สารส่องใจ Enlightenment

ที่พึ่งอันประเสริฐ



พระธรรมเทศนา โดย หลวงปู่จาม มหาปุญฺโญ
วัดป่าวิเวกวัฒนาราม บ้านห้วยทราย อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร
แสดงธรรมเมื่อวันที่ ๙ กรกฎาคม ๒๕๔๖




นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส (๓ จบ)
นตฺถิ เม สรณํ อญฺญํ พุทฺโธ เม สรณํ วรํ ตีติ


ณ บัดนี้จะได้เตือนญาติพี่น้องลูกหลานทุกคน
ในเรื่องที่เราตั้งใจนับถือพระพุทธศาสนานี้ ต้องให้แม่นยำแท้ๆ หนาจึงจักได้ผลอันดี
นตฺถิ เม สรณํ อญฺญํ
นัตถิอื่น ลัทธิต่างๆ เราอย่าได้พากันสนใจ
พุทฺโธ เม สรณํ วรํ
พระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระสังฆเจ้า เป็นสรณะที่พึ่งของเรา



นี่ให้นึกถึงว่า บุคคลผู้จะได้ไปสู่นิพพาน
ต้องอาศัยสรณะพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งเสียก่อนจึงจักไปได้
ต้องอาศัยสรณะพระธรรมเจ้าเป็นที่พึ่งเสียก่อนจึงจักไปได้
ผู้เอาพระสังฆเจ้าเป็นสรณะที่พึ่งย่อมได้รับผลประโยชน์อันดี
ไม่ให้ตกทุกข์ ไม่ให้ได้ยาก ได้เกิดเป็นมนุษย์และเทวดา
ได้ตั้งใจของตนอยู่เสมอได้ตลอดไป
นี่จึงว่าสรณะที่พึ่งทั้ง ๓ นี้ เป็นของแน่นอน เป็นของประเสริฐสุด
เป็นของให้ได้รับความสุขขณะที่เกิดมาเป็นมนุษย์และเทวดาอยู่นี้



“สรณะ” แปลว่า ได้ที่พึ่งอันดีงาม เป็นสมบัติของใจ
ใจของเรานี้ทุกคนนี้
หากมีพระพุทธอยู่แล้วในใจ
หากมีพระธรรมอยู่แล้วในใจ หากมีพระสงฆ์อยู่แล้วในใจ
บุคคลเช่นนี้ย่อมได้สรณะอันประเสริฐ เหมือนกับบุคคลผู้ได้แก้วอันส่องใสสว่าง
จะไปในหนทางข้างหน้าย่อมได้รับความสะดวกสบายตลอดไป


นี่แหละตัวเราทุกคน บัดเดี๋ยวนี้ให้คิดอ่านให้มีในตัวของเรา

พระพุทธเจ้า เป็นแก้วอันประเสริฐ
พระธรรมเจ้า เป็นแก้วอันใสสะอาด
พระสงฆ์เจ้า เป็นพระอริยสงฆ์เจ้า


เป็นสมบัติอันดีประจำตนของตน


เมื่อใจเราได้สรณะทั้ง ๓ นี้แล้ว ย่อมเป็นใจอันใสสะอาด
เมื่อใจใสสะอาดแล้ว แม้เกิดตายอยู่ก็พ้นไปจากภูมิของเปรตผีเดรัจฉาน
ได้เกิดแต่ในภูมิมนุษย์แลสวรรค์อันเป็นเทวดาภูมิอันดี
ให้เราทุกคนจงตั้งใจในตนทุกคนตลอดไป



สมบัติอันดีอันนี้อยู่ในใจของท่านผู้ใดแล้วใจของท่านผู้นั้นย่อมเป็นใจอันใสสะอาด
จึงว่าอย่าได้ถือที่พึ่งอื่นมาเป็นสรณะของใจอันนี้
ชีวิตบัดเดี๋ยวนี้เราได้เกิดมาแล้ว จงคิดอ่านในตนของตน
เราได้พบปะพระพุทธศาสนาแล้ว เราต้องตั้งใจของตน
เราต้องใส่ใจในตนของตน
เอาสรณะอันประเสริฐนี้มาเป็นเครื่องประดับใจของตน
จึงถือได้ว่าเป็นผู้มีสรณะอันดีที่สุด ในชีวิตการเกิดมาเป็นมนุษย์ของเราทั้งหลายในโลก


ผู้ใดไม่มีสรณะอันดี ย่อมเกิดตายเป็นสัตว์เดรัจฉาน เป็นเปรตเป็นผี
เพราะไม่มีพุทธสรณะ ไม่มีธัมมสรณะ ไม่มีสังฆสรณะ
จึงได้รูปทุกข์อย่างนี้ตลอดไป



ใจอยู่กับรูปเปรต          ก็เป็นเปรต
ใจอยู่กับรูปผี              ก็เป็นผี
ใจอยู่กับรูปเดรัจฉาน     ก็เป็นเดรัจฉาน
ใจอยู่กับรูปมนุษย์        ก็เป็นมนุษย์
ใจอยู่กับรูปเทวดา        ก็เป็นเทวดา
ใจอยู่กับรูปอริยเจ้า       ก็เป็นอริยเจ้า


กายเป็นรูปอันใด ใจก็เป็นรูปอันนั้น
รูปมาจากไหน
ก็มาจากความดี หนึ่ง ก็มาจากความชั่ว สอง
ชั่วตกแต่งรูป ดีตกแต่งรูป ธรรมะตกแต่งรูป
รูปนี้มาจากดีและมาจากชั่วที่ตัวทำ ให้คิดอ่านให้ดี



เป็นสัตว์                    ใจก็อยู่กับรูปของสัตว์
เป็นผี                       ใจก็อยู่กับรูปของผี

เป็นเปรต                   ใจก็อยู่กับรูปของเปรต
เป็นมนุษย์                 ใจก็อยู่กับรูปของมนุษย์
เป็นเทวดา                 ใจก็อยู่กับรูปของเทวดา
เป็นพรหม                  ใจก็อยู่กับรูปของพรหม
เป็นพระอริยเจ้า            ใจก็อยู่กับรูปของพระอริยเจ้า


บุญ บาป ความดี ความชั่ว ผลปรากฏ จึงให้คิดอ่านอยู่เสมอ
ที่เราตั้งใจถือสรณะนี้อย่างใด มั่นคง แม่นยำ ถาวร กล้าหาญ แล้วหรือยัง



พระพุทธเจ้า ดีที่สุด
พระธรรมเจ้า ดีที่สุด
พระสงฆ์เจ้า ดีที่สุด


บุคคลผู้ใจไม่มีสรณะอันประเสริฐนี้
กายเป็นมนุษย์ แต่ใจเป็นเปรต เป็นผี เป็นเดรัจฉาน เป็นใจทุกข์ ใจหยาบ



เราทุกคนนี้เองให้นึกถึงตน เครื่องประกอบความดียังมีอยู่
ทาน ศีล เมตตา ภาวนา เคารพธรรมะ ยังมีอยู่
สิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องทำความดีให้เกิดขึ้นอยู่เป็นนิจกาล
เราเป็นมนุษย์ ได้มาพบปะพระพุทธศาสนานี้แล้ว
ให้ได้สมบัติอันดีไว้เป็นสรณะที่พึ่งของตนตลอดไป



เอวํ ก็มีด้วยประการฉะนี้


- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -- - - - - - - - - - - - - - - -


จาก พระธรรมเทศนา ของ หลวงปู่จาม มหาปุญฺโญ
จัดพิมพ์โดยคณะศิษย์วัดป่าวิเวกวัฒนาราม อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร
พิมพ์ครั้งที่ ๑ : กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓



แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP