ธรรมะจากพระสูตร Dhamma from Sutta
โทณปากสูตร ว่าด้วยการหุงข้าวสารทะนานหนึ่ง
กลุ่มไตรปิฎกสิกขา
[๓๖๔] พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ... ใกล้กรุงสาวัตถี.
สมัยนั้น พระเจ้าปเสนทิโกศลเสวยพระกระยาหารหุงด้วยข้าวสารหนึ่งทะนาน
เสวยแล้ว ทรงอึดอัด เสด็จเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ
ถวายอภิวาทพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว ประทับนั่ง ณ ที่สมควรข้างหนึ่ง.
[๓๖๕] ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทราบว่า
พระเจ้าปเสนทิโกศลนั้นเสวยแล้ว ทรงอึดอัด จึงได้ตรัสพระคาถานี้ในเวลานั้นว่า
มนุษย์ผู้มีสติอยู่ทุกเมื่อ รู้จักประมาณในโภชนะที่ได้มา
ย่อมมีเวทนาเบาบาง เขาย่อมแก่ช้า อายุยืน.
[๓๖๖] สมัยนั้น มหาดเล็กหนุ่มชื่อสุทัสสนะ ยืนอยู่เบื้องพระปฤษฎางค์พระเจ้าปเสนทิโกศล.
ลำดับนั้น พระเจ้าปเสนทิโกศลจึงตรัสเรียกสุทัสสนมาณพมารับสั่งว่า
มานี่ สุทัสสนะ เจ้าเรียนคาถานี้ในสำนักพระผู้มีพระภาคเจ้า
แล้วจงกล่าวในเวลาเราบริโภคอาหาร
อนึ่ง เราจะให้ค่าอาหารแก่เจ้าวันละ ๑๐๐ กหาปณะ.
สุทัสสนมาณพรับสนองพระดำรัสพระเจ้าปเสนทิโกศลว่า
เป็นพระมหากรุณาอย่างยิ่ง พระเจ้าข้า ดังนี้แล้ว เรียนคาถานี้ในสำนักพระผู้มีพระภาคเจ้า
แล้วกล่าวในเวลาที่พระเจ้าปเสนทิโกศลเสวยพระกระยาหารว่า
มนุษย์ผู้มีสติอยู่ทุกเมื่อ รู้จักประมาณในโภชนะที่ได้มา
ย่อมมีเวทนาเบาบาง เขาย่อมแก่ช้า อายุยืน.
[๓๖๗] ครั้งนั้น พระเจ้าปเสนทิโกศลทรงดำรงอยู่
โดยเสวยพระกระยาหารหนึ่งทะนานเป็นอย่างมากเป็นลำดับมา.
ต่อมา พระเจ้าปเสนทิโกศลมีพระวรกายกระปรี้กระเปร่าดี ทรงลูบพระวรกายด้วยฝ่าพระหัตถ์
ทรงเปล่งพระอุทานนี้ในเวลานั้นว่า
พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น ทรงอนุเคราะห์เราด้วยประโยชน์ทั้งสอง คือ
ประโยชน์ปัจจุบันและประโยชน์ภายหน้าหนอ.
โทณปากสูตร จบ
(โทณปากสูตร พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค
พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย เล่มที่ ๒๔)
< Prev | Next > |
---|