ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน : )

Started by พิมพ์พลอย, July 16, 2009, 04:26:34 pm

previous topic - next topic
Go Down

พิมพ์พลอย

 ::33:: แอบยิ้ม รับดอกไม้
กำลังใจ แสนอบอุ่น
แต่งกลอน แทนขอบคุณ
อิ่มทั้งบุญ อุ่นทั้งใจ

รู้สึก ตนเข้มแข็ง
เริ่มมีแรง สู้ต่อได้
ปล่อยวาง อย่างเข้าใจ
ทำต่อไป ไม่ยากเกิน

เห็นผล ด้วยตนเอง
ไม่รีบเร่ง ไม่ขัดเขิน
ทำใจ ให้ฉ่ำเพลิน
ค่อยก้าวเดิน อย่างมั่นคง

จากสอง ลองเพิ่มสาม
พยายาม ตามรู้ "หลง"
จิตวิ่ง เห็นตามตรง
พุทธองค์ ทรงเมตตา

ชี้ทาง ห่างกิเลส
หากทำเหตุ ให้แน่นหนา
ทาน ศีล ภาวนา
ผลข้างหน้า ตามปัจจัย

บุญใด หากมีขึ้น
ขอหยิบยื่น มอบไว้ให้
ทุกคน ที่ตั้งใจ
ทำตัวใหม่ ให้ดีงาม

ทีมงาน ที่น่ารัก
คอยคุยทัก ตอบคำถาม
ทุกคน ล้วนพยายาม
จะก้าวข้าม ความเคยชิน

กล้าเปลี่ยน กล้าทำลาย
ทุกข์หล่นหาย มลายสิ้น
พบสุข เป็นอาจิณ
รวยทรัพย์สิน รินปัญญา

::33:: ::33::
http://twitter.com/pitaploy
http://www.facebook.com/pitaploy
http://www.facebook.com/piimplloy

I'm just the one who has various dreams, trying to learn how to live this miracle life worthily and find the way to end the cycle of birth and death.

Think Plus

วะ วะ วะ ว้าว..  _/\_  อนุโมทนากับบุญทุกบุญ ความตั้งใจอันดีงามของทุกคนนะคะ ยังมีความตั้งใจทำ 2 วันฉันทำได้อยู๋เหมือนกันค่ะ แต่เป็นแบบแอบทำ ไม่ได้โพสลงกระทู้ อิอิ.. เพราะว่าที่ตั้งใจทำจะเป็นความรู้สึกล้วนๆเลยอ่ะค่ะ คิดออกมาเป็นคำพูดไม่ได้ พยายามสร้างความเพียรให้ไปถึงเป้าหมายด้วยทีละนิดนะคะ   ::33::

พิมพ์พลอย

เริ่มอยู่กับตัวเองได้คุ้นชินมากขึ้น
ทุกครั้งที่เริ่มรู้สึกว่าเหงา จะพยายามหาอะไรทำ
เช่น อ่านหนังสือ จัดห้อง เล่นเน็ต

เห็นได้ชัดว่า เวลาความเหงามาเยี่ยม
ถ้าเราใส่ใจรับรู้ครุ่นคิดถึงแต่มัน
มันจะพองโตขึ้นเรื่อยๆ

บางทีก้อรู้สึกเหมือนว่าใจลึกๆ เราชอบมันเหมือนกันนะ
ชอบที่จะคิด หาเรื่องกลุ้มใจมาคิดตลอดเวลา

พอรู้ตัวก้อพยายามหาอะไรอย่างอื่นทำไป
อยู่กับตัวเองให้มากขึ้นๆ พยายามมองในแง่ดีของการได้ทำอะไรคนเดียว
ไม่ไปคาดหวังการกระทำของคนอื่น ซึ่งมันจะตามทำร้ายความรู้สึกเราได้มาก

วันแรกๆ ก้อโหวงเหวง วันต่อๆ มาก้อรู้สึกดีขึ้น เหงาน้อยลง
ยิ่งพยายามหาอะไรมีประโยชน์ทำ และมีความสุขอยู่กับตัวเองมากๆ
ก้อยิ่งเห็นชัดว่าปล่อยวางอะไรไร้สาระได้มากขึ้น

แต่ก้อยังมีหลงดีใจบ้างประปราย เวลาได้รับอะไรจากคนอื่น
เห็นชัดว่า ถ้าไม่คาดหวังซะอย่าง สิ่งที่ได้รับมา จะเป็นอะไรที่สุขมากกว่าทุกข์

บางครั้ง การหยุดไขว่คว้าอะไรที่เรารู้ดีว่า
ไม่สามารถเป็นได้อย่างใจเราหวังเสมอไป
เราก้อได้ค้นพบว่า สิ่งที่เราต้องการ
แท้จริงแล้วมันไม่ได้อยู่ที่ไหนไกล
.. มันอยู่ที่ใจของเราเอง ..




"มันอยู่ตรงนี้อยู่แล้ว ทุกอย่างที่อยากมี หากมองชีวิตอย่างนี้ให้เข้าใจ
มันอยู่ตรงนี้อยู่แล้ว มันอยู่ที่ตรงนี้แค่เพียงเรา .. ยอมรับและพอใจ"




::33:: ขออธิษฐานจิตให้มีความเข้มแข็งพึ่งพาตัวเองได้ต่อไป
ไม่อยากกำหนดว่ากี่วัน แต่อยากทำต่อไปให้ได้เรื่อยๆ
ขออธิษฐานให้ไม่ท้อ แม้ว่าจะอ่อนแอร้องไห้อีกกี่ครั้งก้อตาม
สุดท้ายขอให้มีแรงใจที่จะเริ่มใหม่
ด้วยศรัทธาเต็มเปี่ยมต่อคำสอนของพระพุทธองค์ : )

_/|\_ _/|\_ _/|\_

http://twitter.com/pitaploy
http://www.facebook.com/pitaploy
http://www.facebook.com/piimplloy

I'm just the one who has various dreams, trying to learn how to live this miracle life worthily and find the way to end the cycle of birth and death.

พิมพ์พลอย

วันเดียวกันแท้ๆ
ตอนเช้าเข้มแข็ง
ตอนนี้อ่อนแอมากมาย

ใจหนอใจ ..
T T

http://twitter.com/pitaploy
http://www.facebook.com/pitaploy
http://www.facebook.com/piimplloy

I'm just the one who has various dreams, trying to learn how to live this miracle life worthily and find the way to end the cycle of birth and death.

Think Plus

อิอิ .. เป็นเหมือนกันเลยค่ะ .. วันนี้ยังโดนกิเลสแห่งความขี้เกียจหลอกว่าให้รอทำงานให้รวยก่อนแล้วค่อยมาภาวนาดีกว่าด้วยนะคะ  8) เลยรีบโทหาอัพไลน์ เอ้ยย..กัลยาณมิตร ที่ปรึกษาส่วนตัวเลยค่ะ   :D โดนเทศน์มาซะหน่อยจะได้มีแรง มนุษย์เราก็อย่างนี้นะคะ ตลกดีเนอะ ว่าไหม.. ไหลตามสิ่งกระทบกันไปเรื่อยเปื่อย หลอกเราไปวันๆ อาจจะตายจากกันไปโดยที่ไม่ได้อะไรขึ้นมาแต่กลับเสียชีวิตนี้ไปอย่างน่าเสียดาย .. เลยว่าจะต้องกลับมาตั้งใจทำสองวัน ฉันทำได้ในสิ่งที่เป็นรูปธรรมไปเรื่อยๆ สร้างเหตุที่ดี โดยเฉพาะการตั้งใจมองโลกในด้านบวกกับทุกๆอย่างที่เข้ามานี่ ทำให้จิตใจเกิดฉันทะขึ้นมามากๆเลยค่ะ พอมีความสุขก็ขยันดูกายดูใจ ไม่มีใครให้พึ่งพาเราก็ยังสบายใจ เพราะเราคิดบวก..อิอิ อยากชวนคุณพิมพ์พลอยมาคิดบวกด้วยกันนะคะ  ::33::

Think Plus

อิอิ ... หนีไปแอบแต่งกลอนมาให้ด้วยนะคะ แหะๆ ..


Think Plus

                สองวัน  ฉันทำได้ จะคิดบวก
                ให้ใจตรวจและสำรวจ คอยตามรู้
               โลภ  โกรธ  หลง เพ่ง  จ้อง  เป็นผู้ดู
                 เบิกบานอยู่  มีสุขใจ  แจ่มใสจริง

_/\_  ฝึกให้เคย มองแต่ดีมีคุณจริง อย่างที่พระท่านบอกเลยค่ะ  _/\_   

sittnn

เป็นกำลังใจให้ในวันอ่อนแอนะครับ  ::33::
เดี๋ยววันหลังจะแอบมาเล่นแบบคุณ Think Plus บ้าง  ::01::
-- เมตตาคือไมตรี --

พิมพ์พลอย

ขอบคุณคุณ Think Plus และคุณ sittnn มากค่ะ
จะพยายามคิดบวกให้ได้มากๆ จะได้ทุกข์น้อยลงเยอะๆ นะคะ
ขอบคุณสำหรับกลอนน่ารักๆ ข้างบนนี้ด้วยจ้ะ  ::33::

หลายวันมานี้ งานเยอะมาก ทำให้ไม่มีเวลาฟุ้งซ่านมากเท่าไหร่
ก้อดีเหมือนกันเนอะ .. เริ่มมีกำลังใจขึ้นมาอีกแล้ว
อธิษฐานขอให้เข้มแข็งได้แบบนี้ไปนานๆ ครั้งนี้ขอต่ออีก ๒ วันละกันเนอะ

สู้ สู้ ^^v
http://twitter.com/pitaploy
http://www.facebook.com/pitaploy
http://www.facebook.com/piimplloy

I'm just the one who has various dreams, trying to learn how to live this miracle life worthily and find the way to end the cycle of birth and death.

ฟ้าฤดูร้อน

เป็นกำลังใจให้นะคะ  ::12::
ทุกอย่างชั่วคราว

khunbumbim

สู้เค้านะคะ

ยินดีที่ได้เป็นกัลยาณมิตรซึ่งกันและกันค่ะ

บุ๋มเคยผ่านเหตุการณ์นี้มาแล้ว ถือว่าตอนนั้นโชคดีที่ได้ฟังธรรมะจากหลวงพ่อปราโมทย์

ทำให้รู้ทันกาย-ใจ สิ่งที่เห็นบ่อยในช่วงนั้น คือความฟุ้งซ่านค่ะ

ยอมรับว่าเห็นได้ชัดมาก อยากให้ จขกท. ใช้โอกาสนี้ให้เป็นประโยชน์

ในการฝึกดูจิตนะคะ แล้วมันจะผ่านไปค่ะ...สู้ ๆ นะคะ เป็นกำลังใจให้เสมอค่ะ

พิมพ์พลอย

ขอบคุณคุณฟ้าและคุณบุ๋มมากนะคะ
จริงแบบที่คุณบุ๋มพูดมาเลยค่ะ
เรื่องแบบนี้เห็นชัดมากเลย
เห็นว่าใจเราเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย
เดี๋ยวเข้มแข็ง เดี๋ยวอ่อนแอ
เดี๋ยวก็ปรุงสุข ปรุงทุกข์ ..


ตามที่หลวงพ่อปราโมทย์ได้กรุณาสอนพวกเราเสมอว่า
เราภาวนาเพื่อให้เห็นของจริง ไม่ใช่ภาวนาเพื่อดัดแปลงของจริง

เพราะฉะนั้น แม้ตอนที่รู้สึกอ่อนล้า เสียใจมากๆ
อย่างน้อยก็ยังรู้สึกโชคดี ที่มีโอกาสได้รับประสบการณ์ตรง
เข้ากระแทกจิตใจแบบรุนแรง และเห็นความไม่แน่นอนของใจชัดแจ๋ว



"เพราะเห็นตามความเป็นจริง จึงเบื่อหน่าย
เพราะเบื่อหน่าย จึงคลายกำหนัด
เพราะคลายกำหนัด จึงหลุดพ้น
เพราะหลุดพ้น จึงรู้ว่าหลุดพ้นแล้ว"




ครบสองวันแล้ว
แต่เป็นสองวันธรรมดาที่ต้องทำงาน
มีเรื่องราวให้ทำมากมาย
ก็เลยผ่านไปได้ไม่ยากเย็นนัก
เห็นชัดว่าวันหยุดทีไร พอกลับมาอยู่คนเดียว ใจจะฟุ้งหนัก
โดนกิเลสมันเล่นงานเอาตลอดเวลา .. ^^~



ขออธิษฐานจิตให้ใจเข้มแข็ง
และสามารถผ่าน ๒ วัน เสาร์-อาทิตย์นี้ไปได้อย่างราบรื่นนะคะ ..
::33:: ::33::
http://twitter.com/pitaploy
http://www.facebook.com/pitaploy
http://www.facebook.com/piimplloy

I'm just the one who has various dreams, trying to learn how to live this miracle life worthily and find the way to end the cycle of birth and death.

พิมพ์พลอย

July 31, 2009, 09:59:26 pm #42 Last Edit: October 24, 2012, 07:14:20 am by พิมพ์พลอย
กลางคืนมาอีกแล้ว ..  :(
ฟังเพลงนี้ .. ช่วยได้มากทีเดียว



เนื้อเพลง: พริบตา
ศิลปิน: มัสคีเทียร์

http://www.youtube.com/watch?v=yp7LnnOlKr0


ในคืนที่เงียบเหงา ที่ไม่มีแม้แสงไฟ
อยู่บนถนนที่ยาวไกล เหม่อมองออกไปสุดสายตา
สิ่งดีๆ ที่หายไปกับความหม่นหมองของดวงจันทร์
วุ่นวายสับสนมารวมกันแต่ว่าฉันยังคงต้องเดินทาง

วันและคืนมีความต่าง
จะสุขจะเศร้าอะไร ก็เพียงแค่พริบตา
หากจะรอจนเช้า

ค่ำคืนที่มืดมิดฉันเดินออกไป
ความเหงาเข้าปกคลุมฉัน
ฉันได้แต่กลัวเพราะฉันไม่มีใคร
ไม่ว่าจะหันไปทางใด มองไปบนฟ้าไม่มีแม้แสงจันทร์

แล้วเจ้าดวงอาทิตย์แค่เพียงอึดใจ
สาดแสงทองส่องให้ฉันเห็นตอนเช้า
ช่างแสนสบายใจ
ปลดปล่อยเอาความกลัวทิ้งไป แค่ให้เวลาเปลี่ยน

ไม่เจอคงไม่เห็นความต่าง
จากคืนมืดมิดที่ยาวนาน
เปลี่ยนเป็นท้องฟ้าที่ใสสว่าง
เป็นธรรมดาที่โลกต้องหมุนไป

วันและคืนมีความต่าง
จะสุขจะเศร้าอะไร ก็เพียง .. แค่พริบตา ..
หากจะรอจนเช้า


ค่ำคืนที่มืดมิดฉันเดินออกไป
ความเหงาเข้าปกคลุมฉัน
ฉันได้แต่กลัวเพราะฉันไม่มีใคร
ไม่ว่าจะหันไปทางใด มองไปบนฟ้าไม่มีแม้แสงจันทร์

แล้วเจ้าดวงอาทิตย์แค่เพียงอึดใจ
สาดแสงทองส่องให้ฉันเห็นตอนเช้า
ช่างแสนสบายใจ
ปลดปล่อยเอาความกลัวทิ้งไป แค่ให้เวลาเปลี่ยน



edit: 24.10.12 update song URL
http://twitter.com/pitaploy
http://www.facebook.com/pitaploy
http://www.facebook.com/piimplloy

I'm just the one who has various dreams, trying to learn how to live this miracle life worthily and find the way to end the cycle of birth and death.

sittnn

เมื่อมีเวลาต้องอยู่คนเดียว ก็มักเหงา
เวลาเหงา ก็มักคิดโน่นคิดนี่ฟุ้งซ่านไปเรื่อย
เวลาคิดฟุ้งซ่านไปเรื่อยก็เกิดความทุกข์ใจ

ความจริงแม้เราอธิษฐานสองวัน แต่ชีวิตของเราที่รับรู้ได้จริงๆนั้นมีสั้นนิดเดียว คือ "แค่พริบตา"
ลองใช้ชีวิตที่สั้นๆนั้นอย่างมีคุณค่า ไม่ปล่อยเวลาให้สูญไป โดยเฉพาะเรื่องที่ทำให้เราทุกข์ใจ
ด้วยการมีสติระลึกรู้กายรู้ใจเป็นขณะๆ เป็นช่วงเวลา "แค่พริบตา" ไปเท่าที่ทำได้นะครับ

เป็นกำลังใจให้นะครับ  _/\_ ::33::
-- เมตตาคือไมตรี --

พิมพ์พลอย

August 02, 2009, 07:56:21 am #44 Last Edit: August 02, 2009, 08:00:16 am by พิมพ์พลอย
เวลานาฬิกาโลกก็เดินไปปกติค่ะ
แต่รู้สึกว่าเวลานาฬิกาใจ เดินช้ามาก


อย่างที่คุณ sittnn บอก ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไปเพียงในเวลา "แค่พริบตา"
ทุกขณะหากเรามีสติ เราจะเห็นชัดเลยว่า จิตใจของเรานี้หมุนติ้วๆ อยู่ตลอดเวลา
เดี๋ยวเหงา เดี๋ยวสนุก เดี๋ยวสำรวม เดี๋ยวเศร้า เดี๋ยวเสียใจ เดี๋ยวเบื่อ เดี๋ยวตื่นเต้น เดี๋ยวคิดโน่นนี่
ไม่เคยมีซักขณะเดียวเลยที่จะหยุดนิ่ง ขนาดว่าตอนนอนยังอุตส่าห์ฝันเป็นตุเป็นตะ
เห็นได้ชัดเลยว่า แม้กระทั่งขาดผัสสะสิ่งกระทบทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ซึ่งเป็นสิ่งเร้าภายนอก
ตอนฝัน การปรุงต่อของจิตยังสะท้อนเข้ามาทำร้ายใจให้เกิดทุกขเวทนาอย่างแจ่มชัด
นี่ก็แสดงให้เห็นแล้วว่า สาเหตุความทุกข์ที่แท้จริง ไม่ได้ขึ้นกับสิ่งกระทบภายนอกอย่างเดียว
"ความคิด" ไม่ว่าจะตอนตื่นหรือตอนฝัน บั่นทอนความรู้สึกได้มากและถี่บ่อยได้เท่าที่กิเลสมันต้องการ

ตัวเอกของเรื่องนี้จริงๆ ก็คือ "จิตใจ" ของเราเองล้วนๆ ไม่ว่าสิ่งกระทบจะมาจากทางไหน
ปราการด่านสุดท้ายที่มันวิ่งเข้าไปกระทบจนเกิดเวทนานั้นก็คือใจของเรา ..



เมื่อรู้ต้นตอของทุกข์ ด้วยวิสัยของวิญญูชนทั่วไปแล้ว ก็ย่อมอยากจะแก้ที่เหตุ
แต่นั่นก็ยิ่งเห็นได้ชัดว่า จิตใจของเรา ไม่สามารถจะบังคับเอาได้อย่างที่อยาก
ที่เหลือจะต้องทำยังไง .. ก็รู้ว่าแค่ "ตามรู้มันไปเรื่อยๆ" ไม่คิดหนี ไม่ขี้ขลาด
พระพุทธองค์ทรงสอนให้ชาวพุทธกล้าเผชิญกับความทุกข์ ให้รู้ทุกข์มันเข้าไปตรงๆ

ด้วยคำสอนที่ทรงพระเมตตาสอนสั่ง ก็ลองวิ่งชนกับตัวทุกข์มันตรงๆ เช่นกัน
เวลาที่รู้สึกแย่ คิดถึงเรื่องราวเก่าๆ แล้วอยากร้องไห้ .. ก็แค่ร้องไห้ออกมาโดยไม่เก็บกด ..
แรกๆ ร้องไปก็หลงไป หลงเศร้าหลงติดกับความคิดปรุงแต่งนั้น .. สะอื้น เสียใจ  ..
ร้องไปได้ซักพัก เจ้าสติตัวน้อยๆ ก็แวบขึ้นมาเตือนให้ฉุกคิดบ้าง .. ทีละช่วงเวลาสั้นๆ ..
ก็เริ่มจะมองเห็นความเป็นไป เห็นตัวเราโดยภาพรวมนอนร้องไห้อยู่
แม้ช่วงเวลาที่เกิดขึ้นเป็นเพียงแค่เสี้ยวพริบตาเดียว แต่ก็เห็นได้ชัดเหมือนตัวเราเป็นคนแสดง
คล้ายกับเวลาที่เราดูละคร ที่ตัวแสดงร้องไห้เศร้าโศกเสียใจ เราเป็นเพียงผู้ดูอยู่
มีเสียงก้องในหัว "แล้วมันก็จะผ่านพ้นไป ทุกอย่างชั่วคราว ดีก็ชั่วคราว ร้ายก็ชั่วคราว"



ดูเอาง่ายๆ วันๆ นึง จิตใจเราเปลี่ยนไปมาอย่างเห็นได้ชัด
เดี๋ยวมีแรงกำลังใจ มีความคิดดีๆ จะเขียนจะแต่งกลอนจะพิมพ์ลงในเว็บบอร์ด
เดี๋ยวก็ท้อแท้ เบื่อหน่าย หมดหวัง ไม่อยากจะเล่าระบายอะไรให้ทั้งนั้น


หรือที่แท้ ทุกอย่างได้กำหนดไว้แล้ว เปรียบบทเรียนอันมีค่าเพื่อส่งมาทดสอบ
ให้เห็นความไหวรุนแรงของจิตใจ และสอนสัจธรรมให้รู้ให้สัมผัสได้ด้วยตน?

http://twitter.com/pitaploy
http://www.facebook.com/pitaploy
http://www.facebook.com/piimplloy

I'm just the one who has various dreams, trying to learn how to live this miracle life worthily and find the way to end the cycle of birth and death.

Go Up