จุดหมายปลายธรรม Destination@Dharmma

การแสวงหาที่ประเสริฐ


งดงาม
This e-mail address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it



187 destination


ชีวิตมนุษย์เราก็ล้วนแล้วแต่วุ่นวายอยู่กับการแสวงหานะครับ
เช่น หากจะลองมองโดยรวมทั้งชีวิตแล้ว
บางคนก็ตั้งเป้าหมายชีวิตว่า จะต้องเป็นนั่นเป็นนี่ หรือต้องได้นั่นได้นี่
ฟังเพลงรักบางเพลงก็บอกว่าชีวิตเกิดมาเพื่อหาใครสักคนหนึ่ง
หากมองให้ย่อยลงมาในแต่ละปี ในแต่ละเดือน หรือในแต่ละวัน
เราก็จะพบว่าเราก็มัวแต่มุ่งแสวงหาอยู่เช่นกัน
อย่างในแต่ละวันเราก็แสวงหาว่าอยากจะกินอาหารอะไร
อยากจะคุยอะไร อยากจะคุยกับใคร อยากจะฟังอะไร
อยากจะดูอะไร อยากจะอ่านอะไร อยากจะแชร์อะไร เป็นต้น
หากมองย่อยลงไปอีก ก็จะพบว่าแม้กระทั่งในแต่ละวินาทีก็ตาม
จิตใจเราก็เที่ยววิ่งแสวงหาอารมณ์ที่มีความสุขหรือความพอใจไปเรื่อย


ในบรรดาการแสวงหาทั้งหลายนั้น ไม่ใช่ว่าทุกสิ่งที่เราแสวงหา
จะเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์หรือมีคุณค่าเสมอไป
บางสิ่งก็อาจจะเป็นสิ่งที่เป็นโทษก็ได้ เช่น บางคนหลงไปมุ่งแสวงหา
สิ่งที่ผิดศีลผิดธรรม หรือเป็นไปเพื่อบาปอกุศล เป็นต้น


ในปาสราสิสูตร (พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์) นั้น
พระผู้มีพระภาคได้ทรงสอนว่า การแสวงหามี ๒ อย่าง
คือ การแสวงหาที่ไม่ประเสริฐอย่างหนึ่ง การแสวงหาที่ประเสริฐอย่างหนึ่ง
การแสวงหาที่ไม่ประเสริฐเป็นอย่างไร? คนบางคนในโลกนี้
โดยตนเองเป็นผู้มีชาติเป็นธรรมดา ก็ยังแสวงหาสิ่งมีชาติเป็นธรรมดาอยู่นั่นแหละ
เป็นผู้มีชราเป็นธรรมดา ก็ยังแสวงหาสิ่งมีชราเป็นธรรมดาอยู่นั่นแหละ
เป็นผู้มีพยาธิเป็นธรรมดา ก็ยังแสวงหาสิ่งมีพยาธิเป็นธรรมดาอยู่นั่นแหละ
เป็นผู้มีมรณะเป็นธรรมดา ยังแสวงหาสิ่งมีมรณะเป็นธรรมดาอยู่นั่นแหละ
เป็นผู้มีโศกเป็นธรรมดา ยังแสวงหาสิ่งมีโศกเป็นธรรมดาอยู่นั่นแหละ
เป็นผู้มีสังกิเลสเป็นธรรมดา ยังแสวงหาสิ่งมีสังกิเลสเป็นธรรมดาอยู่นั่นแหละ
(“สังกิเลส” แปลว่า เครื่องทำใจให้เศร้าหมอง)


อะไรเรียกว่า สิ่งมีชาติเป็นธรรมดา?
บุตร ภรรยา ทาสหญิง ทาสชาย แพะ แกะ ไก่ สุกร ช้าง โค ม้า ลา
ทอง เงิน เรียกว่า สิ่งมีชาติเป็นธรรมดา
สิ่งมีชาติเป็นธรรมดาเหล่านั้น เป็นอุปธิ
ผู้ที่ติดพัน ลุ่มหลง เกี่ยวข้องในสิ่งมีชาติเป็นธรรมดาเหล่านั้น
ชื่อว่าโดยตนเองเป็นผู้มีชาติเป็นธรรมดา
(“อุปธิ” แปลว่า สิ่งนุงนัง สภาวะกลั้วกิเลส สิ่งที่ยังระคนด้วยกิเลส)


อะไรเล่าเรียกว่าสิ่งมีชราเป็นธรรมดา?
บุตร ภรรยา ทาสหญิง ทาสชาย แพะ แกะ ไก่ สุกร ช้าง โค ม้า ลา
ทอง เงิน เรียกว่าสิ่งมีชราเป็นธรรมดา
สิ่งมีชราเป็นธรรมดาเหล่านั้น เป็นอุปธิ
ผู้ที่ติดพัน ลุ่มหลง เกี่ยวข้อง ในสิ่งมีชราเป็นธรรมดาเหล่านั้น
ชื่อว่าโดยตนเองเป็นผู้มีชราเป็นธรรมดา


อะไรเล่า เรียกว่า สิ่งมีพยาธิเป็นธรรมดา?
บุตร ภรรยา ทาสหญิง ทาสชาย แพะ แกะ ไก่ สุกร ช้าง โค ม้า ลา
ทอง เงิน เรียกว่าสิ่งมีพยาธิเป็นธรรมดา
สิ่งมีพยาธิเป็นธรรมดาเหล่านั้น เป็นอุปธิ
ผู้ที่ติดพัน ลุ่มหลง เกี่ยวข้อง ในสิ่งมีพยาธิเป็นธรรมดาเหล่านั้น
ชื่อว่าโดยตนเองเป็นผู้มีพยาธิเป็นธรรมดา


อะไรเล่า เรียกว่า สิ่งมีมรณะเป็นธรรมดา?
บุตร ภรรยา ทาสหญิง ทาสชาย แพะ แกะ ไก่ สุกร ช้าง โค ม้า ลา
ทอง เงิน เรียกว่า สิ่งมีมรณะเป็นธรรมดา
สิ่งมีมรณะเป็นธรรมดาเหล่านั้น เป็นอุปธิ
ผู้ที่ติดพัน ลุ่มหลง เกี่ยวข้อง ในสิ่งมีมรณะเป็นธรรมดาเหล่านั้น
ชื่อว่าโดยตนเองเป็นผู้มีมรณะเป็นธรรมดา


อะไรเล่า เรียกว่า สิ่งมีความโศกเป็นธรรมดา?
บุตร ภรรยา ทาสหญิง ทาสชาย แพะ แกะ ไก่ สุกร ช้าง โค ม้า ลา
ทอง เงิน เรียกว่า สิ่งมีความโศกเป็นธรรมดา
สิ่งมีความโศกเป็นธรรมดาเหล่านั้น เป็นอุปธิ
ผู้ที่ติดพัน ลุ่มหลง เกี่ยวข้อง ในสิ่งมีความโศกเป็นธรรมดาเหล่านั้น
ชื่อว่าโดยตนเองเป็นผู้มีความโศกเป็นธรรมดา


อะไรเล่า เรียกว่า สิ่งมีสังกิเลสเป็นธรรมดา?
บุตร ภรรยา ทาสหญิง ทาสชาย แพะ แกะ ไก่ สุกร ช้าง โค ม้า ลา
ทอง เงิน เรียกว่า สิ่งมีสังกิเลสเป็นธรรมดา
สิ่งมีสังกิเลสเป็นธรรมดาเหล่านั้น เป็นอุปธิ
ผู้ที่ติดพัน ลุ่มหลง เกี่ยวข้อง ในสิ่งมีสังกิเลสเป็นธรรมดาเหล่านั้น
ชื่อว่าโดยตนเองเป็นผู้มีสังกิเลสเป็นธรรมดา
นี้คือการแสวงหาที่ไม่ประเสริฐ


การแสวงหาที่ประเสริฐเป็นไฉน?
คนบางคนในโลกนี้ โดยตนเองเป็นผู้มีชาติเป็นธรรมดา
ทราบชัดโทษในสิ่งมีชาติเป็นธรรมดา ย่อมแสวงหาพระนิพพาน ที่ไม่เกิด
หาธรรมอื่นยิ่งกว่ามิได้ เกษมจากโยคะ
โดยตนเองเป็นผู้มีชราเป็นธรรมดา ทราบชัดโทษในสิ่งมีชราเป็นธรรมดา
ย่อมแสวงหาพระนิพพาน ที่ไม่แก่ หาธรรมอื่นยิ่งกว่ามิได้ เกษมจากโยคะ
โดยตนเองเป็นผู้มีพยาธิเป็นธรรมดา ทราบชัดโทษในสิ่งมีพยาธิเป็นธรรมดา
ย่อมแสวงหาพระนิพพาน หาพยาธิมิได้ หาธรรมอื่นยิ่งกว่ามิได้ เกษมจากโยคะ
โดยตนเองเป็นผู้มีมรณะเป็นธรรมดา ทราบชัดโทษในสิ่งมีมรณะเป็นธรรมดา
ย่อมแสวงหาพระนิพพาน ที่ไม่ตาย หาธรรมอื่นยิ่งกว่ามีได้ เกษมจากโยคะ
โดยตนเองเป็นผู้มีโศกเป็นธรรมดา ทราบชัดโทษในสิ่งมีโศกเป็นธรรมดา
ย่อมแสวงหานิพพาน ที่หาโศกมิได้ หาธรรมอื่นยิ่งกว่ามิได้ เกษมจากโยคะ
โดยตนเองเป็นผู้มีสังกิเลสเป็นธรรมดา ทราบชัดโทษในสิ่งมีสังกิเลสเป็นธรรมดา
ย่อมแสวงหาพระนิพพาน ที่ไม่เศร้าหมอง หาธรรมอื่นยิ่งกว่ามิได้ เกษมจากโยคะ
นี้คือการแสวงหาที่ประเสริฐ
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=12&A=5384&Z=5762&pagebreak=0


ด้วยเหตุที่เวลาในชีวิตมนุษย์ที่จะได้มาพบพระพุทธศาสนานั้นเป็นของหายาก
เราจึงควรพิจารณาจัดสรรเวลาในชีวิตที่เป็นของหายากนี้
เป็นไปเพื่อการแสวงหาที่ประเสริฐ
ซึ่งย่อมจะทำให้เราได้สิ่งที่มีคุณค่ามากมายกว่า
การใช้เวลาชีวิตเพื่อการแสวงหาที่ไม่ประเสริฐ
แต่บางทีเราเองอาจไม่ได้ขวนขวายการแสวงหาที่ประเสริฐเท่าไรนัก
นั่นย่อมเป็นเพราะว่าเรายังไม่ได้ทราบชัดในโทษในสิ่งมีชาติเป็นธรรมดา
โทษในสิ่งมีชราเป็นธรรมดา โทษในสิ่งมีพยาธิเป็นธรรมดา
โทษในสิ่งมีมรณะเป็นธรรมดา โทษในสิ่งมีโศกเป็นธรรมดา
โทษในสิ่งมีสังกิเลสเป็นธรรมดา ซึ่งเราก็ต้องขยันภาวนาต่อไป
เพื่อให้มีปัญญาเห็นตามความเป็นจริง และทราบชัดโทษในสิ่งเหล่านี้



แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP