จุดหมายปลายธรรม Destination@Dharmma

ไม่มีทางช่วยได้หมด


งดงาม
This e-mail address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it


154 destination



เมื่อเดือนที่แล้ว ผมได้สนทนากับญาติธรรมอาวุโสท่านหนึ่ง
ซึ่งท่านอยู่ในวัยใกล้เกษียณแล้วนะครับ
แต่ญาติธรรมท่านนี้ก็ยังทำงานอย่างขยันขันแข็งอยู่
โดยท่านได้สนทนากับผมในเรื่องทางเลือกในการนำเงินไปลงทุนเพื่อให้เกิดผลประโยชน์
ซึ่งในปัจจุบันนี้ท่านนำเงินบางส่วนไปลงทุนซื้อที่ดินสำหรับปลูกมะนาว
แต่ปัญหาคือหาคนงานมาทำงานในสวนมะนาวยากมาก ๆ
และท่านก็ต้องเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปดูแลสวนมะนาวและลงมือทำสวนเองอยู่เรื่อย ๆ
ท่านก็เลยถามผมว่ามีคำแนะนำอย่างไรหรือไม่ในเรื่องนี้


ผมแนะนำญาติธรรมท่านนี้ว่าท่านก็มีเงินเก็บสะสมอยู่พอสมควรแล้ว
และปัจจุบันก็ยังทำงานมีรายได้อยู่ไปเรื่อย ๆ
เรียกได้ว่าอยู่ได้โดยไม่ลำบากในเรื่องการเงินแล้วล่ะ
ผมก็ไม่เห็นจำเป็นว่าญาติธรรมท่านนี้จะต้องไปดิ้นรนทำอะไรให้เหนื่อยเกินสมควร
แทนที่จะมุ่งเอาเงินไปลงทุนทำโน่นทำนี่ เพื่อหาเงินมาเพิ่มเติมแล้ว
ท่านน่าจะมุ่งสนใจเอาเวลาชีวิตที่เหลือมามุ่งทำประโยชน์อย่างอื่นจะดีกว่า


(มาถึงตรงนี้ ผมขอตั้งข้อสังเกตนะครับว่า
คนเราส่วนใหญ่นั้นมักจะคิดแต่ว่าเราจะต้องเอาเงินไปลงทุนอะไรให้เกิดประโยชน์
โดยเราก็เอาเวลาชีวิตไปมุ่งนำเงินไปลงทุนต่าง ๆ นานา เพื่อให้ได้เงินเพิ่มมากขึ้น
แต่เรากลับไม่ได้สนใจว่า เราจะนำเวลาของเราไปลงทุนอะไร
ทั้งที่ ๆ เวลาในชีวิตของเราสำคัญกว่าเงินของเราเสียอีก
เรากลับสนใจที่จะลงทุนเงิน ซึ่งเป็นสิ่งที่มีค่าน้อยให้เกิดประโยชน์
โดยเราไม่ได้สนใจที่จะลงทุนเวลา ซึ่งเป็นสิ่งที่มีค่ามากให้เกิดประโยชน์
ฉะนั้นแล้ว สิ่งที่สำคัญกว่าการลงทุนเงินให้เกิดประโยชน
ก็คือเราต้องลงทุนเวลาให้เกิดประโยชน์ครับ
ถามว่าลงทุนเวลาเพื่ออะไรที่ทำให้เกิดประโยชน์คุ้มค่าที่สุด
ก็คือลงทุนเวลาเพื่อการศึกษาและปฏิบัติธรรม หรือไตรสิกขานี่แหละครับที่คุ้มค่าที่สุด)


ย้อนกลับมาที่เรื่องของญาติธรรมท่านนี้ที่ต้องการนำเงินไปลงทุนให้เกิดประโยชน์
ญาติธรรมท่านนี้ได้ฟังคำแนะนำของผมแล้ว
ท่านก็ถามผมว่า ไม่คิดจะเก็บเงินเพื่อไปสร้างโรงทานในอนาคตบ้างหรือ
เพราะญาติธรรมท่านนี้วางแผนเก็บเงินไว้เพื่อจะไปสร้างโรงทานในอนาคตด้วย
ผมจึงเรียนญาติธรรมท่านนี้ว่า ทุกวันนี้ผมก็ช่วยทำทานตามกำลังอยู่แล้ว
ผมคงไม่รอจนกว่าจะมีกำลังไปตั้งโรงทานในอนาคตหรอก
เพราะว่าเราจะมีชีวิตอยู่ถึงเมื่อไหร่ก็ไม่ทราบได้
ถ้าในปัจจุบันสะดวกและเหมาะสมจะทำทานตอนไหน เราก็ควรทำตอนนั้นเลย


อีกประเด็นหนึ่งที่สำคัญ ก็คือ การตั้งโรงทาน ก็ไม่ได้แปลว่าเราจะช่วยคนอื่นได้ทุกคน
เพราะในสังสารวัฏนี้ สัตว์โลกที่ต้องการความช่วยเหลือนั้นมีมากมายเหลือคณานับ
แม้แต่พระพุทธเจ้าเองท่านก็ไม่สามารถช่วยเหลือได้ทั้งหมด
ยกตัวอย่างว่า เราจะไปช่วยปล่อยปลาในตลาดสด ถามว่าเราจะช่วยได้เท่าไร
สมมุติว่าเราไปซื้อปลามาปล่อยทั้งตลาดในวันนี้ แล้วพรุ่งนี้ล่ะ แล้ววันต่อไปล่ะ
หรือสมมุติว่าเราจะไปช่วยปล่อยวัว เราปล่อยได้สิบตัววันนี้
แล้วตัวอื่น ๆ ในวันนี้ล่ะ แล้วตัวอื่น ๆ ในวันพรุ่งนี้ และวันต่อไปล่ะ
หรือสมมุติว่าเราเปิดโรงทานแจกอาหารให้ผู้คนต่าง ๆ
แล้วคนอื่น ๆ ที่ไม่ได้มารับอาหารล่ะ แล้วอาหารมื้ออื่น ๆ ที่เราไม่ได้แจกล่ะ
กล่าวคือ เราสามารถช่วยเหลือได้ตามกำลังในช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น
แต่เราไม่สามารถช่วยได้ทั้งหมด และไม่มีทางช่วยได้ทั้งหมดอยู่แล้วครับ


ทั้งนี้ ผมไม่ได้บอกว่าในเมื่อเราช่วยไม่ได้ทั้งหมดแล้ว เราก็เลยไม่สมควรช่วยนะครับ
แต่ผมบอกว่าเราสมควรช่วยตามกำลังของเราในปัจจุบัน
โดยไม่จำเป็นต้องไปตั้งความหวังคิดโครงการใหญ่เกินกำลังหรือเกินจำเป็น
แล้วก็กลายเป็นว่าไปเสียเวลาหาเงินเก็บเงินอะไรเยอะ ๆ เพื่อไปทำโครงการใหญ่
แต่กลับทำให้เสียโอกาสที่เราจะทำทานได้ทันทีในปัจจุบัน
และทำให้เสียโอกาสที่เราจะใช้เวลาไปเพื่อการภาวนาเพื่อการพ้นทุกข์สิ้นเชิงของตนเอง


อีกทั้งก็มีความไม่แน่นอนอีกมากมาย โดยกรณีไม่แน่ว่าเราจะมีชีวิตอยู่ถึงเวลานั้นไหม
เราเก็บเงินไว้เยอะแยะเพื่อไปตั้งโรงทาน แต่เราอาจจะตายก่อนก็ได้
ก็เลยไม่ได้ทำทั้งโรงทานในอนาคต ไม่ได้ทำทานในปัจจุบัน และไม่ได้ภาวนาในปัจจุบันด้วย
กลายเป็นว่าเราโดนกิเลสหลอกให้หาเงินไปเรื่อยตลอดชีวิต
โดยที่เราไม่ได้ใช้เวลาชีวิตให้เกิดประโยชน์คุ้มค่าแก่ตนเองอย่างแท้จริง
กรณีนี้จึงเป็นสิ่งที่เราควรระวังครับ ไม่อย่างนั้นแล้วจะเสียโอกาสเป็นอย่างมาก


+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + +


หมายเหตุ ณ วันที่ ๑๑ เมษายน ๒๕๕๘ ศาลาปฏิบัติธรรมที่อำเภอเก้าเลี้ยว จังหวัดนครสวรรค์
ได้เทคอนกรีตเสาครบทุกต้นแล้ว และกำลังเริ่มทำคานบนสำหรับทำหลังคาครับ
โดย ณ วันที่ ๑๑ เมษายน ๒๕๕๘ มียอดร่วมทำบุญสะสมทั้งหมดประมาณ ๖.๒๑๖ ล้านบาท
(๙๖% ของงบประมาณ)
ยังขาดปัจจัยสำหรับก่อสร้างอยู่อีกประมาณ ๒.๘๔ แสนบาท (๔% ของงบประมาณ) ครับ
ก็ถือว่าญาติธรรมได้ร่วมช่วยเหลือทำบุญกันมาเกือบครบแล้ว ขาดอีกไม่มากครับ


จึงขอเรียนเชิญญาติธรรมท่านที่สนใจร่วมสมทบทุนสร้างศาลาปฏิบัติธรรม
เพื่อประโยชน์ในการจัดค่ายศีลธรรมสอนธรรมะแก่เด็ก ๆ เยาวชน
ด้วยการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร ดังต่อไปนี้
ชื่อบัญชี นายสันติ คุณาวงศ์ นางปราณี ศิริวิริยะกุล และนางพจนา ทรัพย์สมาน
ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาแฟรี่แลนด์ นครสวรรค์
บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 881-223306-7


ทั้งนี้ ท่านสามารถติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างศาลาปฏิบัติธรรมได้ที่
http://www.facebook.com/rooguyroojai
และสามารถติดตามความคืบหน้าของการเรี่ยไรและสำเนาหน้าสมุดบัญชีรับบริจาคได้ที่
กระทู้ในเว็บไซต์ลานธรรมตามลิงค์นี้ครับ
เชิญร่วมสมทบทุนสร้างศาลาปฏิบัติธรรม ชมรมเรียนรู้กายใจ จังหวัดนครสวรรค์



แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP