ฝึกรู้ลมหายใจ

Started by sun, September 12, 2009, 10:51:32 pm

previous topic - next topic
Go Down

poonsri

ถ้าว่างๆพี่จะใช้วิธีนั่งดูลมเข้า-ออกแล้วก็นับไปด้วย
พอเผลอคิดไปก็รู้แล้วก็กลับมาดูลมต่อ
ถ้าไม่ว่างก็จะใช้วิธีดูกายไปเรื่อยๆยืน เดิน นั่ง นอน
เวลาทำงานแบบจดจ่อก็ตั้งใจทำงานไป แล้วก็คิดเรื่อยเปื่อยสลับกันไป
แต่สังเกตุตัวเองดูแล้ว เวลาเผลอมีบ่อยมากเหลือเกิน
แล้วก็ไม่ค่อยจะทันได้ดู นึกได้อีกที ก็ไปเรื่องใหม่ซะแล้ว
แต่ก็จะพยายามดูกาย ดูจิต มันไปเรื่อยๆนะ เอาเท่าที่จะทันนึกได้ เนอะ ::115::

ช่วงนี้อากาศหนาวแล้วนะ
ทางบ้านคุณ sun คงจะหนาวเช่นกันถ้าอยู่ท่ามกลางสุมทุมพุ่มไม้และท้องนา
รักษาสุขภาพด้วยนะค๊ะ

เจริญในธรรม ค่ะ ::33::

Angel

ตอนนี้ทางบ้านพี่พูนศรีน่าจะเริ่มหนาวแล้วใช่ไหมคะ

เพราะอยู่ทางเหนือด้วยสิ รักษาสุขภาพด้วยนะเจ้า  ::01::

อ้อ คุณ sun เงียบไปเลยนะคะ สงสัยงานยุ่งเหมือน Angel หลิง

ส่งกำลังใจให้ได้รับรึเปล่าคะ อิ อิ  ::115::

yuwa

กินข้าวไปหลายกระสอบแล้ว
ก็ยังไม่รู้อะไรเลยค่ะ
นับว่าคุณSunก้าวห่างออกไปอีกก้าวแล้วนะคะ ::12::
ไม่ได้ชมให้หลงค่ะ แต่ให้เป็นพลังใจต่อไปค่ะ
นึกภาพสวนคุณSunแล้ว
อยากปลูกผักค่ะ
Yuwaเป็นเด็กบ้านนอก
ย้ายมาทำงานเมืองกรุงก็ยังฝันลมๆแล้งๆ
ว่าอยากกลับไปปลูกผักทำเศรษฐกิจพอเพียง
แต่ที่ทำได้ตอนนี้คือปลูกทุกอย่างไว้ที่สวนแคบๆหน้าบ้านเช่า
เคยปลูกฟักทองค่ะ
ปลูกทิ้งไว้
ไม่อยู่บ้าน10วัน
กลับมาอีกทีมันเลื้อยขึ้นเสาไฟฟ้า
และออกไปนอกบ้าน พยายามจะเลื้อยข้ามถนนอยู่ด้วย
ต้องตัดใจถอนทิ้งไปเลยค่ะ ::115::
"มีความสุขที่ได้ทำ...รู้สึกมันมีความหมาย...รู้สึกว่าเป็นสิ่งที่เฝ้าเพียรแสวงหา......"
ใช่ค่ะเวลาปลูกผักจะรู้สึกอย่างนั้น
ยิ่งได้เก็บผักที่เราปลูกเองมากิน เหมือนจะเหาะได้เลยค่ะ
แหะๆ เว่อร์ไปหน่อยขออภัยค่ะ
จริงๆวันหนึ่งก็อยากจะสัมผัสสิ่งที่คุณSunได้สัมผัสจากการปฏิบัติ
เช่นกันค่ะ
ขอเป็นกำลังใจให้ปฏิบัติต่อไปอย่าหยุดนะคะ
ขออนุโมทนาค่ะ _/|\_
เขียนมาเล่าอีกเยอะๆนะคะ  ::33::

sun

 ;D _/\_
ขอบคุณทุกท่านนะครับ ที่แวะมาแบ่งปัน
ผมขอให้กำลังใจคืนกลับไปคูณสองเลยนะครับ


    ::115:: ผมทายแม่นจังเลย...ว่าคุณ yuwa จะต้องมีเรื่องเล่าเยอะแน่ๆคอนเฟิร์มand ฟันธงเลยนะเนี่ย
ส่วนผมเองเหล้าหมด..อ๊ะ..ไม่สิ ยังไม่มีเรื่องอะไรจะเล่าครับ ::115::
ชีวิตธรรมด๊า ธรรมดา  โดนกิเลสลากมา ลากไป
เคยได้ยินท่านบอกว่า อยู่เฉยๆจิตจะไหลลงต่ำ เลยก็พยายามหาสิ่งดีๆเติมเต็มเข้ามาบ้างครับ
       แต่ตอนนี้เข้าใจว่าสุดท้ายแล้ว เราก็กำลังก้าวไปสู่สิ่งที่เรียกว่า เหนือดี เหนือชั่ว เหนือบุญ เหนือบาป
เหนือ เนกาทิฟ เหนือ โพสิทีฟ เหนือบวก เหนือลบ..........
มันเป็นยังไงกันน้า....ยังนึกไม่ออก...
       นึกถึงคำกล่าวของหลวงพ่อชา....ความสงสัยในการปฏิบัติธรรม ไม่เคยหายไป ด้วยคำพูด คำอธิบายของคนอื่น แต่มันจะหายไป ด้วยการปฏิบัติของตัวเอง....  (อาจจะไม่ครบทุกคำแต่จำได้ประมาณนี้)
       ก็คงใช่เนอะ...เวลาเรากินข้าวอิ่มแล้วเราก็ไม่ต้องไปถามใครเขาว่า เราอิ่มแล้วหรือยัง  มันเป็นสิ่งที่รู้ได้ด้วยตัวเอง  คนอื่นอธิบายยังไงก็คงจะไม่เข้าใจได้อย่างถึงแก่นแท้
      คนเขาบอกว่า มะม่วงลูกนี้เปรี้ยว  เราก็ได้ความรู้ว่า มะม่วงลูกนี้เปรี้ยว
     พอเราเห็นคนอื่นกินแล้วเขาหลับตา ทำหน้าตาเหยเก  เราก็ได้ความรู้ว่า มันคงจะเปรี้ยวจริงๆนั่นล่ะ
     แต่พอเราหยิบมากินเองบ้าง  เราก็ได้รู้สึกได้ถึงความเปรี้ยว...(อูย.ย..น้ำยายใหย..)
เปรี้ยวครั้งที่หนึ่งเรารู้เพราะคนบอกว่ามันเปรี้ยว
เปรี้ยวครั้งที่สองเราก็รู้เพราะคิดตามเหตุผลแล้วก็น่าจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ
เปรี้ยวครั้งที่สาม แตกต่างกว่าทุกครั้งเพราะเราได้สัมผัสเอง เราอาจจะเจอความฝาดของผิวมะม่วงในตอนแรก
แล้วต่อมาก็เจอความเปรี้ยว ซึ่งในความเปรี้ยวอาจจะมีความหวานซ่อนอยู่ (หรืออาจจะปนเค็มนิดๆเพราะไม่ได้ล้างมือ....อิ...อิ...)
      ทำอะไรก็ตามแต่ เราต้องศึกษาทฤษฎี เรียนรู้สิ่งที่มีอยู่ก่อน แล้วก็มาพิจารณา วิเคราะห์อีกที  และสุดท้ายขาดไม่ได้   ก็คือการปฏิบัติครับ
     หากใครมีอะไรจะช่วยเสริมก็เชิญเลยครับผม
เจริญในธรรมครับ
วูบหนึ่งเหมือนลมพัด โบกสะบัดเหมือนลมต้อง แวะเวียนมาเกี่ยวข้อง แล้วต้องพรากจากกันไป

yuwa

อืม รู้สึกมีความสุขที่ได้อ่านค่ะ
ไม่รู้เพราะคิดถึงมะม่วง...น้ำปลาหวาน
หรือซาบซึ้งในธรรมะ ที่แฝงอยู่มากกว่ากัน
แต่สรุปว่า มีความสุขเกิดขึ้นค่ะ
แล้วจะเข้ามาติดตามการปฏิบัติต่อไปนะคะ
ตอนนี้คิดว่ามะม่วงมันก็คงจะเปรี้ยวจริงแหละ
แต่ก็ยังไม่ได้กินจริงๆจังเสียที
คุณSun กินไปก่อนนะคะ
อนุโมทนาด้วยค่ะ _/|\_

พิมพ์พลอย

แหม .. ชอบทานเหมือนกันค่า มะม่วงน้ำปลาหวาน อิอิ
ช่วงนี้อากาศเย็นขึ้นแล้ว .. รักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ

ที่เชียงใหม่อากาศดี๊ดีค่ะ ไม่หนาวเกินไป กำลังเย็นๆ สบายๆ
ใครว่างๆ มาพักตากอากาศได้นะคะ ; )))

ดอกไม้คุณซันเป็นไงมั่งแล้ว .. บานยังๆ ?  ::33::
http://twitter.com/pitaploy
http://www.facebook.com/pitaploy
http://www.facebook.com/piimplloy

I'm just the one who has various dreams, trying to learn how to live this miracle life worthily and find the way to end the cycle of birth and death.


yuwa

คุณsunทำงานประจำไหมคะ
บ้านดูไม่วุ่นวายไกลกรุงเทพ
ทำไมดูเหมือน พักงานเพื่อไปปฏิบัติธรรมอยู่บ้านเฉยๆ
เหมือนเรื่อง 7เดือนบรรลุธรรมเลย
แล้วอะไรบันดาลใจให้ปฏิบัติธรรมคะ
เรื่องที่พิเศษเกี่ยวกับการปฏิบัติคืออะไรคะ
ถามเล่นๆ จะตอบเล่นๆหรือไม่ตอบก็ไม่ว่ากันค่ะ :)
ที่นี่เราไม่มีที่มา หรือที่ไปก็ยังไม่รู้ไม่แน่เช่นกัน
แต่ก็ถามด้วยเจตนาดี เห็นว่าน่าสนใจดีค่ะ
รออ่านเรื่องเล่าอย่างใจจดใจจ่อค่ะ ::115::
ขอให้ชีวิตสงบสุข ตามอัตภาพค่ะ


sun

@คุณAgle
      ขอบคุณทุกเรื่องราวที่ส่งมาให้ครับ วันไหนไม่ได้อ่านเหมือนขาดอะไรบางอย่างในชีวิตเลยละครับ
@พิมพ์พลอย
       อากาศหนาว ตากอากาศแล้วจะไม่หนาวไปกันใหญ่เหรอครับ ::115::ถ้ามีโอกาสจะแวะเอามะม่วงน้ำปลาหวานไปฝากด้วยครับ(แต่ไม่รู้เมื่อไหร่นะ)
       ดอกไม้ตอนนี้บานเยอะแล้วครับเดี๋ยวจะเอาไปอวด นี่ไง ครับ::33:: ::33:: ::33:: ::33:: ::33:: ::33:: ::33:: ::33:: ::33:: ::33::
@พี่พูนศรี
       ขอบคุณมากครับที่เป็นห่วง ขอบคุณเรื่องราวที่ส่งมาให้อ่านนะครับ รักษาสุขภาพด้วยนะครับ
@yuwa
       
   ทำไมผมสนใจเรื่องธรรมะบางส่วนผมบอกไว้แล้วครับเลื่อนขึ้นไปอ่านข้างบนครับวันที่....Reply #24  21 september  2009
ส่วนที่เหลือถ้ามีโอกาสจะมาเล่าต่อครับ

               งานประจำเหรอครับ... งานผมนี่แหละครับประจำสุดๆ ผมทำงานวันละ 11 ชั่วโมง อาทิตย์หนึ่ง 66 ชั่วโมงครับ วันเสารก็ไม่ได้หยุด เลิกงาน สามทุ่มกว่าจะถึงที่พัก อาบน้ำเสร็จ ก็ประมาณ สี่ทุ่ม สังเกตุข้อความที่ผมโพสต์ส่วนมากจะอยู่ในช่วงดึกๆครับ

   ถ้าเป็นช่วงหน้าเทศกาล ชั่วโมงการทำงานอาจจะเพิ่มเป็นอีกวันละ 12 -13 ชั่วโมงครับ ผมเป็นพนักงานตำแหน่งเล็กๆ ในบริษัทเล็กๆ เกี่ยวกับเรื่อง เงินๆ ทองๆ นี่ล่ะครับ ทั้งวันต้องเกี่ยวข้องอยู่แต่เรื่องพวกนี้

   (กระดาษเงิน กระดาษทอง ที่เขาใช้เวลาไหว้เจ้ากันน่ะครับ ::115::)
   สถานที่อาศัยก็เช่าบ้านเล็กๆอยู่ในสวนมะม่วงครับ สงบ เงียบดีมาก เหมาะสำหรับทำความเพียรเลยล่ะครับ แต่ว่าถ้าช่วงไหนมีพวกนักศึกษาเข้ามาพักเยอะๆ จะเจี้ยวจ้าวกันไม่ค่อยจะเงียบ แล้วก็อยู่ไม่ไกลกรุงเทพฯครับ อยู่แถวชานเมืองนี่เอง อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี ตรงข้ามกับ วิทยาลัยเทคนิคทางการแพทย์กาญจนาภิเษก

   ตอนเช้าๆประมาณ 7 โมงเช้า ผมก็จะควบมอเตอร์ไซด์ฮอนด้าเวบเก่าๆวิ่งปุเลงๆไปทำงาน เวลาตกหลุมตกบ่อทีเหมือนชิ้นส่วนจะหลุดกระจายออกมา ช่วงนี้อากาศหนาว ขับไป สั่นไปด้วยครับ ขับช้าๆก็หนาวนาน ขับไวๆก็ยิ่งหนาวเพราะลมมันพัดแรง แต่ก็ถึงไว

   การปฏิบัติธรรมในรูปแบบ ผมก็จะอาศัยช่วงเวลาก่อนนอน ตอนเช้า ช่วงพักระหว่างวันครับ ถ้าเคยทำเวลาไหน แล้วก็ทำเวลานั้นรู้สึกว่าจะทำได้ดีครับ บางวันไม่ได้ทำ อยู่ๆก็รู้สึกถึงลมหายใจได้เองขึ้นมา ผมรู้สึกคล้ายกับว่าเหมือนเราเคยนอนเวลาไหน พอถึงเวลานั้นเราก็จะเกิดอาการง่วงน่ะครับ ร่างกายเขาก็พัฒนาของเขาเองไปด้วย

   ที่ว่าบางวันไม่ได้ทำ ก็เพราะว่าผมพยายามพัฒนาความรู้ความสามารถทางโลกไปด้วยครับ ถ้าไม่พัฒนาทางโลกไปด้วยชีวิตก็คงจะลำบากมากกว่านี้แน่ๆ ก็หาวิธีที่จะแบ่งเวลาให้สมดุลกันอยู่ครับ
   แต่การฝึกสติ สามารถฝึกได้ทุกช่วงครับ ตั้งแต่ตื่น ทำงาน กลับบ้าน ล้มตัวลงนอน อันที่จริงตอนทำงานนี่ก็ทำให้เราได้เห็นสภาวะได้บ่อยเหมือนกันกัน เหมือนกับเรากำลังอยู่ในสมรภูมิ มันครุกรุ่น ฝุ่นตลบ ก็ได้อาศัยช่วงการฝึกในรูปแบบครับเป็นที่หลบพักเติมพลัง
    ::115::ความก้าวหน้าเหรอครับ ผมไม่รู้ว่าตอนนี้ก้าวหน้า หรือก้าวหลัง รู้ว่าตอนนี้ฟุ้งซ่านเยอะ ฟุ้งซ่านในธรรมะ ได้ฟังธรรมะก็รู้สึกเหมือนมีความสุขคล้ายๆกับตอนได้ฝึกสมาธิครับ รู้สึกเต็มอิ่มได้เหมือนกัน
   ทำให้นึกถึงเรื่องความสุข ที่ผมอ่านหนังสือของท่าน ว.วชิรเมธี แล้วสรุปตามความเข้าใจของตัวเองสั้นๆ(ซึ่งอาจจะคลาดเคลื่อนจากความหมายเดิมของท่านครับ)ดังนี้ครับ
   1 ความสุขจากกามสุข คือสุขจากการที่อยาก แล้วได้สม อยาก สุขจากการได้รับการตอบสนองทางประสาทสัมผัส ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เป็นสุขชั่วคราว ไม่ยั่งยืน ใครที่ติดอยู่ในความสุขระดับนี้จะไม่ได้เจอกับความสุขในระดับที่สูงขึ้นคือ
   2 ความสุขจากการมีคุณธรรม คือสุขจากการประกอบกุศลกรรมต่างๆ แค่คิดก็สุข ยิ่งทำยิ่งสุข ขณะลงมือทำก็มีความสุข หวนระลึกถึงก็มีความสุขอีก ความสุขระดับนี้เป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าเรายึดติดในความดีนี้เอาไว้แบกความดีเอาไว้ ก็จะเกิดความทุกข์ได้ แล้วจะไม่ได้เจอความสุขขั้นต่อไป คือ
   3 ความสุขจากการรู้เท่าทันธรรมดาของโลกและชีวิต คือรู้ว่า ทุกสิ่ง ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ตามความเป็นจริง มีเจอ ก็มีการจาก มีได้ ก็มีเสีย มีเกิด ก็แก่ มีเจ็บ มีตาย ถ้าเรารู้เท่าทันแล้วไม่ยึดมั่นเอามาก็จะได้ความสุขอีกระดับหนึ่ง
   4 ความสุขจากการรู้จักปรุงแต่งจิตใจให้เป็นสุข คือ เมื่อเราดำเนินชีวิตไปเรื่อยๆเราจะเจอทั้งด้านดีและด้านร้าย สารพัดจะเจอ เช่น เราเจอเรื่องที่ทำให้เกิดความทุกข์เราก็ไม่ตีโพยตีพายว่าเราช่างโชคร้าย แต่เราจะมองว่า มันเป็นโอกาสที่เราจะได้เรียนรู้และพัฒนาตัวเองให้พ้นจากความทุกข์อันนั้น
5 พระนิพพาน สุขเหนือสุข  อันนี้คนกิเลสหนาอย่างผมสรุปยากจังเลยครับ ก็ประมาณว่า จิตใจเป็นอิสระจาก ความโลภ โกรธ หลง  เป็นสุขอิสระ ที่ยั่งยืนถาวร สดชื่นไม่รู้สร่าง ก็แล้วกันครับ
   ชื่อหนังสือ งานสัมฤทธิ์ ชีวิตรื่นรมย์ ครับ เผื่อใครอยากหามาอ่านเพิ่มเติม
    ::115::ยังครับ...ยังมีอีก ความฟุ้งซ่านในธรรมะผมยังไม่หมดแต่เวลาหมดก่อน ครับ โอกาสหน้าผมจะมาเล่าเรื่องความสุขหลังจากที่ผมได้อ่านหนังสือของท่านพุทธทาสครับ
                เจริญในธรรมทุกท่านนะครับ _/|\_ ;D


วูบหนึ่งเหมือนลมพัด โบกสะบัดเหมือนลมต้อง แวะเวียนมาเกี่ยวข้อง แล้วต้องพรากจากกันไป

yuwa

ย้อนขึ้นไปอ่านอีกครั้งแล้วค่ะ ขอบคุณค่ะ
อยากใช้ชีวิตให้คุ้มค่าด้วยการฝึกสติดูลมหายใจ
และอยากจะทดลองวิธีที่เหมาะกับคุณพ่อคุณแม่ เป็นเหตุหนึ่ง _/|\_

ไม่คิดว่าจะมีงานประจำ ถึงมีก็ไม่น่าจะมากแบบนี้ ::12::
รู้สึกละอายใจเล็กๆ ที่ปล่อยเวลาในชีวิตตัวเองเรื่อยเปื่อยค่ะ
ตอนนี้รู้สึกอยากเปลี่ยนแปลงชีวิต
แต่ก็ไม่รู้จะทำอะไรได้บ้าง
เป็นคนแพ้กิเลสมาตลอดค่ะเลยไม่ได้ทำอะไรจริงจังได้เสียที
ขอบคุณที่บอกเล่าแบ่งปันนะคะ
ขอให้คุณsunสู้ต่อไป
ทั้งทางโลกและทางธรรมค่ะ
ขอให้ประสบความสำเร็จทุกประการ
อนุโมทนาค่ะ _/|\_


Angel

สวัสดีค่ะ คุณ sun  :)

Angel หลิงไม่ได้เข้ามาในกระทู้ซะนาน แต่คุณ sun ก็ยังเข้ามา update

และให้กำลังใจเพื่อนๆ อยู่เสมอ แม้ว่าจะทำงานวันละตั้ง 11 ชั่วโมง

อ่านแล้วทึ่งมากค่ะ ทำงานหนัก ต้องรักษาสุขภาพด้วยนะคะ

สิ่งที่ทึ่งอีกอย่างก็คือ ยังสามารถปฏิบัติธรรมได้แม้จะทำงานเลิกดึก

แถมตอนเช้าก็ตื่นเช้ามากๆ ได้สูดอากาศบริสุทธิ์เต็มปอด

อากาศตอนเช้าค่อนข้างหนาว อย่าลืมใส่เสื้ออุ่นๆ ด้วยนะคะ

แม้ว่า Angel หลิงจะไม่ค่อยได้เข้าในกระทู้เหมือนก่อน แต่ก็จะส่งกำลังใจให้เสมอนะคะ

รวมทั้งเรื่องดีๆ ไปให้ทาง e-mail เหมือนเดิมค่ะ  ::33::

บุญรักษานะคะ  ::02::

yuwa

มาปูเสื่อรอฟังเรื่องเล่าจากคุณsunค่ะ
เรื่องบางเรื่องเราอาจคิดว่าดูไร้สาระ
แต่อาจจะเป็นประโยชน์กับชีวิตคนอื่นก็ได้นะคะ
ขอให้มีเจตนาดีเป็นที่ตั้งค่ะ
::33:: ::33:: ::33::

อิกคิว

แวะมาทักทายครับ ;D

สู้ๆนะครับ  เป็นกำลังใจให้ครับ   ::33:: ::33:: ::33::
ทุกข์เป็นเหตุให้เกิดศรัทธา.... ศรัทธาเป็นเหตุให้เกิดความปีติปราโมทย์.... ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดความสุข.... และความสุขเป็นเหตุ.... ให้จิตเข้าถึงความสงบได้

พิมพ์พลอย

แหม .. แบบนี้เรียกให้ความหวังกันป่าวค้า
ที่บอกจะแวะเอามะม่วงน้ำปลาหวานมาให้กินอ่ะค่า .. อิอิ ล้อเล่นนะคะ

อ่านเรื่องราวคุณซันแล้วทำให้ยิ้มได้เยอะเลย
เป็นกำลังใจให้สู้ต่อไปเรื่อยๆ นะคะ

เจริญในธรรมยิ่งๆ ขึ้นไปจ้ะ  ::33::
http://twitter.com/pitaploy
http://www.facebook.com/pitaploy
http://www.facebook.com/piimplloy

I'm just the one who has various dreams, trying to learn how to live this miracle life worthily and find the way to end the cycle of birth and death.

sun

December 02, 2009, 11:26:32 pm #74 Last Edit: December 02, 2009, 11:46:09 pm by sun
      ;Dความสุขท่านแบ่งไว้ สามระดับดังนี้ครับ _/|\_
        ;Dระดับที่หนึ่ง สุขเพราะไม่เบียดเบียนกัน ไม่ขัดแย้งกัน ครับทุกวันนี้
มีแต่ความวุ่นวายไม่จบสิ้นก็เพราะความขัดแย้ง แตกแยกกันนี่ล่ะครับ
แต่ผมก็ไม่รู้ว่าคนบางคนเขาจะมีความสุขกับการขัดแย้งหรือเปล่านะ
สำหรับผมแล้วไม่เบียดเบียนกันดีกว่า ไม่ว่าจะเป็น ทั้งในด้าน กาย วาจา ใจ
        ;Dระดับที่สอง สุขเพราะอยู่เหนืออำนาจกาม ข้อนี้ท่านแบ่งไว้ สามย่อยดังนี้ครับ
            กามราคะ มีจิตใจสูงไม่หลงใหลในเรื่องของกาม ผูกพันเหนียวแน่นด้วยความโง่
            รูปราคะ หลงไหลเหนียวแน่นในทางรูปธรรม สิ่งของต่างๆ สมบัติต่างๆ เป็นต้น
            อรูปราคะ หลงไหลยินดี ในเรื่องนามธรรม เช่น เกียรติยศ ชื่อเสียง เกียรติยศ
สรรเสริญ เป็นต้น
ท่านบอกว่า มันกัดหัวใจ ยิ่งรักเท่าไร ก็ยิ่งกัดเท่านั้น ยึดถือเท่าไร ก็กัดเท่านั้น!
       ;Dระดับที่สาม สุขเพราะละตัวตนเสียได้ ท่านยกพระพุทธสุภาษิตว่า
อัสมิมานัสสะ วินโย เอตัง เว ปรมัง สุขัง-นำอัสมิมานะออกเสียได้ สิ่งนั้นเป็นความสุขสูงสุดเว้ย
(คำว่า เว แปลว่า เว้ย ครับ) คำว่าอัสมิมานัสสะ แปลโดยความหมายก็คือ มีตัวตน
(มีตัวกู มีของกู ตามสำนวนของท่านครับ) ซึ่งถ้าละความยึดมั่นถือมั่นว่าตัวตนเสียได้ ก็จะไม่มีกิเลสมายึดเกาะ ก็จะเป็นสุขสูงสุด เป็นนิพพาน
       สรุปตามความเข้าใจตัวเองหลังจากที่ได้อ่าน เรื่อง ความสุข ๓ ระดับ โดยท่าน พุทธทาส  _/\_

        :)คืนนี้เป็นวันพระ ดวงจันทร์สวยจังเลยครับ กลมดิก ไร้เมฆ มีกลุ่มดาวคันไถ ดาวเต่า
ลอยอยู่ไกล้ๆ กัน มองไปมองมา เหมือนจะเอื้อมมือถึง
แสงนวลๆสาดส่องไปทั่ว(ตอนนี้หอบโน๊ตบุคมาอยู่ใต้ต้นสะเดาครับ ::115::) ทำให้นึกถึงวัน วิสาขบูชา
        _/|\_นึกย้อนไปวันที่พระพุทธองค์ ประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน พระจันทร์คงจะสวยเด่นมากกว่านี้ บรรยากาศคงจะเย็นสบายแบบนี้ ไม่รุ่มร้อน  _/|\_ ;D
       อ๊ะ..คิดก็รู้ว่าคิด..แต่นึกถึงก็ทำให้สุขได้เหมือนกันครับ...รู้สึกชีวิตไม่อนาถา มีที่พึ่งทางใจ...
     ขอบคุณทุกท่านครับที่กรุณาติดตามอ่าน และเป็นกำลังใจให้ หากมีสิ่งไหนที่ทำให้เกิดความรู้สึกว่าไม่ดี ผมก็ขออภัยด้วยนะครับ  _/\_
      ::33:: เป็นกำลังใจให้กับทุกท่านนะครับ  ::33:: ::12:: ::12::
::33::คืนนี้ราตรีสวัสดิ์ ขอให้หลับอย่างมีความสุขใต้ผ้าห่มอุ่นๆทุกคนครับ ::33::
วูบหนึ่งเหมือนลมพัด โบกสะบัดเหมือนลมต้อง แวะเวียนมาเกี่ยวข้อง แล้วต้องพรากจากกันไป

Go Up