ทำในรูปแบบทุกวัน รักษาศีลห้าให้มั่นคง

Started by ทานตะวัน, August 04, 2009, 12:57:54 pm

previous topic - next topic
Go Down

ทานตะวัน

ตั้งใจไว้ว่าอย่างน้อยที่สุดสองวันนี้จะ

๑. เดินจงกรมวันละสองช.ม.เป็นอย่างน้อย(เพราะว่างๆอยู่แล้ว)
๒. ไม่บ่นสามี (ศีลข้อสี่)
๓. ไม่ตีไอ้ตัวเล็กที่ชอบขับถ่ายนอกกรงเอย ซนจนข้าวของเละเทะเอย (ศีลข้อหนึ่ง)
๔. จะพยายามไม่เผลอเอ่ยถึงคนอื่นในทางที่ไม่ดี แม้จะแค่อยากระบายก็ตาม
๕. จะพยายามไม่จมกับความหดหู่ ด้วยการหันมาทำสิ่งที่ทำให้ใจสว่าง
๖. จะอ่านหนังสือเตรียมสอบภาษาให้ได้ทุกวัน(ยอมเว้นให้เฉพาะวันเสาร์อาทิตย์) - ปีนี้ฉันต้องสอบผ่านให้ได้!

และสุดท้ายนี้...
๗. จะไม่ย่อหย่อน หรือหาข้ออ้างให้ตัวเองในสิ่งที่กล่าวมาข้างต้น

:D กว่าจะมาเขียนในนี้ได้ ทำใจตั้งนาน
ที่ผ่านมา เคยตั้งใจจะทำแล้วไม่เคยทำได้รอดสักที จนรู้สึกเลยว่าการที่เราไม่มีสัจจะบารมีมันมีส่วนทำให้เรารู้สึกไม่นับถือตัวเองได้ขนาดไหน และรู้สึกแย่กับตัวเองยิ่งขึ้นได้ขนาดไหน เลยรู้สึกว่า "ปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้ซะแล้ว!"

สองวัน ฉันต้องทำได้สิ! (และถ้าทำได้สองวันแล้ว ทำไมวันต่อๆไปฉันจะทำเพิ่มอีกสักวันไม่ได้ 8))

panapien

คุณทานตะวันกล้าหาญและมุ่งมั่นมากเลยค่ะ
ดิฉันเอาใจช่วย
แค่ตั้งใจก็บังเกิดบุญอันยิ่งแล้ว ทำให้ได้นะคะ
สู้ๆๆๆ

ทานตะวัน

ขอบคุณมากค่ะ _/\_ ดีใจจัง รู้สึกได้กำลังใจเต็มเปี่ยมเลย  ::33::

Angel

ขออนุโมทนาบุญกับคุณทานตะวันด้วยค่ะ Angel เพิ่งเห็นคุณเป็นคนแรกที่ตั้งสัจจะอธิษฐานหลายข้อแบบนี้ รู้สึกปลื้มมากเลยค่ะที่มีคนตั้งใจมุ่งมั่นแบบคุณ ขอให้คุณทำสำเร็จทุกข้อนะคะ แต่อย่าเครียดมากไป ทำแบบสบายๆ แล้วทุกอย่างจะเป็นไปเองตามธรรมชาติค่ะ

Angel อยากขอ share เรื่องบางอย่างให้คุณทานตะวันฟังเหมือนกันค่ะ เมื่อตอนต้นปี เราคิดว่าเราจะทำความดีทุกวัน ก็เลยหาสมุดน่ารักๆ มาจดใช้ชื่อว่า สมุดทำความดีของ Angel วันไหนที่เราทำความดีอะไร ไม่ว่าจะเป็นการช่วยคุณแม่ล้างจาน แบ่งปันหนังสือให้เพื่อนที่ทำงานอ่าน หรือกดลิฟท์ให้คนที่ทำงานร่วมตึกเดียวกัน ช่วยจูงเด็กเล็กๆ ลงบันได เป็นต้น เราก็จะจดลงสมุดตลอดแม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยก็ตาม จนตอนนี้ผ่านมาครี่งปีกว่าแล้ว สิ่งนี้กลายเป็นธรรมชาติของตัวเราไปแล้ว และอาจจะติดเป็นนิสัยไปแล้วด้วย จนตอนนี้เราไม่ต้องเขียนลงในสมุดแล้ว แต่ใช้บันทึกลงในใจแทน เมื่อไหร่ที่มีโอกาสทำความดี Angel จะรีบเข้าไปช่วยโดยไม่รีรอเลยค่ะ เพราะการช่วยเหลือผู้อื่นก็เป็นการทำบุญอย่างหนึ่ง แถมได้บุญเหมือนการทำบุญด้วยเงินด้วยนะคะ

ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้คุณทานตะวันทำสำเร็จนะคะ จะเอาใจช่วยอีกคนค่ะ สาธุ  _/|\_ ::02::

sittnn

อนุโมทนาครับ ขอให้ทำสำเร็จดังที่ตั้งใจอธิษฐานเอาไว้นะครับ
ถ้ารู้สึกมากหรือเครียดเกินไปอาจปรับให้พอสมควรตามความเหมาะสมได้นะครับ
เป็นกำลังใจให้ครับผม  _/\_ ::01:: ::33::
-- เมตตาคือไมตรี --

Angel

เป็นกำลังใจให้คุณทานตะวันค่ะ ผลของการปฏิบัติเป็นอย่างไร เขียนมาเล่าสู่กันฟังบ้างนะคะ  ::01::

Aims

ขออนุโมทนานะคะ
อย่าลืมมาเล่าให้พวกเราชาวกองเชียร์ฟังบ้างนะคะ  o_kiss
"มาตา ยะถา นิยัง ปุตตัง อายุสา เอกะปุตตะมะนุรักเข เอวัมปิ
สัพพะภูเตสุ มานะสัมภาวะเย อะปะริมาณัง เมตตัญจะ
สัพพะโลกัสมิง มานะสัมภาวะเย อะปะริมาณัง"

"คนเราพึงแผ่ความรักความเมตตาไปยังสัตว์ทั้งหลาย หาประมาณมิได้
ดุจดังมารดาถนอมและปกป้องบุตรสุดที่รักคนเดียวด้วยชีวิต
ฉะนั้นพึงแผ่เมตตาจิตไปไม่มีขอบเขต ไม่คิดผูกเวร ไม่เป็นศัตรู
อันหาประมาณไม่ได้ ไปยังสัตว์โลกทั้งปวงทั่วทุกสารทิศ"


ทานตะวัน

สวัสดีค่ะ

ผ่านไปสองวันปรากฎผลดังนี้
๑. เดินจงกรมวันละสองช.ม.เป็นอย่างน้อย

ทำสำเร็จค่ะ! แต่ว่าเดินแล้วมึนๆ จิตไม่ตั้งมั่น รู้ว่าจิตไม่ตั้งมั่น รู้ว่าคงทำอะไรผิด หรือเผลอไปเพ่ง แต่ไม่หายค่ะ เดินมาสองวัน รู้สึกจะตื่นอยู่แค่ไม่ถึงนาที

แต่ก็ช่วยให้ระหว่างวันสนใจตามดูตามรู้มากขึ้นนะคะ

๒. ไม่บ่นสามี (ศีลข้อสี่)

วันแรก แอบบ่นแบบรู้ตัวหลังปากอ้าไปได้หนึ่งวิ เห็นปากขยับ เห็นคำพูดออกมาจากปาก ใจคิด "จนได้" พอใจไปเห็นอะไรพวกนี้เข้าก็รู้สึกว่าเหมือนโทสะจะไม่ครอบอยู่ในคำพูดคำบ่นของเราน่ะค่ะ

ว่าแต่วันนี้ (ที่ไม่ได้อยู่ในแพลน) บ่นจนได้ค่ะ โกรธมาก สามีคงเผลอหยิบเอาข้าวกลางวันเราติดมือไปที่ทำงาน อุตส่าห์แบ่งไว้สองกล่องแล้ว คงนึกว่ากล่องนึงข้าว กล่องนึงกับมั้ง โกร๊ธโกรธ อุตส่าห์ตั้งใจทำ (เมตตาเลยแปรเป็นโทสะซะงั้น) เมสเสจไป สามีทำงานอยู่เลยไม่ได้ดู เลยโทรไปเลย "คุณเอาข้าวกลางวันชั้นไปไหน" "ขอโทษนะ ผมหยิบติดมาด้วย" ตอนโทร ในใจก็บอกนะว่า "ไหนว่าจะไม่บ่นไง" แต่อีกใจไม่ยอมฟัง ทนไม่ไหวแล้ว มันอยากบ่นอ้ะ อัดอั้นตั้นใจ

แย่จัง จริงๆใจมันอัดอั้นตั้นใจ เรามีหน้าที่ดูใจ ไม่ใช่ดูคนที่ทำให้เราโกรธนี่ แล้วโกรธไปได้อะไรขึ้นมาหว่า แก้ปัญหาอะไรก็ไม่ได้ แถมหลุดออกมาทางกายวาจาแล้วเอาคืนไม่ได้ด้วยนะ

ว่าแล้วก็ตั้งใจจะขอโทษสามี และจะเก็บคราวนี้เป็นบทเรียนไว้สอนตัวเอง ไม่ให้ทำพลาด และจะดูกายดูใจให้มากกว่านี้ค่ะ

หนูผิดไปแล้วค่าา ขอโทษนะ ฮือๆๆๆๆๆ

๓. ไม่ตีไอ้ตัวเล็กที่ชอบขับถ่ายนอกกรงเอย ซนจนข้าวของเละเทะเอย

วันแรก มือง้าง แต่นึกได้ มือเลยค่อยๆเคลื่อนช้าลงมาวางอยู่บนตัวมัน แล้วก็ปล่อยไป

วันที่สอง มันโดนเตะเบาๆแทน

วันที่สาม(ที่จริงไม่เกี่ยว) มันโดนเอ็ดเฉยๆ

๔. จะพยายามไม่เผลอเอ่ยถึงคนอื่นในทางที่ไม่ดี แม้จะแค่อยากระบายก็ตาม

เหมือนวันแรกจะหลุดไปนะคะ โกรธเพื่อนคนนึงอยู่ ตอนนั้น พอหลุดไปก็นึกได้ แล้วบอกตัวเองว่าจะไม่ทำอีก

๕. จะพยายามไม่จมกับความหดหู่ ด้วยการหันมาทำสิ่งที่ทำให้ใจสว่าง

ทำได้ค่ะ ไปเดินจงกรมบ้าง ไปเดินเล่นสวนสาธารณะบ้าง ซื้อกับข้าวบ้าง

๖. จะอ่านหนังสือเตรียมสอบภาษาให้ได้ทุกวัน(ยอมเว้นให้เฉพาะวันเสาร์อาทิตย์)

ส่วนใหญ่มาอ่านก่อนนอนทุกทีเพราะว่ากิจกรรมอย่างอื่น และความจำเป็นเร่งด่วนส่วนอื่นๆทำให้หมดเวลา แต่พบว่าการตั้งสัจจะแล้วทำเนี่ย ทำให้ตั้งใจอ่านมากกว่าเวลาที่ไม่ได้ตั้งสัจจะเยอะเลย แม้จะเวลาสั้นๆแต่ก็มุมานะ ส่วนนอกนั้น อ่านไปใจลอยไปบ้าง ทำอย่างอื่นเล่นไปด้วยบ้าง ไม่ค่อยได้อะไร

และสุดท้ายนี้...
๗. จะไม่ย่อหย่อน หรือหาข้ออ้างให้ตัวเองในสิ่งที่กล่าวมาข้างต้น
ข้อนี้ทำได้นะ ไม่ได้เจตนาย่อหย่อน หรือหาข้ออ้างไม่ทำ แต่บางทีอารมณ์มันกินเรา เราเลยพลาด ต่อไปนี้จะดูกายใจให้มากขึ้น

เอาล่ะ สรุปบทเรียนแล้ว ขอตั้งสัจจะใหม่ดังนี้
"จะทำเจ็ดข้อที่ว่านั้นให้ได้ ยกเว้นเดินจงกรมลดเหลือวันละช.ม.เป็นอย่างน้อย (เพราะเวลาไม่ค่อยอำนวย) และจะพยายามตามดูตามรู้กายใจระหว่างวันให้มากเท่าที่จะนึกได้"

เอาตั้งแต่วินาทีนี้ถึงวันศุกร์ค่ะ

อ้า(เสียงแบบกินโค้กซ่าๆ)! ได้ทำตามสัจจะ(แม้จะยังไม่ครบ)แล้วรู้สึกดีเหลือเกิน อย่างน้อยมันก็ทำให้ใจฮึกเหิมมุ่งมั่นนะ

ขอบพระคุณโครงการดีๆนี้ รวมทั้งพี่ตุลย์ที่เป็นผู้ให้ทางสว่าง และทุกท่านที่มาให้กำลังใจค่ะ  _/\_

อนุโมทนาทุกๆท่านนะคะ  ::33::

Angel

อนุโมทนากับคุณทานตะวันด้วยจริงๆค่ะ เป็นกำลังใจให้คุณทำได้สำเร็จตลอดไปนะคะ อ่านบางหัวข้อแล้วก็อดขำไม่ได้ รู้สึกตามไปกับคุณด้วย เช่น เรื่องกล่องข้าวที่สามีหยิบติดไป คิดซะว่าสามีจะได้ทานฝึมืออร่อยๆ ของคุณเพิ่มขึ้นก็ดีนะคะ ส่วนเรื่องน้องหมาที่ซน อ่านแล้วก็คิดถึงน้องหมาที่บ้าน ตอนเล็กๆ เขาก็ซนแบบนี้แหละค่ะ แต่ตอนนี้เริ่มแก่แล้ว แถมเป็นเบาหวานอีก Angel และทุกคนในครอบครัวรักน้อง Brownie (เป็นผู้หญิงค่ะ) มากเลย ไม่อยากให้น้องทรมาน อยากให้เขาซนได้เหมือนก่อน ตอนนี้เล่นน้อยลง เอาแต่นอน ส่วนใหญ่ Angel จะเป็นคนทำข้าวให้เขากิน และพาเขาไปทำธุระส่วนตัว และที่สำคัญ ฉีดอินซูลิน เช้าเย็นค่ะ แต่ต้องมีคนช่วยจับอีก 2 คน เพราะน้องเขาไม่ยอมให้ฉีดง่ายๆ กลัวเข็มฉีดยาค่ะ แถมตอนนี้ก็ตาบอดอีก เพราะเบาหวานขึ้นตา ตอนนี้น้องหมาของคุณซุกซน ก็ขอให้ค่อยๆ สอนเขาไปเรื่อยๆ นะคะ อย่าไปตึเขาถ้าไม่จำเป็น เพราะเขาจะงอน และไม่ยอมเข้าใกล้เราอีก เหมือนน้องหมาที่บ้านค่ะ แค่พูดว่าเขา เขาก็งอนแล้ว ไม่ยอมมาให้เรารักเลย แต่ไปง้อก่อนถึงหาย ไม่รู้เป็นคนหรือหมากันแน่  ::02::

sittnn

อนุโมทนาครับ  _/\_ ::01::

เวลาทำได้ดังที่ตั้งใจไว้ แม้จะยังขาดบ้างก็ตาม แต่ก็ทำให้เรามีกำลังใจมีพลังในการทำสิ่งต่างๆเพิ่มมากยิ่งๆขึ้น
นี่ก็คือเป้าหมายอย่างหนึ่งของโครงการนี้ครับ แสดงว่าบรรลุตามจุดประสงค์บ้างแล้ว  ::33:: ::115::

สองวันต่อไป ขอให้ทำในสิ่งที่ตั้งใจอธิษฐานไว้ให้สำเร็จอีกนะครับ
อนุโมทนาและเป็นกำลังใจให้อีกเช่นเคยครับ  _/\_ ::01::

มีเรื่องหนึ่งที่คุณ Angel กล่าวไว้น่าฟังคือเรื่องความคิดของเรา
ในเหตุการณ์เหมือนๆกัน ถ้าคิดให้ทุกข์ก็ทุกข์ได้ แต่ถ้าคิดให้สุขก็มีความสุขได้เช่นกัน
ลองอ่านตรงนี้ดูกันนะครับ เผื่อจะปิ๊งไอเดียทำให้ใจเป็นสุขง่ายยิ่งขึ้นครับ  _/\_ ::01::

http://www.larndham.net/wimutti/board/D00000097.html
-- เมตตาคือไมตรี --

Angel

ได้อ่าน weblink ที่คุณ sittnn ส่งมาแล้ว รู้สึกดีมากเลยค่ะ เพราะส่วนใหญ่เราจะได้รับการบอกให้คิดในแง่ดีมาตลอด เพื่อให้เราเป็นคนจิตใจดี ไม่ผูกเวรกับใคร และมีความสุข

แต่ถ้าต้องการพ้นทุกข์ ต้องคิดในแง่ความเป็นจริง เพื่อละทิ้งอัตตา ปล่อยวางได้ ไม่เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางของทุกสิ่ง เพราะไม่มีเราจริงๆ ร่างกายนี้เป็นสิ่งที่เรายืมธรรมชาติมา วันหนึ่งเราก็ต้องคืนกลับไป แต่ทำไมคนสมัยนี้ถึงแบ่งเราแบ่งเขามากจัง ทำให้เกิดปัญหาระดับสังคม ระดับประเทศ
ถ้าพวกเขาได้ฝึกจะรู้ว่า เราจะแย่งชิงกันไปทำไม ในเมื่อไม่มีใครเอาอะไรไปได้ นอกจากบุญกับบาปเท่านั้น  ::02::

sittnn

-- เมตตาคือไมตรี --

Angel

คุณทานตะวันสบายดีรึเปล่าค่ะ รอฟังความคืบหน้าอยู่นะคะ และเอาใจช่วยด้วยค่ะ  ::02::

sittnn

อิอิ กองเชียร์มาช่วยรอลุ้นกันอยู่
มีอะไรก็นำมาเล่าสู่กันฟัง แบ่งประสบการณ์กันอีกนะครับ
อนุโมทนาครับผม  _/\_ ::01:: ::33::
-- เมตตาคือไมตรี --

Go Up