Show Posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Messages - MindBeFriend

1
สวัสดีค่ะ คุณAngel   ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะคะ     ขอให้คุณ Angel มีความสุขมากๆนะคะ  :)

คุณพิมพ์พลอย...บางที เราก็คิดไม่บวก  กับตัวเองน่ะ
ประมาณว่า   ไม่เคยมีใครแต่งกลอนให้มาก่อน(บอกว่าในชีวิตนี้  ครั้งแรกนี่แหละ จะเว่อร์ไปไหม แต่เรื่องจริง) 


มีแต่เคยแต่งกลอนให้คนอื่น   เวลาเขียนคำอวยพรเนื่องในโอกาสอำลาเกษียณ  ลาออกจากงาน  ของบุคคลอื่น
ก็แต่งเป็นกลอนสั้นๆ   ไม่กี่บท  แล้วก็ไม่กี่ครั้งเอง   พอมีคนมาแต่งกลอนให้เรา.......เลยเป็นปลื้มน่ะค่ะ  ::01::

ขอบคุณอีกครั้งนะคะ  :-*

หมายเหตุ  ห้ามคุณพิมพ์พลอยบอกให้แต่งกลอนให้บ้างนะ   แหะๆ มันยากมากเลยตอนนี้  แต่อนาคต
อาจจะ  แต่ไม่ขอรับปากน้า   ที่เคยแต่งได้ในอดีต   แบบวาบขึ้นมาในหัวต้องรีบจด  เพราะเดี๋ยวลืม บางทีคิดหัวแทบแตก ก็ไม่ได้   เพราะฉะนั้นการที่คุณพิมพ์พลอยแต่งได้เรื่อยๆแบบนี้    สุดยอดค่ะ ::12::


ปรึกษาคุณ Angel  ถ้าจำไม่ได้ว่าเคยให้ชื่อ  ที่อยู่ ในโครงการนี้ไว้หรือเปล่า   ให้ซ้ำไปอีก จะทำให้ทีมงานปวดหัวหรือเปล่า    ถ้ายังไม่มี    คุณ Angel เตือนมาได้ไหมคะ  หรือว่าให้ส่งไปใหม่ได้เลยดีไหมคะ
2
ตอนนี้คุณพิมพ์พลอย   ไม่ได้เป็นเพียงที่พึ่งแห่งตนอย่างเดียวแล้วน้า

ยังเป็นที่พึ่งให้คนอื่นได้ด้วย.....ขอแอบเกาะเกี่ยว......ตรงไหนดี.....ตรงปลายหัวใจ.....ไว้เป็นแรงใจสักหน่อยนึงนะ....ตัวเราไม่หนักหรอกจ้า  อิอิ
3
สวัสดีค่ะ  เพื่อนๆทุกๆท่าน

หายไปหลายวัน  กลับเข้ามา มีใครต่อใครเข้ามาตอบกระทู้เยอะแยะเลย ..ปลื้มน่ะ  ::115::

อายนิดหน่อยที่ไม่ได้แวะมาเลย......ไม่ได้ คิดบวก คิดบวก  ไม่มีใครว่าหรอกที่หายไป 
เพราะกลับมาแล้วไง ::12::


ขอบคุณ คุณ sun,คุณ brilliantty,คุณ Soey ,คุณsittnn ,คุณ Angel,คุณ admin ,คุณพิมพ์พลอย ที่เข้ามาทักทาย และพูดคุยในกระทู้  การพูดคุยแบบนี้ ทำให้รู้สึกอบอุ่นดีจัง _/|\_



คุณพิมพ์พลอยคะ กลอนเพราะมากค่ะ  ขอบคุณมากเลยที่แต่งกลอนให้ (คิดบวกค่ะ ว่าแต่งให้เรา)


คุณ brilliantty คะขอบคุณนะคะ  สำหรับข้อคิดดีๆ  จะพยายามคิดบวก ให้ได้เรื่อยๆ บ่อยๆ
ให้ทันกับทัศนคติเดิมๆ  รู้สึกมีกำลังใจมากขึ้น ::12::


วันนี้ขออนุญาติคุยแทนการอ่านหนังสือให้ฟัง 1 วันนะคะ 

ขอเก็บความรู้สึกดีๆอย่างนี้ไว้ประทับกับใจนานๆ เอาไว้ชดเชยกับวันที่จิตตก

ดีใจ..เอ๋ย.ดีใจจัง...............อึ่ม ........

ดีใจก็ให้รู้ว่า.......   ดีใจ.....ใจจะได้แกว่งเป็นลูกตุ้มนาฬิกาน้อยลง
4
พอเขียนของตัวเองเสร็จ  เลยเข้าไปอ่านของคนอื่น    บังเอิญเหลือเกินที่หนังสือที่นำมาเขียน  เป็นเล่มเดียวกับที่คุณพิมพลอยเขียนถึง

เห็นด้วยกับคุณพิมพ์พลอย   กับ  ความสงบเย็นที่สัมผัส   เมื่อได้อ่าน

คุณ Angel คะ ขอให้สุขภาพสายตาดีวันดีคืน   หายเร็วๆนะคะ  โอมเพี้ยง... _/|\_
5
สวัสดีค่ะ  ทุกๆท่าน  สวัสดีค่ะคุณ Angel

หนังสืออีกเล่มที่อยากนำมาให้อ่านกัน  ..."หิมะกลางฤดูร้อน" (Snow in The Summer)  ฉบับภาษาไทย
เกิดจากการรวบรวมจดหมายที่ "พระโชติกะ" ชาวพม่า เขียนถึงลูกศิษย์


เรื่อง "ความคิด ความต้องการ"   ค่อยๆอ่านแล้วคิดตามนะคะ :-\



เราควรยอมรับ  ว่าความคิดที่เกิดขึ้นในจิตของเรา   คือความเป็นจริงส่วนหนึ่งในชีวิตด้วย
เพราะจิตให้ความสำคัญกับความคิดที่กำลังเกิดในขณะนั้น   มากกว่าความคิดผิดชอบชั่วดี
ที่มีต่อความคิดนั้น


กระนั้นก็ตาม เราควรจะรับรู้จิตที่กำลังตัดสินผิดชอบชั่วดีต่อความคิดเหล่านั้นด้วย

แทนที่จะกดทับมันไว้   

นี่ละมังที่เรียก  คิดซ้อนคิด   ???


ผู้ที่ยังไม่เคยผ่านอารมณ์รุนแรงราวกับเพลิงแผดเผา    >:(  ย่อมยังไม่สามารถเอาชนะมันได้
มันแค่แอบไปซ่อนอยู่ข้างบ้านอย่างเงียบกริบ  รอเวลา............


การที่เราล้มเลิกอะไรบางอย่าง  ละทิ้งมันไว้เบื้องหลัง   แล้ว.......ลืมเลือนไป

มันมักจะก่ออันตรายอย่างรุนแรง   เมื่อสิ่งที่เราละเลยนั้น.........หวนกลับมาใหม่........

............ด้วยพลังรุนแรงกว่าเดิม


อย่าเอาแต่นั่งทับอารมณ์รุนแรงของตัวเองไว้   แต่ให้พึงเอาสติตามรู้มัน เรียนรู้จักมัน

ด้วย......สติ


เข้าใจว่าเขาให้เรายอมรับความคิดของตนเองที่เกิดขึ้น..............ไม่ว่าจะดีหรือชั่ว
เหมาะสม....หรือไม่ก็ตาม   


เมื่อยอมรับ  แล้วก็ไม่ต้องตัดสิน  .............ชม หรือประนาม  ความคิดนั้น

แต่ยอมรับ   และรับรู้......เท่านั้นเอง

จะทำอย่างนี้ได้............. สติ  เท่านั้น  ที่จะช่วย




6
คุณ Angel คะ    เล่ม1 นี่เพื่อนให้ยืม   อ่านแล้วได้ข้อคิดและโดนมากๆ
ได้ซื้อให้คนอื่นด้วยเช่นกัน

เล่ม 2 อ่านแล้วก็โดนอีก  อ่านรอบเดียวเหมือนกัน 
แล้วก็จำไม่ได้แล้วว่าได้เรียนรู้อะไรบ้าง  มาอ่านจริงๆก็ตอนมาพิมพ์ให้อ่านนี่แหละค่ะ  เหมือนมีคนคอยมาเตือนสติอีกรอบ


ขอบคุณ คุณ wanrawee มากนะคะ   :)   ตอนนี้จะลองพิมพ์แบบสั้นๆ   แล้วเว้นวรรค 

ถ้าอ่านแล้วเป็นอย่างไร  ช่วยเข้ามาบอกอีกนะคะ    จะได้ปรับปรุงให้ดีขึ้นอีก 

ถ้ามีข้อเสนอแนะอย่างอื่นอีก  ยินดีน้อมรับนะคะ    ::01::




วันนี้เท่านี้ก่อนนะคะ  ขอให้มีความสุขสงบ   สาธุ _/|\_



7
ขอบคุณ คุณ Angel มากค่ะ  เดี๋ยวถ้าอบรมอ่านออกเสียงเสร็จแล้ว  จะติดต่อไปตามที่แนะนำมานะคะ  ขอบคุณคุณ sittnn ที่ช่วยแก้ข่าวให้ ขออภัยด้วยที่เข้าใจผิด 

          วันนี้ตั้งใจว่าจะนำข้อความจากหนังสือเข็มทิศชีวิต II มาโพสต์ไว้ตรงนี้เป็นตอนจบ  ต้องขอขอบคุณผู้เขียน คุณฐิตินาถ ณ พัทลุงไว้ตรงนี้ด้วย  หนังสือเล่มนี้อ่านแล้วกระตุกใจได้จังๆหลายตอน  รูปภาพและเล่มก็สวยงามทำให้ไม่เหมือนกินยาขมรักษาโรคทางใจค่ะ  ยาสมัยใหม่นี้ดีที่ชวนให้กิน  บางทีเราไม่หายป่วยซะที ก็เพราะไม่ยอมกินยา หรือกินไม่ครบขนาดนี่เอง  ใจเราก็ยังต้องหลอกๆอยู่ดีเนอะ  หรือจะเรียกว่ากุศโลบาย หรือโยโสมนสิการได้ไหมนี่   

สิ่งแรกที่ต้องทำ....... 
        ทันทีที่เกิดเหตุการณ์  จะเหมือนมีรถบรรทุกวิ่งเข้ามาชนเรา
ถ้าคุณหยุดสงบนิ่ง นอนหลับตานิ่งๆ นั่งนิ่งๆ เคลื่อนไหว หรือเดินช้าๆ เบาๆ คุณจะเห็นว่า ใจของเราไหลเข้าไปรับเหตุการณ์....ความเจ็บปวดก็จะเกิด
        พอเราเห็น  ใจจะปล่อยความคิด ความคิดจะหลุดไป  เหมือนน้ำที่ไหลหล่นจากใบบัว .....ใจไม่เจ็บ....สงบ
       แล้วใจก็จะไหลไปคิดอีก  เจ็บปวดกับอดีต  กังวลอนาคต  เปลองพลังงาน เสียพลังชีวิต  เอาใจเข้าไปรับมาก....ก็เจ็บมาก   รับน้อย.......ก็เจ็บน้อย....

      สิ่งแรกที่ต้องทำ  คือกลับสู่บ้านภายในตัวเอง   ::33::กลับมาอยู่กับลมหายใจ กับการเคลื่อนไหวของกายของใจ  อยู่กับสิ่งที่เกิดขึ้นภายในจิต

    เวลาที่เกิดเรื่องร้ายๆในชีวิต  :'(เป็นขณะที่ต้องการความคิดความรู้สึกดีๆ เพื่อยกเราออกจากหลุมขยะให้เร็วที่สุด  เป็นขณะที่ใจรู้สึกแย่ คิดแย่ พูดแย่ :-X ชีวิตก็ยิ่งหมุนลงต่ำ  :(แต่ใจต้องการอาหารทุกขณะ  ขณะนั้นอาหารจานไหนเด่นที่สุด  ใจก็จะกินอาหารจานนั้น  ถ้าความทุกข์เด่น  ใจก็เสพความทุกข์ เสพเรื่องราวปัญหาเป็นอาหาร  วิธีการช่วยเหลือตัวเองก็คือ จัดอาหารเด่นจานใหม่ให้ใจ ::12::

     คุณเพิ่งถูกรถบรรทุกขยะชนมาจนตัวเน่าเหม็นไปหมด ???  คุณก็ต้องทำการทั้งล้างตัวเองใหม่และแกะขยะออก  เลือกสิ่งเราจะเป็น  เลือกความสุขที่ไม่มีโทษ  เช่นการให้ การให้อภัย การรักษาการกระทำ  คำพูดดีงาม  การภาวนาให้จิตใจมีกำลัง มีความเข้าใจ และยกระดับชีวิตตัวเองขึ้นไป

       วิธีที่ง่ายที่สุดคือ  ยกระดับจิตใจตัวเอง  _/\_เพราะเราเห็นโลกอย่างที่จิตเราเป็น โลกเปลี่ยนตามจิตที่เราเปลี่ยน  ใจคิดเรื่องชั่วๆ เพราะขณะนั้นเรื่องชั่วๆกำลัง    ใจคิดเรื่องเศร้าๆ เพราะไม่มีเรื่องอื่นเด่นกว่า  ให้คิดจุดที่มั่นคงเป็นอิสระที่สุด   คือว่างจากความคิด แต่เวลาที่มันไม่ว่าง มันจะคิด  ถึงตอนนั้น ก็ให้มันคิดสิ่งที่เป็นประโยชน์ ดีงาม พอมันคิดไม่ดี ก็ให้เห็นทันไวๆ

     คุณภาพของจิตใจเป็นทุกอย่าง  เป็นเกราะ  เป็นอาวุธ เป็นแก่นแท้เพียงอย่างเดียวในชีวิตเรา

ให้ลองสังเกตตัวเองเถิด  ......ในเวลาที่เกิดวิกฤตรุนแรงในชีวิต  แล้วเหมือนเราล้มซวนเซลง ....เราเริ่มต้นสร้างชีวิตใหม่ให้ตัวเราได้อย่างไร

และแล้วก็จบแล้ว  สำหรับหนังสือเล่มนี้  การนำเรื่องราวดีๆที่เราได้อ่านมาพิมพ์ให้เพื่อนๆได้อ่านกัน  เราว่ามันช่วยให้เราได้"อ่าน"มันอีกครั้งหนึ่งอย่างจริงจัง   พิมพ์ไปพิจารณาไป  เราคิดว่าเราเริ่มจะพอจับจุดบางอย่างในชีวิตได้นิดๆ  พอเห็นลางๆ  ซึ่งก็ต้องทำต่อไปให้มันเด่นชัดขึ้น  จนได้เป็นหลักให้ใจหมุนรอบมาให้ทันกัน

จะพยายามเข้ามาพิมพ์เรื่องราวดีๆ คำพูดดีๆ มาเป็นข้อคิด กำลังใจให้เพื่อนๆจนครบโครงการให้ได้ค่ะขอกำลังใจจากเพื่อนๆด้วยนะคะ   ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน มาตอบข้อความ มาเสนอแนะ ให้ข้อมูล และที่สำคัญ....กำลังใจ...  ขอบคุณด้วยใจจริงค่ะ _/|\_ _/|\_ _/|\_
8
กลับมาอีกครั้งค่ะ  หลังจากได้อ่านจาก Dharma@Hand Lite ว่าเหลืออีก 2 วัน โครงการนี้จะหยุดแล้ว  ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านและให้กำลังใจ  คุณแองจี้คะ  หนังสือเสียงนั่นก็เป็นอีกอย่างหนึ่งที่สนใจ  กำลังจะไปอบรมการอ่านออกเสียง เพื่ออ่านหนังสือเสียงค่ะ  ถ้ามีที่ไหนต้องการรับคนอ่านเพื่อทำหนังสือเสียง  รบกวนช่วยบอกด้วยนะคะ  ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

  สองวันที่เหลือขอนำเรื่องราวของคุณฐิตินาถ ณ พัทลุงมาลงให้ครบตามความตั้งใจนะคะ

[/size] สิ่งสุดท้ายที่ยังเหลืออยู่  (แม้ว่าดูเหมือนจะหมดแล้วทุกๆอย่าง :'()

ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในชีวิต แม้ในยามที่ไม่เหลืออะไร สิ่งหนึ่งที่เราต้องมีคือ  ศรัทธาในตัวเอง _/|\_

ศรัทธาในตัวเองไม่ได้เกิดจากความคิด หรือการสร้างภาพลมๆแล้งๆ  แต่เกิดจากการตรวจสอบการกระทำและความคิดของตัวเอง  เกิดจากความนับถือในแก่นแท้ในสิ่งที่เราเป็นได้จริงๆ

เราต้องจริงใจกับตัวเองมากพอที่จะรักษาขัดเกลาความคิด  การกระทำคำพูดของเราแต่ละขณะ  เพื่อให้เรานับถือ  และมีศรัทธาในตัวเองได้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็มีศรัทธามั่นคงในสิ่งที่ผ่านมา

มองย้อนในอดีต ก็เห็นสิ่งที่เราทำเป็นความดีงาม เป็นประโยชน์เป็นของจริง ที่หากใครจะสร้างภาพบิดเบือนก็เป็นได้แค่คำพูด แต่ข้อเท็จจริงเป็ฯประจักษ์พยานรับรองที่จับต้องมองเห็นได้

อดีตของมนุษย์ไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบ แต่เราต้องรู้ชัดว่าเราทำสิ่งต่างๆด้วยเจตนาดีงาม ทำเต็มกำลังสติปัญญา ขัดเกลาพัฒนาจิตวิญญาณของตัวเองจนเกิดผลลัพธ์ดีงามในชีวิตตนและคนอื่น

มองไปในอดีตก็อบอุ่นใจ
มองไปในอนาคตก็รู้ว่าเรามีชีวิตอยู่เพื่ออะไร
มีเป้าหมายที่จะขัดเกลาพัฒนาตนเอง ค้นพบศักยภาพของตัวเองผ่านความสุขความทุกข์ ผ่านปัญหาและโอกาส ผ่านความสำเร็จและล้มเหลว แล้วเข้าถึงศักยภาพสูงสุดของความเป็นมนุษย์ สร้างประโยชน์แก่ตนเองและโลก

เหลืออีกวันเดียว จะพยายามทำให้ต่อเนื่องค่ะ
9
สวัสดีค่ะ  ทุกท่าน หายไปหลายวันด้วยภารกิจ  รีบเข้ามาทำหน้าที่ที่ตั้งใจก่อนเมื่อมีโอกาสค่ะ  ขอบคุณเพื่อนๆที่เข้ามาอ่านและตอบกลับ    แค่บอกว่าอ่านแล้วโดน หรืออนุโมทนาให้  _/\_ รู้สึกใจพองขยาย ความขี้เกียจหายไปได้ชั่วขณะ  รีบเขียนตอนใจฟูก่อนดีกว่า

วันนี้เป็นเรื่องวิกฤติชีวิต ของคุณฐิตินาถ  ณ พัทลุงค่ะ

วิกฤตที่รุนแรงที่สุดในชีวิต  มักจะเกิดขึ้นในเวลาที่เราคาดไม่ถึง  ในที่ที่เราคาดไม่ถึง และจากคนที่เราคาดไม่ถึงที่สุดเสมอ.....แน่นอน  เพราะถ้าเราคาดถึง มันก็จะไม่รุนแรงที่สุดในชีวิต  (อันนี้น่าคิดนะ  ลองอ่านซ้ำอีกรอบ  อาจจะเห็นอะไรระหว่างบรรทัด)  เพราะอะไรชีวิตถึงต้องบีบวงเข้ามาทุกด้าน...........จักรวาลมีเหตุผลที่ดีที่สุดเสมอ    (แต่เราอาจจะยังไม่เห็นด้วย)..........ลองรับฟังวิธีคิดใหม่ๆดูนะ
   
       การมีชีวิตที่ยอดเยี่ยม  มีความสุข    ไม่ได้แปลว่าต้องมีแต่สิ่งดีๆเกิดขึ้นในชีวิตตลอดเวลา  แต่...คือ...การที่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น  เราก็สามารถรู้ความจริง มีความสุข มีชีวิตที่เติบใหญ่ มีพลัง มั่นคง เป็นอิสระในทุกสถานการณ์ (ถ้าใช้สำนวนของเราจะพูดว่า   ความสามารถที่จะหาความสุขจากความทุกข์ที่ประสบอยู่)

      เราเรียนรู้ได้ ทั้งจากเรื่องดีและเรื่องร้ายในชีวิต

      ไม่เคยมีใครล้ม  แต่ทำไมคนบางคนล้มแล้วลุกขึ้นยืนใหม่ได้รวดเร็ว แถมยังมีความสุขที่ยิ่งใหญ่  เป็นอิสระ มีพลังทำประโยชน์ อย่างมีคุณค่า มีความหมายและงดงามกว่าเดิม

      มีกฏอะไรในโลกที่คนบางคนรู้  แล้วทำให้ทั้งเหตุการณ์ดีและร้าย  กลายเป็นของขวัญี่ทำให้ชีวิตของเราเติบโต มีความสุขอย่างแท้จริง???
     
     โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ

ขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆท่านที่ตั้งใจอธิษฐานจะทำอะไรใหม่ๆให้ชีวิตในช่วงเข้าพรรษานี้    ให้มีความหวัง พลังใจ ที่จะเปลี่ยนแปลงค่ะ 

      แม้หมด  หวังหมด  คิดหมดหวัง
     เกิดจิตตั้ง  ตั้งจิต   ให้คิดใหม่
     แม้ผิดหวัง  หวังผิด เลิกหวังทำไม
    (แม้จะ)ล้มลุกใหม่  ลุก(แล้ว)ล้มใหม่ (ก็)ลุกใหม่เอย (ไม่เห็นเป็นไรเลย แค่ลุกขึ้นมา ก็เท่านั้นเอง) ::33::สู้ๆค่ะ

เป็นกลอนที่อ่านเจอนานแล้ว ไม่ทราบชื่อผู้แต่งค่ะ 



10
 :D  _/\_ขอบคุณมากค่ะ สำหรับคำอนุโมทนาและกำลังใจที่มอบให้

วันนี้ไปงานเลี้ยงกลับมาดึก  ตัวขี้เกียจเริ่มมาทักทาย  อ้างว่า คนอื่นจะรู้ว่าเรานอนดึกดูไม่ดี  แต่อีกใจก็คิดว่าเราตั้งใจแล้วไม่ใช่หรือ   :-\พิมพ์อีกเดี๋ยวเดียวก็เสร็จ  ขี้เกียจก็พิมพ์น้อยหน่อยซี  :P  แค่เรื่องนี้ก็คิดไปได้อีกไกล  ปรุงแต่งได้อีกเยอะ ต่อรองก็มาก

มาอ่านกันดีกว่า วันนี้มาอ่านของคุณฐิตินาถ ณ พัทลุง จาก เข็มทิศชีวิต II

  พวกเราต้องการเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมภายนอก  เราต้องเปลี่ยนปรับปรุงสิ่งที่เป็นเราในใจ

ถ้าหากเราต้องการเปลี่ยนแปลงเพลงที่เราได้ยิน  เราต้องวิ่งไปเปลี่ยนแผ่นซีดีในเครื่องเล่น   ถ้าเราต้องการแก้ไขคำผิดในเอกสารคอมพิวเตอร์พิมพ์ออกมา  เราต้องไปแก้บทความในเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เราพิมพ์มันลงไป  การลบคำผิดบนกระดาษปกปิดได้ชั่วคราว  พิมพ์ออกมาใหม่ก็ยังผิดเหมือนเดิม

            ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งแวดล้อมเราภายนอก  เป็นภาพสะท้อนความจริงแท้ในใจเราเองที่เราเองอาจจะไม่รู้ตัว       ผลลัพธ์ไม่เคยโกหก  ผลลัพธ์เที่ยงตรงและแม่นยำเสมอ

             ถ้าเรารู้ซึ้งว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นภายนอกเปลี่ยนแปลงเป็นสัดส่วนโดยตรงเป็นภาพสะท้อนของสิ่งที่อยู่ภายใน  เราจะรู้เลยว่าสิ่งเดียวที่เราควรระวังไม่ใช่ว่าคนอื่นคิดอย่างไรกับเรา แต่ว่าระวังว่าเรากำลังคิดอะไรอยู่  ความคิดที่ลับที่สุดของเราคืออะไร  เราคิดยังไงกับตัวเอง (ขยายความคือว่าคิดดูถูกตัวเอง  ลงโทษตัวเอง ไม่ศรัทธาในตัวเอง ไม่เห็นคุณค่าในตัวเอง ลำเอียงเข้าข้างตัวเอง   เหล่านี้ทำให้เราไม่มีพลังที่จะใช้ในการเปลี่ยนแปลงด้านใน  หรือไม่ก็ไม่เปลี่ยนเพราะไม่เห็นว่าทำไมต้องเปลี่ยน)

              เพราะทุกอย่างในชีวิตจะเกิดขึ้นเปลี่ยนแปลง  สอดคล้องกับสิ่งเราคิด คือสิ่งที่เราเป็นภายในชีวิตเรา

   

              อาจเป็นเพราะตัวเองเป็นคนช่างคิด  พออ่านอะไรแบบนี้แล้วโดน  แต่อาจเป็นที่ปวดหัวของบางท่านได้   


ความตั้งใจสองวัน เสร็จเสียที รอดูต่อไปว่า จะทำต่อไปได้ไหม จะถูกจิตใจฝ่ายขี้เกียจดึงอีกไหม  ต้องเตรียมพลังไว้สู้หน่อยละ   ::12::
11
โพสต์ไปแล้ว ก็เรียนรู้ตัวเองว่าจิตใจนี้ซับซ้อนและปรุงแต่งมากมาย   สิ่งที่อยากทำเพื่อแก้ไขตัวเองก็คือ อยากให้ใจตัวเองเกาะเกี่ยวแต่เรื่องดีๆมีประโยชน์  จึงอาสาว่าจะหาคำพูดดีๆ เรื่องราวดีๆมาให้เพื่อนได้อ่านค่ะ เพราะตัวเองจะต้องอ่านก่อนค่ะ
12
จงเป็นมิตรกับจิตใจของตัวเอง ด้วยท่าทีที่ถูกต้อง  จากพระไพศาล  วิสาโล


เรารักตัวเองแต่ให้อยู่กับตัวเองคนเดียวนานๆเป็นเรื่องลำบาก เพราะทนอยู่กับความรู้สึกนึกคิดของตัวเองไม่ได้   ธรรมชาติของใจชอบคิดปรุงแต่งไปเรื่อย ทำให้ฟุ้งซ่าน ต้องหา  "อะไร" ทำหรือมาเป็น "เพื่อน"  เพื่อ "หนี" ออกไปจากตัวเอง 

การที่เราปล่อยจิตปล่อยใจตามอารมณ์ความรู้สึกที่กระเพื่อมขึ้นลง ฟู แฟบ ไม่ต่างจากการตามใจลูกตามใจเด็กจนเสียคน กลายเป็นเด็กเกเร     แม่ที่รักลูกอย่างถูกต้อง ถึงลูกจะเกเรจะป่วนอย่างไรก็จะอยู่กับเขาได้ รู้วิธีรู้อุบายที่จะทำให้เขาสงบลงได้  จิตใจของเราก็เช่นกัน  ที่ผ่านมาเราก็ปล่อยให้เป็นจิตใจอันธพาล  ชอบหาความทุกข์ใส่ตัว  แม่ที่ฉลาดและมีเมตตา ก็จะรู้วิธีที่จะไม่ตามใจเด็กน้อย   แต่ว่าสอนและอยู่กันด้วยความรักและความเมตตาไม่ผลักไสแต่ก็ไม่ตามใจ


วันนี้เราเป็นมิตรกับจิตใจตัวเราเองด้วยท่าทีที่ถูกต้องแล้วหรือยังคะ

ขอให้มีความสุขทุกๆคนค่ะ