ธรรมะจากพระสูตร Dhamma from Sutta
นวสูตร ว่าด้วยเหตุเกิดแห่งภพทั้ง ๓
กลุ่มไตรปิฎกสิกขา
[๕๑๖] ครั้งนั้นแล ท่านพระอานนท์ได้เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ
ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง
ครั้นแล้วได้ทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
พระองค์ตรัสว่า ภพ ภพ ดังนี้ ภพย่อมมีได้ด้วยเหตุเพียงไร พระพุทธเจ้าข้า
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสถามว่า อานนท์
ก็กรรมที่อำนวยผลให้ในกามธาตุ จักไม่มีแล้ว
กามภพพึงปรากฏบ้างหรือหนอ.
พระอานนท์. ไม่พึงปรากฏเลย พระพุทธเจ้าข้า.
พระผู้มีพระภาคเจ้า. อานนท์ เหตุนี้แล กรรมจึงชื่อว่าเป็นไร่นา
วิญญาณชื่อว่าเป็นพืช ตัณหาชื่อว่าเป็นน้ำ
วิญญาณตั้งมั่นแล้ว เพราะธาตุอย่างเลวของพวกสัตว์ที่มีอวิชชาเป็นเครื่องกั้น
มีตัณหาเป็นเครื่องผูก ด้วยประการฉะนี้ จึงมีการเกิดในภพใหม่ต่อไปอีก
อานนท์ ก็กรรมที่อำนวยผลให้ในรูปธาตุ จักไม่มีแล้ว
รูปภพพึงปรากฏบ้างหรือหนอ.
พระอานนท์. ไม่พึงปรากฏเลย พระพุทธเจ้าข้า.
พระผู้มีพระภาคเจ้า. อานนท์ เหตุนี้แล กรรมจึงชื่อว่าเป็นไร่นา
วิญญาณชื่อว่าเป็นพืช ตัณหาชื่อว่าเป็นน้ำ วิญญาณตั้งมั่นแล้ว
เพราะธาตุอย่างกลางของพวกสัตว์ที่มีอวิชชาเป็นเครื่องกั้น
มีตัณหาเป็นเครื่องผูก ด้วยประการฉะนี้ จึงมีการเกิดในภพใหม่ต่อไปอีก
อานนท์ ก็กรรมที่อำนวยผลให้ในอรูปธาตุ จักไม่มีแล้ว
อรูปภพพึงปรากฏบ้างหรือหนอ.
พระอานนท์. ไม่พึงปรากฏเลย พระพุทธเจ้าข้า.
พระผู้มีพระภาคเจ้า. อานนท์ เหตุนี้แล กรรมจึงชื่อว่าเป็นไร่นา
วิญญาณชื่อว่าเป็นพืช ตัณหาชื่อว่าเป็นน้ำ วิญญาณตั้งมั่นแล้ว
เพราะธาตุอย่างประณีตของพวกสัตว์ที่มีอวิชชาเป็นเครื่องกั้น
มีตัณหาเป็นเครื่องผูก ด้วยประการฉะนี้ จึงมีการเกิดในภพใหม่ต่อไปอีก
อานนท์ ภพย่อมมีได้ด้วยเหตุดังกล่าวมา ฉะนี้แล.
นวสูตร จบ
(นวสูตร พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ติกนิบาท
พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย เล่มที่ ๓๔)
< Prev | Next > |
---|