ธรรมะจากพระสูตร Dhamma from Sutta

ทุติยอปุตตกสูตร ว่าด้วยสมบัติอันไม่มีบุตรสืบทอด


กลุ่มไตรปิฎกสิกขา



[๓๙๐] ครั้งนั้น พระเจ้าปเสนทิโกศลเสด็จเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับในเวลาเที่ยงวัน
ถวายบังคมแล้ว ประทับนั่ง ณ ที่สมควรข้างหนึ่ง.


พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสกะพระเจ้าปเสนทิโกศลว่า
เชิญเถิด มหาบพิตร พระองค์เสด็จมาจากไหนแต่กลางวัน.


พระเจ้าปเสนทิโกศลทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
คฤหบดีผู้เป็นเศรษฐีในกรุงสาวัตถีนี้ ถึงแก่กรรมแล้ว
ข้าพระองค์ให้ขนทรัพย์สมบัติอันไม่มีบุตรรับมรดกนั้นมาไว้ในวัง แล้วจึงมาเข้าเฝ้า
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เฉพาะเงินเท่านั้นมี ๑๐,๐๐๐,๐๐๐ ส่วนเครื่องเงินไม่ต้องพูดถึง
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ก็แต่คฤหบดีผู้เป็นเศรษฐีนั้น
ได้บริโภคอาหารเห็นปานนี้คือ บริโภคปลายข้าวกับน้ำผักดอง
ได้ใช้ผ้าเครื่องนุ่งห่มเห็นปานนี้คือ นุ่งห่มผ้าเนื้อหยาบที่เป็นผ้า ๓ ชิ้นเย็บติดกัน
ได้ใช้ยานพาหนะเห็นปานนี้คือ ใช้รถเก่า ๆ กั้นร่มทำด้วยใบไม้.


[๓๙๑] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า มหาบพิตร ข้อนี้เป็นอย่างนั้น
มหาบพิตร ข้อนี้เป็นอย่างนั้น เรื่องเคยมีมาแล้ว คฤหบดีผู้เป็นเศรษฐีนั้น
ได้สั่งให้จัดบิณฑบาตถวายพระปัจเจกสัมพุทธเจ้านามว่า ตครสิขี
ว่าท่านทั้งหลายจงถวายบิณฑบาตแก่สมณะ แล้วลุกจากอาสนะเดินหลีกไป
แต่ครั้นถวายแล้ว ภายหลังได้มีความเสียดายว่า
บิณฑบาตนี้ ให้ทาสหรือกรรมกรบริโภคยังดีกว่า
นอกจากนี้ เขายังปลงชีวิตบุตรน้อยคนเดียวของพี่ชาย เพราะเหตุแห่งทรัพย์สมบัติอีก
มหาบพิตร ด้วยผลกรรมที่คฤหบดีผู้เป็นเศรษฐีนั้น
สั่งให้จัดบิณฑบาตถวายพระตครสิขีปัจเจกสัมพุทธเจ้า
เขาจึงบังเกิดในสุคติโลกสวรรค์ ๗ ครั้ง ด้วยวิบากอันเป็นส่วนเหลือของกรรมนั้นเหมือนกัน
ได้ครองความเป็นเศรษฐีในกรุงสาวัตถีนี้แหละถึง ๗ ครั้ง.


มหาบพิตร ด้วยผลกรรมที่คฤหบดีผู้เป็นเศรษฐีนั้น
ถวายแล้ว ภายหลังได้มีความเสียดายว่า บิณฑบาตนี้ให้ทาสหรือกรรมกรบริโภคยังดีกว่า
เขาจึงไม่คิดอยากบริโภคอาหารอันมากมาย
เขาจึงไม่คิดอยากใช้ผ้าเครื่องนุ่งห่มอันมากมาย
เขาจึงไม่คิดอยากใช้ยานพาหนะอันโอ่อ่า
เขาจึงไม่คิดอยากบริโภคเบญจกามคุณอันดี ๆ.


มหาบพิตร ก็แหละด้วยผลกรรมที่คฤหบดีผู้เป็นเศรษฐีนั้น
ปลงชีวิตบุตรน้อยคนเดียวของพี่ชาย เพราะเหตุแห่งทรัพย์สมบัติ
เขาจึงถูกไฟเผาอยู่ในนรกหลายปี หลายร้อยปี หลายพันปี หลายแสนปี
ด้วยวิบากอันเป็นส่วนเหลือของกรรมนั้นเหมือนกัน
ทรัพย์สมบัติอันไม่มีบุตรรับมรดกของเขานี้ จึงถูกขนเข้าพระคลังหลวงเป็นครั้งที่ ๗.


มหาบพิตร ก็บุญเก่าของคฤหบดีผู้เป็นเศรษฐีนั้นหมดสิ้นแล้ว และบุญใหม่ก็ไม่ได้สะสมไว้
ก็ในวันนี้ คฤหบดีผู้เป็นเศรษฐี ถูกไฟเผาอยู่ในมหาโรรุวนรก.


พระเจ้าปเสนทิโกศลทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
คฤหบดีผู้เป็นเศรษฐีบังเกิดในมหาโรรุวนรกอย่างนั้นหรือ?


พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า อย่างนั้น มหาบพิตร
คฤหบดีผู้เป็นเศรษฐีบังเกิดในมหาโรรุวนรกแล้ว.


[๓๙๒] พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้พระสุคตศาสดา ครั้นตรัสไวยากรณ์นี้จบลงแล้ว
จึงได้ตรัสพระคาถาต่อไปอีกว่า


ข้าวเปลือก ทรัพย์ เงินทอง หรือข้าวของ ที่หวงแหนอย่างใดอย่างหนึ่ง
หรือทาส กรรมกร คนใช้ และผู้อาศัยของเขามีอยู่
ทั้งหมดนั้นเขานำไปไม่ได้ จะต้องละทิ้งไว้ทั้งหมด.


อนึ่ง บุคคลทำกรรมใด ด้วยกาย ด้วยวาจา หรือด้วยใจ
กรรมนั้นแหละเป็นสมบัติของเขา และเขาย่อมพาเอากรรมนั้นไป
อนึ่ง กรรมนั้นย่อมติดตามเขาไป เหมือนเงาติดตามตนฉะนั้น


เพราะฉะนั้น บุคคลควรทำแต่กรรมดี สั่งสมไว้สำหรับภายหน้า
เพราะบุญทั้งหลายเป็นที่พึ่งของสัตว์ทั้งหลายในโลกหน้า.


ทุติยอปุตตกสูตร จบ



(ทุติยอปุตตกสูตร พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค
พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย เล่มที่ ๒๔)



แบ่งปันบทความนี้ให้เพื่อนๆ
Facebook! Twitter! Del.icio.us! Free and Open Source Software News Google! Live! Joomla Free PHP