ความช่วยเหลือคนที่ตกทุกข์ได้ยาก
หรือว่ากำลังประสบชะตากรรมที่เดือดร้อนลำบากอย่างแสนสาหัส
แล้วใจของเรานี่เต็มตื้น
ใจของเรานี่ โอ้โห รู้สึกดีจังเลยที่ตัวละครได้ไปช่วยเสียสละ
แล้วก็ทำให้คนได้ผ่อนจากความเดือดร้อนกลายเป็นความสบาย
หรือว่าทำให้ความร้อนในชีวิตของเขา มันเบาบางทุเลาลงหรือว่าเย็นลง
สิ่งที่มันจะเกิดขึ้นก็คือว่าใจของเราชัดๆ เลยนี่นะ
จะหนีออกห่างจากอาการอยากเบียดเบียนคน
แต่จะมีแนวโน้มที่จะเข้าไปช่วยคนมากขึ้น
และคนที่มีแนวโน้มที่จะเข้าไปช่วยคนมากขึ้น
ใจจะไปผูกอยู่กับภพอยู่กับภูมิหรือสภาวะที่มันดีที่มันมีการเกื้อกูลกัน



ถ้าว่าหากเราตายในเวลาใกล้ๆ นั้น
สมมติว่าเครื่องบินตกใส่หลังคาบ้านนะ เราตายไปแบบฉับพลัน
ภพภูมิที่เราจะไป มันก็เป็นภพภูมิที่ไม่มีการเบียดเบียนกัน
ที่มีการช่วยเหลือเกื้อกูลกันด้วยความเต็มใจ ด้วยความรู้สึกเป็นมิตร
ด้วยความรู้สึกว่าสิ่งที่หนักนิดเบาหน่อยก็จะไม่มาเอาเรื่องเอาราวกัน นี่ประมาณนั้น
นี่มีผลใหญ่นะ คือจิตก่อนตายนี่สำคัญมาก
ถ้าหากว่าใจของเรากำลังปรุงแต่งไปในกุศลธรรมแบบใด
ก็จะไปเสวยภาวะที่สอดคล้องกับกุศลธรรมแบบนั้น

นี่ก็เป็นเรื่องของอาสันนกรรมหรือว่ากรรมใกล้ตาย
ก่อนที่จะตาย จิตผูกอยู่กับอะไร คิดถึงอะไร เป็นมโนกรรมแบบไหน
อันนั้นแหละที่มันชี้ได้ ชี้ชะตาได้ว่าเราจะไปดีหรือไปร้ายนะ



แต่ถ้ามองกันแบบถนัดๆ หน่อย เอาตอนยังมีชีวิตอยู่นะ
ถ้าหากว่าเราเห็นตัวละครที่ทำบุญโดยการช่วยเหลือคน
แล้วเกิดความรู้สึกอยากจะไปช่วยแบบนั้นบ้าง
ยกตัวอย่างที่มักจะเห็นกันได้บ่อยๆ เลย
ก็คือว่าจะไปอ่านนิยายหรือดูละครที่ไหนมาก็แล้วแต่
เห็นพระเอกนางเอกนะช่วยเหลือคนตาบอด
หรือว่าไปอ่านนิทานให้คนตาบอด เด็กตาบอดฟัง
แล้วเกิดความรู้สึกอยากทำแบบนั้นบ้าง แล้วก็เกิดแรงบันดาลใจไปทำจริงๆ
ตัวนี้แหละที่มันจะเป็นสิ่งที่บอกได้นะ
ว่าผลของการที่เราอนุโมทนาเต็มๆ มันก่อให้เกิดแรงบันดาลใจ
ก่อให้เกิดความยินดี ก่อให้เกิดแรงดันที่ทำให้ไปกระทำเช่นนั้นได้จริงๆ
อันนี้ก็เป็นคุณ เป็นคมดาบด้านดีของนิยายหรือว่าละคร
ที่บันดาลใจคนให้ไปทำบุญได้จริงๆ นะครับ



ส่วนการอนุโมทนาบุญประเภทต่างๆ
จะเป็นการปฏิบัติธรรม จะเป็นการให้ทาน หรือว่าเป็นการให้อภัย
จะแตกต่างกันขนาดไหนก็ขึ้นอยู่กับบุญประเภทนั้นๆ
คือมันก็แยกไปด้วย อย่างที่เมื่อกี้ยกตัวอย่างนะครับ
ถ้าหากว่าเราอนุโมทนา เรายินดีไปกับตัวละครที่เขาไปช่วยเหลือผู้คน
ก็จะออกแนวเหมาะสมหรือว่าไปผูกโยงกับภพหรือสภาวะที่ไม่มีการเบียดเบียนกัน
ที่มีการช่วยเหลือเกื้อกูลกัน อันนี้เป็นต้นนะครับ


แต่ถ้าหากว่าอนุโมทนากับคนที่ปฏิบัติธรรม
อันนี้ก็จะไปผูกโยงกับการได้ดิบได้ดีในการเจริญสติ
หรือในการทำสมาธิอย่างใดอย่างหนึ่งนะครับ

คือจิตมีความโน้มเอียงที่จะสงบ
หรือว่าจิตมีความโน้มเอียงที่จะตื่นรู้นั่นแหละ

แต่ว่าการสะสมสติ การสะสมความตื่นรู้นะ
มันไม่ใช่ด้วยการอนุโมทนาอย่างเดียว
แต่ว่าตัวการอนุโมทนาจะเป็นแรงดันให้เกิดความอยากจะพอใจ
คือเกิดความพอใจอยากจะเจริญสติบ้าง หรือทำสมาธิบ้าง ให้เกิดความสงบบ้าง
อันนี้ก็เป็นสิ่งที่เราจะได้รู้กันจากการลองได้อนุโมทนากับนักเจริญสติทั้งหลายนะ


คือจะดูได้ง่ายๆ อย่างนี้นะ
บางคนไม่เชื่อเรื่องบุญของการอนุโมทนาอย่างนี้
ก็ลองเชื่อเรื่องบาปของการนึกดูถูกหรือว่านึกเหยียดหยาม
ถ้าหากว่าเห็นใครนั่งสมาธิแทนที่จะรู้สึกดีไปกับเขา
อยากแกล้งหรือว่าลงมือแกล้งจริงๆ
ใจนี่นะจะมีอาการที่สงบยาก
คือบางคนนะทำแค่ไม่กี่ครั้ง แต่จิตฟุ้งซ่านมาก
แล้วก็รู้สึกเลยว่าพอพยายามนั่งสมาธิเองหรือพยายามเจริญสติเอง มันทำไม่ได้



อันนี้ก็จะได้เห็นเลยว่าแทนที่คล้อยตามไปในกระแสดี
แล้วได้รับผลดี ได้รับแรงบันดาลใจให้อยากทำเองบ้าง
มันกลายเป็นเกิดความรู้สึกต่อต้านหรือเกิดความรู้สึกทำไม่ได้
บางคนใช้เวลาทั้งชาติไปในการปฏิเสธการทำสมาธิ
แล้วก็ดูถูกต่างๆ นานานะ บอกว่ามันจะเกิดผลร้ายอย่างโน้นอย่างนี้
ตัวเองเลยทำสมาธิไม่ได้ทั้งชาติปัจจุบันและอนาคตชาติ
อันนี้ก็เคยมีคดีตัวอย่างในพระไตรปิฎกอยู่เหมือนกัน
ที่ว่าไปแกล้งคนทำสมาธิ ทำให้ทำสมาธิเองไม่ได้



แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP