มาแสดงตัวว่าร่วมกิจกรรมช้าไปหน่อย แต่ได้อธิษฐานไปตั้งแต่ได้ดูรายการตาสว่างแล้วค่ะ ::01::
เดือนที่แล้ว อธิษฐานไว้ 2 เรื่อง คือ จะไปอยู่วัดถือศีล 8 ทุกวันพระ เพื่อให้จิตใจมีความสุขและ
เป็นสมาธิได้ง่ายๆ อีกทั้งยังได้ฝึกให้ตนเองมีระเบีบยวินัย เอาชนะความขี้เกียจ (ต้องเดินจงกรม
นั่งสมาธิและสวดมนต์รวมๆกันหลายชั่วโมงเลยค่ะ)
เรื่องที่สอง อธิษฐานว่า จะไม่ตอบสนองกับราคะแรงๆที่เกิดขึ้นมา
ผลก็ปรากฏว่าทำได้สำเร็จตามที่อธิษฐานไว้ ซึ่งทำให้รู้สึกภูมิใจ อิ่มใจและเต็มตื้นทุกครั้งที่นึกถึง
เริ่มเข้าใจแล้วค่ะว่า สิ่งที่จำเป็นในชีวิตเรามีไม่กี่อย่าง (เช่น การแต่งหน้าถือว่าเกินจำเป็น ไม่ทานข้าวเย็นร่างกายก็อยู่ได้ แถมยังเบาสบาย ปฏิบัติได้คล่องตัว ฯลฯ) ทำให้อยากทำความดีอื่นๆที่เรายังไม่ได้ทำเพิ่มขึ้น และอยากเลิกนิสัยไม่ดีๆหลายอย่าง เพราะเชื่อว่า หากเข้มแข็งและเอาจริง ต้องทำได้แน่นอนค่ะ ::12:: ::33::
ในเดือนสิงหาคมนี้ ก็อธิษฐาน 2 อย่างแรกเหมือนเดิม คือ ถือศีล 8 ที่วัดทุกวันพระ และไม่ตอบสนองต่อราคะที่เกิดขึ้น เพิ่มเข้ามาอีกอย่างคือ ไม่พูดและแสดงกิริยาทางกายตอบโต้เมื่อโกรธ
(ซึ่งเป็นสิ่งทีดิฉันรู้สึกว่ายาก เลยรอให้ทำ 2 ข้อแรกสำเร็จก่อนน่ะค่ะ จิตใจจะได้แกร่งๆ ::01::)
เช่น ถ้ามีคนมาว่าแล้ว รู้สึกโกรธ หากอยากด่ากลับ ก็ไม่ตอบอะไรออกไป เงียบไว้ก่อน แล้วค่อยๆดูความโกรธที่เกิดขึ้นแทนว่ามันจะคงอยู่ยาวนานแค่ไหน หรือบางทีโกรธแล้วอยากกระแทกจานชามแรงๆ ก็รู้ทันอาการนั้น แล้วปฏิบัติตรงกันข้าม คือค่อยๆวาง>> ไม่ยอมเป็นทาสความโกรธ
ไม่ยอมให้มันมาจูงจมูกได้อีกต่อไป
ดีใจค่ะ ที่มีโครงการดีๆแบบนี้มาทำร่วมกันและให้ทุกคนร่วมกันอนุโมทนา _/|\_
เป็นกำลังใจให้กับทุกท่านค่ะ เอาชนะตัวเองได้ คือชัยชนะสูงสุด ::115::
_/|\_ ขออนุโมทนาในความตั้งใจดี
ขอให้สำเร็จตามที่ตั้งใจนะคะ :)
ดีจังเลยค่ะ ความตั้งใจดีมากๆ อนุโมทนานะคะ ::01:: _/\_
ขอบคุณทั้ง คุณ Aims และ คุณ Think Plus ที่ให้กำลังใจนะคะ
ทำให้รู้สึกกระฉับกระเฉงขึ้นมาเยอะเลยค่ะ ::115::
การไม่พูดโต้ตอบเมื่อโกรธ เป็นสิ่งที่ทำได้ยากจริงๆ
เพราะรู้สึกได้เลยค่ะว่า มีแรงดันขึ้นมากลางอก เพื่อให้เราโต้ตอบกลับไป
แต่เมื่อเอาชนะได้ ไม่พูดว่าเขากลับไปแรงๆดังใจนึก
จิตใจก็สงบสุขและฉ่ำเย็น ท่ามกลางเสียงร้ายๆที่เข้ามากระทบได้ค่ะ ::33::
เป็นกำลังใจให้ทุกๆท่านเช่นกันค่ะ
ป.ล. เมื่อไหร่ที่เผลอโต้ตอบไป จะเข้ามาสารภาพผิดค่ะ :'(
::33:: เข้ามาให้กำลังใจค่ะ ::33::
และอยากเข้าร่วมอุดมการณ์ "ไม่พูดเมื่อโกรธ" ด้วยคนค่ะ
เห็นด้วยอย่างยิ่งและเข้าใจเป็นอย่างดี
ถึงอาการแน่นขึ้นที่อกและอาการอยากโต้ตอบทางคำพูดและท่าทาง
ตอนนี้ตั้งใจสวดมนต์ไหว้พระก่อนนอนทุกคืนอยู่ค่ะ ซึ่งทำมาได้เกือบ ๓ เดือนแล้ว
อีกทั้งพยายามตั้งใจรักษาศีล ๕ (( โดยเฉพาะข้อที่ ๔ ซึ่งเกี่ยวกับคำพูดนั่นเอง ^^" ))
ส่วนศีล ๘ คงต้องขอยกเอาไว้ก่อนนะคะ ถ้าแกร่งกว่านี้เมื่อไหร่ ไม่พลาดแน่ค่ะ ; )
อนุโมทนากับความตั้งใจทำอะไรดีๆ ของคุณ parisa ด้วยนะคะ
ถ้ามีจังหวะอารมณ์ศิลป์วิ่งเข้ามาเมื่อไหร่ จะแต่งกลอนสำหรับความตั้งใจนี้ให้นะคะ ::01::
ขอบคุณ คุณพิมพ์พลอยมากๆค่ะ สำหรับกำลังใจ ::01::
และบทกลอนในอนาคต (ขอบอกว่าชอบมากค่ะ แอบเอาไปขึ้นไว้ที่ hi5 เรียบร้อยแล้ว) ::115::
แล้วก็ดีใจที่มีเพื่อนร่วมอุดมการณ์ "ไม่พูดเมื่อโกรธ" อีกคน ::12::
เมื่อตะกี้ก็มีเหตุยั่วยุให้โต้ตอบอีกแล้วล่ะค่ะ
แต่ก็นิ่งเงียบ ไม่พูดอะไรออกไป ดูปฏิกิริยาที่ใจของตนเองอย่างเดียว
เห็นเลยค่ะว่า ใจกระเพื่อมเพราะอยากโต้ตอบเขา แต่พอรู้ทันแล้วนิ่งแทน
ใจก็เกิดขันติ แล้วก็มีความสุขแผ่วๆค่ะ ::12::
สู้ๆค่ะคุณพิมพ์พลอย ::33::
ความสุขจากการทำความดี จะทำให้เราเลิกสนใจเรื่องราวเก่าๆที่มีนำความทุกข์มาให้
เมื่อคืน คุยโทรศัพท์กับเพื่อนค่ะ มีเหตุให้ขุ่นเคืองใจนิดหน่อย
แต่ก็ไม่ได้สวนออกไปในทันที พอลดระดับความขุ่นใจลงแล้ว
ก็ค่อยถามถึงเรื่องที่เราขุ่นใจ จนในสุดท้ายก็เข้าใจกันด้วยดี
ถ้าเป็นแต่ก่อน คงโกรธปึงปังและวางสายแบบเสียอารมณ์ไปแล้วล่ะค่ะ :D
นอกจากนี้ ยังมีสิ่งเข้ามาทดสอบจิตใจอีกว่าจะรักษาคำพูดได้จริงหรือไม่
มาทดสอบกันในฝันเลยล่ะค่ะ ::115::
เนื่องจากได้อธิษฐานไปว่า ตลอดทั้งเดือนสิงหาคมนี้ จะไม่ตอบสนองราคะทางกาย
(เดือนที่แล้วก็ทำสำเร็จค่ะ ::12::)
(กิเลส) มารก็เข้ามาทดสอบ ยั่วยวนในฝัน ด้วยภาพและเสียงที่สมจริงมากจนน่ากลัว
เราเผลอปล่อยใจยินดีไปกับมันเรียบร้อยเลยค่ะ (ในฝัน) ทั้งๆที่มีเสียงเล็กๆร้องบอกว่า ไม่เอาๆ
มันก็ไม่ยอมฟัง.... พอดีรู้สึกตัวตื่น แทบอยากเอาหัวโขกผนังบ้าน
ดีจริงๆที่เป็นแค่ความฝัน ::115:: _/|\_
ในยามตื่น เราสามารถควบคุมพฤติกรรมได้ว่า จะทำหรือไม่ทำ
แต่ในยามหลับ สติที่คอยควบคุมไม่ทำงาน สิ่งต่างๆที่ถูกกดเอาไว้ก็ปลดปล่อยออกมา
ทำให้รู้เลยค่ะว่า แม้แต่ใจเราเอง ก็ไปไว้ใจมันไม่ได้หรอกค่ะ
เพราะมันชอบเป็นทาสของกิเลสอยู่เรื่อยๆ น่าอายจริงๆ :'(
ยิ่งเป็นแบบนี้ ยิ่งต้องไม่ตามใจมัน มันอยากนัก ก็ไม่ให้สิ่งที่มันอยาก
ขอกำลังใจจากเพื่อนๆทุกท่านด้วยนะคะ _/|\_
บททดสอบนี้ ยากเอาการค่ะ ::115::
ป.ล. ราคะทางกายนี่ หมายถึงความอยากทางเพศน่ะค่ะ (ไม่ใช่การผิดศีลข้อ 3 นะคะ
เพราะว่าไม่ทำอยู่แล้ว ::12::)
ชื่นชมความมุ่งมั่นของคุณ Parisa ::12:: ที่มีอย่างล้นเหลือ
เป็นคุณสมบัติที่ดิฉันขาดมากเลยค่ะ ขอแอบเอาเป็นเยี่ยงอย่างสักหน่อย
แต่อย่าลืมเอา "มัจฉิมาปฏิปทา" ที่พระุพุทธองค์ทรงเน้นย้ำมาร่วมใช้ด้วยนะคะ
เข้ามาให้กำลังใจ และอนุโมทนาในความตั้งใจมุ่งมั่นในธรรมอย่างยิ่งค่ะ ::33:: ::33::
อนุโมทนาครับ ขอให้ทำสำเร็จในสิ่งที่ตั้งใจอธิษฐานไปนะครับ
สิ่งใดที่เหลือบ่ากว่าแรง (เช่นในฝัน) ก็ปล่อยไป อย่าให้เรื่องเหล่านั้นกลับมาทำร้ายจิตใจของเรา
ทำปัจจุบันนี้ให้ดี ทำให้เต็มที่ที่สุดเท่าที่เราพอทำได้ เท่านั้นก็วิเศษที่สุดแล้วครับ
เป็นกำลังใจให้ครับ ::33:: _/\_ ::01::
ชื่นชมและอนุโมทนาด้วยค่ะ
_/\_ ::01:: ::33::
ขออนุโมทนาบุญกับคุณ parisa ด้วยค่ะ คุณมีความตั้งใจสูงและมุ่งมั่นมากค่ะ ขอให้ทำแบบสบายๆ นะคะ เพราะอะไรที่ตึงเกินไปก็ไม่ดี หย่อนเกินไปก็ไม่ดีค่ะ Angel รู้สึกว่าเพื่อนสมาชิกทุกคนที่เข้ามาร่วมในโครงการนี้เป็นคนที่มีธรรมะในจิตใจกันสูงมากจริงๆค่ะ และทุกคนก็ร่วมยินดึ อนุโมทนากับสิ่งดีดีที่เพื่อนตั้งสัจจะอธิษฐานไว้ขอให้ทำให้สำเร็จ Angel ก็ขอเป็นอีกหนึ่งคนที่เป็นกำลังใจให้คุณ parisa ทำสำเร็จด้วยนะคะ สาธุ _/|\_ ::02::
เมื่อวานไปถือศีลที่วัดในวันพระมาด้วยหรือเปล่าครับ อนุโมทนาด้วยอีกครั้งหนึ่งนะครับ _/\_ ::01:: ::33::
::33:: ตามสัญญาค่ะ
ความโกรธ หากมีขึ้น
จงยิ้มรื่น ชื่นบานใส่
มองลง ตรงที่ใจ
อย่าจ้องใคร ให้ยิ่งเซ็ง
เมื่อโกรธ ให้ตามรู้
โกรธเป็นครู ดูจนเก่ง
พยายาม ปรามตัวเอง
อย่างครัดเคร่ง ก่อนเอ่ยคำ
ไม่พูด ยามตนโกรธ
เห็นแต่โทษ หากเพลี่ยงพล้ำ
อย่าปล่อย กิเลสนำ
ทุกถ้อยคำ น่าละอาย
ทำใจ ให้นิ่งก่อน
แล้วค่อยผ่อน อารมณ์ได้
เย็นใจ ก่อนเย็นกาย
หยุดทำร้าย น้ำใจกัน
คนโกรธ ไม่เคยมี
เพราะโกรธนี้ ไร้แก่นสาร
หลีกเร้น เหตุทุกด้าน
เพียงไม่นาน จะเข้าใจ
ยอมถอย หากจำเป็น
อย่าได้เห็น เป็นเรื่องใหญ่
เราถอย เพื่อก้าวไกล
เป็นคนใหม่ ใจชื่นบาน : )
::01:: ::33::
ขออนุโมทนา ขอให้ทำได้สำเร็จนะคะ _/|\_
คุณ parisa หายไปไหนค่ะ รอฟังข่าวคราวอยู่ค่ะ แล้วเขียนมาเล่าสู่กันฟังบ้างนะคะ เป็นกำลังใจให้อยู่ค่ะ ::02:: ::33::
ขอบคุณทุกๆท่านนะคะที่ให้กำลังใจมากมายขนาดนี้ _/|\_
รู้สึกซาบซึ้งจนพูดอะไรไม่ออกเลยค่ะ :'(
และขอโทษนะคะ ที่หายไปช่วงหนึ่ง เพราะชีวิตยุ่งมากค่ะ
วุ่นวายกับการวางแผนเรื่องอนาคต หน้าที่การงาน
อยู่ในมรสุมของความเครียดไปพักใหญ่ๆเลยล่ะค่ะ
พอเครียดเข้ามากๆ ก็เผลอพูดไม่ดีออกไปเหมือนกันค่ะ
โดยเฉพาะเวลาโกรธ :(
มีพี่ที่ดิฉันเคารพคนหนึ่ง เตือนว่า ดิฉันเป็นคนเจ้าอารมณ์
และมักจะพูดจาไม่ระมัดระวัง โดยเฉพาะกับคนในครอบครัว
ยิ่งกับพ่อแม่ด้วยแล้ว ดังนั้นเวลาที่วิบากให้ผล จะทรมานมากๆเลยค่ะ
มันไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้เลย
เวลาโกรธนั้น มีแต่จะอยากอาละวาด เกรี้ยวกราดและทำลายสิ่งของ
กลายเป็นความผิดปกติทางอารมณ์ที่ต้องได้รับการรักษา
น่ากลัวที่สุดเลยล่ะค่ะ :(
แต่ตอนนี้ก็ดีขึ้นมาก เพราะรู้สึกตัวได้เร็วขึ้นๆ
อย่างน้อยๆ ก็ไม่ทำลายข้าวของแล้วล่ะค่ะ
และอย่างมาก ก็เถียงน่ะค่ะ (แต่มันก็ไม่ดี :()
หากเรายอมถอย ไม่ถือสา และลดราวาศอก
ก็จะไม่เกิดการถกเถียง ไม่มีฝ่ายผิด ฝ่ายถูก
ไม่มีคนเสียใจ...
แต่บางครั้งก็อดสงสัยไม่ได้เหมือนกันค่ะว่า
ถ้าแค่อธิบายให้อีกฝ่ายเข้าใจ มันจะได้หรือเปล่า?
เพราะถ้าโดนเข้าใจผิดอยู่บ่อยๆ เราก็น้อยใจ
แต่ก็ไม่อยากปะทะกับใครเหมือนกันค่ะ เพราะมันเหนื่อยใจเหลือเกิน
ตอนนี้เชื่อมาจากหัวใจเลยค่ะว่า การเอาชนะคะคาน
การอยากให้อีกฝ่ายยอมสยบเรา มันไม่เกิดผลดีต่อใครทั้งนั้น
เหมือนสงคราม ที่มีแต่ฝ่ายสูญเสีย
การให้อภัยต่างหากค่ะ คือสิ่งสมควรทำที่สุด ::115::
น่าเสียดายจังค่ะ ที่วันพระนี้ จะไม่ได้ไปถือศีลที่วัด
เพราะต้องพาคุณพ่อไปหาหมอ แต่จะเลื่อนเป็นวันพรุ่งนี้แทนค่ะ (ถือศีลอยู่บ้านแทน)
ขอบคุณบทกลอนที่ สั่นสะเทือนหัวใจจากคุณพิมพ์พลอยมากกๆเลยค่ะ
ชอบสุดหัวใจเลย ::33:: ::33:: ::33::
ขอบคุณทุกๆท่านที่ไม่ได้เอ่ยชื่อด้วยนะคะ
ทำให้ดิฉันมีกำลังใจที่จะทำตามคำพูดของตัวเองอีกโข
(ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ แอบคิดถอดใจไปบ้าง)
ขอบคุณคุณ angel และคุณ panapein นะคะที่เตือนให้อยู่ในทางสายกลาง
ดิฉันจะให้รางวัลตัวเองค่ะ เวลาทำดีๆสำเร็จในแต่ละครั้ง เช่น ชมตัวเอง
และก็จะดุตัวเองบ้าง เวลาเหลวไหล หรือนึกถึงคำของครูบาอาจารย์มากระหนาบไว้
ไม่ค่อยตึงหรอกค่ะ ส่วนมากหย่อนเสียด้วยซ้ำ
แต่เรื่องบางเรื่อง เช่น การยอมทำตามราคะหยาบๆ สำหรับดิฉันมันผ่อนไม่ได้ค่ะ
เพราะเป็นคนราคะแรง (ก็ลามกมากน่ะค่ะ) เลยต้องใช้ไม้แข็ง
ไม่อย่างนั้น จิตใจก็จะฝักใฝ่ไปในทางโลกมากกว่าจะอยู่กับทางธรรมน่ะค่ะ
คือ ใจแท้ๆนั้น อยากจะอยู่เป็นโสดและปฏิบัติแบบสบายๆไปเรื่อยๆ
แต่ถ้าปล่อยตัวเองให้หมกมุ่นกับเรื่องอย่างนั้น เดี๋ยวจะออกนอกทางไปซะก่อนค่ะ
ก็อย่างที่สุนทรภู่ว่าไว้จริงๆนะคะ "อดเสน่หาไม่ตายแน่นอน" ::115::
อันนี้เป็นความคิดส่วนบุคคลนะคะ ดิฉันอาจจะเหมาะกับการเคร่งครัดเรื่องนี้
แต่กับบางคน อาจกลายเป็นความทรมานก็ได้ค่ะ
คราวนี้เล่าเสียยาว เพราะหายไปเป็นสัปดาห์
ต่อไปนี้ จะมาเล่าเรื่อยๆนะคะ
จะไปสังเกตปฏิกิริยาของใจเวลาที่โกรธให้มากกว่านี้ค่ะ
ว่ามันจะผลักดันให้อยากทำอะไรบ้าง ::33::
แล้วเจอกันค่ะ ::12::
สู้ๆนะครับ ::02:: ::33::
เป็นยังไงบ้างแล้วน้า ..
โกรธบ่อย ก็รู้ตัวได้บ่อย
พลิกวิกฤตเป็นโอกาสนะคะ .. สู้ๆๆ ::33::
โอ้โห คุณ parisa หายไปนาน กลับมาพร้อมเรื่องยาวเลยนะคะ
ดีค่ะที่รู้จักตัวเองได้ละเอียด ลึกซึ้งขนาดนี้ ::12::
หายากนะคะ ที่คนเราจะยอมรับตัวเองทั้งในด้านดีและไม่ดี
โดยเฉพาะด้านไม่ดีเนี่ย ไม่ค่อยมีใครกล้ายอมรับความจริงเท่าไหร่
Angel ว่าค่อยๆ ปรับตัวเองดีไหมคะ คอยตามรู้กาย รู้ใจไปเรื่อยๆ
วันหนึ่งกิเลสก็จะเบาบางลง เพราะเรามีสติรู้ทันเขาก่อน
เขาก็จะอายและหายไป ถ้ารู้ตัวบ่อยๆ สติก็เกิดบ่อย กิเลสก็ไม่กล้าเสนอหน้าบ่อย :D
Angel อยากจะบอกว่าความกตัญญูกตเวทิตากับบุพการี
ถือเป็นสิ่งที่คนเป็นลูกควรทำอย่างยิ่ง _/\_
ลูกคนไหนกตัญูญูกตเวทิตากับพ่อแม่ ลูกคนนั้นก็จะเจริญยิ่งๆ ขึ้นค่ะ _/|\_
อย่าทำให้ท่านเสียใจนะคะ เพราะถือเป็นกรรมหนัก และจะเป็นบาปติดตัวค่ะ
Angel โดนมาแล้ว และได้ขออโหสิกรรมแล้วค่ะ _/|\_ ::02::
เป็นกำลังใจให้คุณ parisa ทำได้สำเร็จดังตั้งใจนะคะ ::33::
แล้วเข้าเล่าความคืบหน้าบ่อยๆ นะคะ
Quote from: พิมพ์พลอย on August 19, 2009, 10:29:55 pm
เป็นยังไงบ้างแล้วน้า ..
โกรธบ่อย ก็รู้ตัวได้บ่อย
พลิกวิกฤตเป็นโอกาสนะคะ .. สู้ๆๆ ::33::
เสริมคุณพิมพ์พลอย อยากให้คุณ parisa เจ้าของกระทู้เจียดเวลาฟังเว็บนี้นิดนึงนะครับ
ลองทำความรู้จักกิเลสของตัวเองอย่างใจเย็น เป็นเพื่อนกับมันโดยไม่หลงไปกับมัน
แล้วจะมีความสุขใจมากขึ้น ความทุกข์ใจน้อยลงครับ ::33::
www.wimutti.net/pramote
_/\_ _/\_ _/\_
หายไปอีกแล้ว ..
:)
สวัสดีค่ะ คุณ parisa ช่วงนี้คงงานยุ่งอีกแล้วใช่ไหมคะ
หายไปอีกแล้ว Angel และเพื่อนๆ รอให้กำลังใจอยู่นะคะ
เข้ามาเล่าสู่กันฟังบ้างนะคะ ;)
เข้ามาดู (ด้วยคน) ... ::01:: ::33::